บารมี 30 ทัศน์

บารมี 30 ทัศน์

349
0
แบ่งปัน

******* “บารมี 30 ทัศน์” *******

หวัดดีน้องๆทั้งหลาย..

มีพระรูปหนึ่งได้เดินทางมาหา เขาบอกว่า เขานี่ได้บำเพ็ญบารมีมาครบ 30 ทัศน์แล้ว บารมีเขาเต็มเท่าพระพุทธเจ้าแล้ว เขาอยากสละพุทธภูมิ

ขอพระอาจารย์ได้โปรดชี้แนะ..!!

ข้าถามว่า..ควยท่านยังแข็งอยู่รึเปล่า

เขาก้มหน้านิ่ง ดูเหมือนไม่สพอารมณ์ในคำในภาษาที่กระทบโสต

เย็ดหีครั้งสุดท้ายเมื่อใหร่..!! จำได้ไม๊..!!

เขาตกใจและจ้องมองหน้า ไม่คิดว่า จะเจอคำถามเช่นนี้ ออกจากปากพระที่เขาได้เดินทางมาหา

เขาถามเสียงเครียดว่า…ผมมาเพื่อให้พระอาจารย์ชี้ธรรม ไม่ได้มาเพื่อตอบคำถามลามกเหล่านี้..!!

ก็ข้ากำลังชี้อยู่ไง ข้าถึงได้ถามแก เจ้าหนุ่ม..!! ข้ามองหน้าแล้วตอบไป

ชี้แบบไหน..!! ชี้ด้วยคำถามต่ำๆที่ไม่สมควรพูดออกมาจากพระผู้ทรงคุณเช่นนี้หรือ..!! เขาก้มหน้าและพูดอย่างไม่สบตา

ข้าจึงตอบว่า..ก็ในเมื่อแกบำเพ็ญมาดี บำเพ็ญมาครบได้บารมีทั้ง 30 ทัศน์ แกไม่รู้หรือ ว่าสิ่งที่กระทบโสตแก..มันเป็นสมมุติภาษา

แค่สมมุติภาษา แกก็ยังสะเทือน ยัดเยียดความคิดของแก มาใส่ให้ข้า ว่าต้องประเสร็ฐเช่นนั้นประเสริฐเช่นนี้

อะไรคือบารมี 30 ทัศน์แกรู้ไหม หรือแกอ่านตำราแล้วจำๆกันมาว่า บารมี 30 ทัศน์ มันเป็นอย่างนั้นมันเป็นอย่างนี้

แกถึงได้เอาตัวเข้าไปเป็นเจ้าของ แล้วบอกใครๆและเข้าใจว่า ตัวแกเองมีบารมีเท่าพระพุทธเจ้า

ถ้าแกคิดว่า แกมีบารมีเท่าพระพุทธเจ้า ข้าก็ขอสาธุคุณ ที่บารมีแกมันเต็มและแก่กล้าปานนั้น

แต่นี้..แกมันเด็กน้อยยังไม่หย่านม เจออาหารแข็งแกก็กัดไม่เข้าซะแล้ว ปัญญา วิริยะ ขันติ อุเบกขา แกหายไปใหนหมด

บารมีน่ะหมายถึง #กำลังใจ

มันเป็นกำลังใจในขั้น ศีล สมาธิ และปัญญา

มันเริ่มจากทานนี่แหละ บารมีตัวนี้

เมื่อใจมีกำลังใจที่จะแบ่งปัน ด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ นี่เป็นการเริ่มสร้างบารมีแล้ว

นี่แกมันยังตระหนี่ขี้เหนียวอยู่เลย แค่ความไม่ถูกใจที่เป็นคำพูดมากระทบโสตแก แกยังให้ข้าไม่ได้เลย

บารมีต้น แกยังไม่ผ่าน แล้วแกยังเสือกมาขี้โม้ว่าบารมีแกเต็ม 30 ทัศน์

แกรู้จัก อุปบารมีไม๊ รู้จัก ปรมัตถ์บารมีไม๊ และอะไรคือ บารมีต้น อะไรอุปบารมี อะไรปรมัตถ์บารมี

เขาตอบว่า รู้จักซิครับ..!!

บารมีต้นมีอาการอย่างนี้ๆๆ

อุปบารมี มีอาการอย่างนี้ๆๆๆ

ปรมัตถ์บารมี มีอาการนี้ๆๆๆ

นี่..เขาอธิบายมาแต่ขี้เกียจพิมพ์เล่า สรุปว่า ข้าให้พรสาธุไปว่า

พ่อมึงซิ..ไอ้เหี้ยยย..!! บารมีอ่านมาจำมาจากหนังสือ แล้วเอาตัวเข้าไปเป็นความเป็นเจ้าของบารมี

นั่นมันบารมีแบบตำรา บารมีที่เขาอธิบายพอเป็นร่องจากผู้แปลที่มันยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือบารมี

เขาจึงถามว่า แล้วบารมีมันเป็นยังไง ถ้าเขาผิด คนเรียนปริยัติมหาจุฬาก็ต้องผิดหมด

เขาบวชมาเขาทบทวนดูแล้วว่า ทาน ศีล เนกขัมม์ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐาน เมตตา อุเบกขา ทั้งหมดนี่ เขามีครบหมดแล้ว

ข้าถามว่า ก็มันมีแค่ 10 นี่ ใหน อันที่ 20 ใหนอันที่ 30 ของแกที่โม้มา

เขาบอกว่า มันก็เป็น อุปบารมี กับปรมัตถ์บารมีแล้วไง

ข้าจึงถามว่า ก็ใหนละ บารมีที่ 11 ที่เป็นอุปบารมี

ใหนล่ะ บารมีที่ 21 ที่เป็นปรมัตถ์บารมี

ดูเขาเริ่มสับสน และไปไม่ถูก ที่อ่านที่จำมาชักจะตีกัน โถ..อุตสาห์ไปฝึกปฏิบัติบ้าบารมี 30 ทัศน์มา ตั้งสี่ห้าปี

เขาจึงถามว่า ขอโอกาศให้ผมได้ฟังธรรมเรื่องบารมี 30 ทัศน์จากพระอาจารย์หน่อยเถิด

และบอกผมได้ไหม ว่ามันอยู่ในตำราเล่มใหนอีก นอกเหนือไปจากที่ผมศึกษามา

ผมจะได้ไม่หลงทางในการปฏิบัติเพื่อสร้างบารมีให้เต็มตามพระพุทธเจ้า..!!

เห้อ..จอมคำภีร์บ้าบารมีนี่เอง..!!

ข้าได้อธิบายพอให้เขาพอเข้าใจว่า..

เรื่องบารมี 30 ทัศน์อะไรนี่ มันเป็นรอบภูมิของกำลังใจ

มันอาศัยทานนี่แหละ..ถูกต้อง

ทานเกิด ศิลก็เกิด ศีลเกิด เนกขัมมะก็เกิด มันเกิดอาศัยกันไปจนถึงอุเบกขาโน่น

เรียกว่า บารมี 10 ทัศน์

บารมี 10 ทัศน์แบบปุถุชนทั่วไปที่เอามาเป็นเจ้าของแบบพระท่านนี้ก็มี

บารมี 10 ทัศน์แบบอริยะบารมีก็มี

บารมีเหล่านี้ เป็นกำลังใจที่เกิดจากเจ้าของ

บารมีต้นนี่ เรียกว่าเป็นบารมีขั้นศีล ชาวบ้านทั่วไป สามารถเดินอยู่ในร่องของมันได้

แต่มันไป 30 ทัศน์ไม่ได้ บารมี 30 ทัศน์นี่ มันเป็นเรื่องอริยะบารมี

ขั้นศีลที่จะดำเนินไป 30 ทัศน์ได้ ก็คือ พระอริยะขั้นโสดาบัน หรือสกิทาคามี

นี่…พระอริยะขั้นศีล ที่มีบารมีเต็มทั้ง 10 ทัศน์

ส่วนที่บารมีที่เรียกกันว่า อุปบารมี คือบารมีขั้นสมาธิ

พระอริยะขั้นอนาคามี เป็นผู้มีบารมีทั้ง 10 ทัศน์เต็ม

ส่วนบารมีที่เรียกกันว่า ปรมัตถ์บารมีนั้น คือบารมีขั้นปัญญา

พระอริยะขั้นอรหันต์ เป็นผู้มีบารมีทั้ง 10 ทัศน์เต็ม

นี่..ผู้เข้าถึงบารมี ที่เรียกว่า บารมีทั้ง 30 ทัศน์นั้น มันเป็นของมันมาอย่างนี้

พระอรหันต์นี่ ท่านเรียกว่า เป็นผู้มีบารมีครบทั้ง 30 ทัศน์ เป็นบารมีขั้นปัญญา

พระอานาคามี เป็นบารมี 10 ทัศน์ขั้น อุปบารมี เป็นบารมีขั้นสมาธิ

พระสกิทาคามีและพระโสดาบัน เป็นบารมี 10 ทัศน์ขั้นต้น เป็นบารมีขั้นศีล

นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังไม่เห็นความหมายแห่งคำว่าบารมีทั้ง 30 ทัศน์ ดั่งที่พระท่านผู้นี้เป็นอยู่

ข้าจึงถามเขาไปว่า ท่านเข้าถึงความเป็นอริยะเจ้าขั้นโสดาบันรึยัง รึ..สกิทาคามี รึ..อนาคามี รึ…อรหันต์แล้ว

พระท่านก้มหน้านิ่ง..!!

หากเข้าถึงแล้ว…ท่านจะมาขอลาพุทธภูมิอีกทำไม

ในเมื่อบารมีต้น บารมีกลาง บารมีปลาย ต่างล้วนแล้วแต่เป็นอริยะบารมีด้วยกันทั้งนั้น

บารมีต้น เป็นอริยะขั้นศีล ท่านเข้าถึงแล้วรึยัง ถ้าเข้าถึงท่านก็จะอธิบายบารมีต้นได้

อุปบารมี เป็นอริยะขั้นสมาธิ ท่านเข้าถึงแล้วรึยัง ถ้าเข้าถึงท่านก็จะอธิบายอุปบารมีได้

ปรมัตถ์บารมี เป็นอริยะขั้นปัญญา ท่านเข้าถึงแล้วรึยัง ถ้าเข้าถึงท่านก็จะอธิบายปรมัตถ์บารมีและแจ่มแจ้งเรื่องธรรมทั้งหลายได้

นี่..เป็นเรื่องบารมีทั้ง 30 ทัศน์ เป็นธรรมป่าๆที่ไม่ได้อิงตำราอย่างที่ท่านจดจำมา และท่านก็สามารถแย้งธรรมทั้งหลายที่ข้านี่ สาธยายออกมาให้ท่านฟังได้

ท่านพอจะเข้าใจใหม ท่านจอมบารมีทั้ง 30 ทัศน์

เขาก้มลงกราบและกล่าวว่า เขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องบารมี 30 ทัศน์อย่างไปไกลโขเลยทีเดียว

มันน่าอายทีเดียวที่เขามีความคิดความเห็นเช่นนี้

นี่เขาฝึกเขาฟังเขาอ่านตามตำราทุกอย่าง อย่างเคร่งครัด

แต่เมื่อมาได้ฟังเรื่องบารมีทั้ง 30 ทัศน์จากผู้ทรงคุณ เขาเห็นชัดว่า

สิ่งที่เขาเข้าใจและปฏิบัติตนมาด้วยความมั่นใจ มันกลายเป็นโมฆะบุรุษไปซะนี่

ขอโอกาศเริ่มต้นใหม่และฝากตัวเป็นศิษย์นับจากบัดนี้เป็นต้นไป

นี่..เขาว่างั้น..!!

น่าเสียดาย…เรื่องนี้ที่เขาเข้าใจ และฝึกมาหลายปี

บัดนี้..ท่านผู้นี้ สึกออกไปจากเพศบรรพชิตซะแล้ว

นี่…คือเรื่องราว ผู้เข้าถึงบารมีทั้ว 30 ทัศน์ พอดีเมื่อวานพระที่นี่ท่านถามเรื่องบารมีมา…!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 17 สิงหาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง