กินนอนอยู่อย่างมักมากในคราบภิกษุ

กินนอนอยู่อย่างมักมากในคราบภิกษุ

266
0
แบ่งปัน

******* “กินนอนอยู่อย่างมักมากในคราบภิกษุ” ******

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ

พูดถึงการอยู่ป่าเพื่อธุดงค์ ปัญหา คือ เรื่องอาหาร

ง่ายที่สุดก็คือพักใกล้หมู่บ้าน

แต่นั่นแหละ ผู้คนก็จะเดินมาหาทั้งวันอีก

การเจริญภาวนาก็จะไม่รุดหน้า เสียเวลาในการธุดงค์
ที่อุตส่าห์เดินทางมาหาความสงบ

หากต้องการหลีกลี้หนีผู้คน

ใบไม้นี่แหละ เป็นเครื่องยังชีพที่พระธุดงค์อาศัยอยู่ได้

ข้านี่อยู่กินใบไม้เป็นเรื่องปกติ

ใกล้ใบไหนก็คว้ามาแดกใบนั้นแหละ

ใบไม้หนึ่งใบ ค่อยๆแทะทีละนิด ใบหนึ่งใช้เวลานานโข

ไม่ได้กินเพื่อให้อิ่ม แต่กินเพื่อยังชีพขันธ์เท่านั้น

กินจนใจไม่เดือดร้อนเรื่องอาหาร

นี่..จิตมันจะปรับโปรแกรมของมันเอง

ออกจากป่าก็ผอมเป็นหมากินขี้ยางหน่อย แต่มันอยู่บนโลกนี้ง่ายขึ้น

อาหารอะไรก็กินได้

ไม่ค่อยมักมากเรื่องอาหาร

ที่สำคัญ…ใจมันรู้คุณค่าของอาหาร และผู้ที่หาอาหารมาให้

มันซึ้งใจ และไม่สุรุยสุร่ายในอาหารที่มาประทังเลี้ยงชีพ

อาการหนึ่งมื้อ เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่จะอยู่ครองชีพ

นี่…พระที่ผ่านการธุดงค์จริงๆ ไม่มีซักรายที่จะแดกอาหารเกินกว่าหนึ่งมื้อ ด้วยความมูมมามในปริมาณและรสชาติของอาหาร

การฉันเพียงมื้อนี่ ก็เป็นธุดงค์วัตรอย่างหนึ่งที่เป็นปกติของพระผู้ทรงธุดงค์…!!

ทีนี้มีคำถามมาถึงข้าว่า มีพระหลายวัด ทางภาคเหนือและภาคอีสาน เขากินอาหารเย็นกัน

เช่นนี้..ผิดพระธรรมวินัยรึเปล่าคะ..!!

หากว่าตามพระธรรมวินัยนี่ มันก็ผิด #วิกาลโภชนา นี่..หมายถึง กาลอันไม่ควรในการที่จะบริโภค

ไม่ใช่หมายความว่า ห้ามแดกกลางคืน ก็เลยพากันยัดเข้าไปช่วงตอนเย็นกันซะ เพราะยังไม่ใช่ยามวิกาล

นี่..ผู้ทรงคุณด้านพระธรรมวินัยมันตีความกัน วิกาลมันกลางคืน ไม่ใช่กลางวัน เขาว่างั้น

พระแดกได้ทั้งวัน เขาห้ามเฉพาะกลางคืนโน่น..!!

ทีนี่..กลางคืนมันก็ไม่แดกข้าวกันจริง แต่มันล่อ มาม่าบ้าง ขนมปังบ้าง ก๋วยเตี๋ยวบ้าง สารพัดอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ข้าว

ถ้ากินข้าวกลางคืนนี่ มันผิด นี่พวกแดกกลางคืน…เขาว่างั้นอีก..!!

พระพวกนี้นี่…อย่าไปทำบุญกับมัน มันมักมากแม้ในเรื่องการบริโภค

มันไม่เข้าใจแม้แต่เรื่องการทานอาหาร จะว่าใยไปถึงมันจะเข้าใจในเรื่องของธรรมะ

มันชี้สอนใครไม่ได้หรอก ตราบใดยังมักมากเรื่องอาหาร

ระงับเรื่องอาหารไม่ได้ เพลินกับการบริโภค แน่นอน..พระพวกนี้..ชักว่าว ติดสังฆาทิเสสทุกตัว

ไม่เหมาะนำเอามาเป็นที่ตั้งแห่งใจในเรื่องของการเคารพกราบไหว้ และเชื่อในสิ่งที่มันชี้

พวกนี้อาศัยธรรมจากตำรา จากปริยัติมากล่อมผู้อื่น

ดูว่าตนเองเป็นผู้ทรงคุณ แต่แดกมากมื้อ แถมชักว่าวเป็นอาจิน สะสมเครื่องอุปโภคและบริโภค เพื่อตนเอง

ฉลาดในเรื่องกิเลส แต่ควายในเรื่องปัญญา แสวงหาแต่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ด้วยความหิวโหย

แต่ไม่ใช่ว่า พระที่ฉันมื้อเดียวจะเป็นพวกดีเลิศประเสริฐศรี

แดกมื้อเดียวครั้งเดียว แต่ความประพฤติเหี้ยๆนี่ มีเยอะแยะ

ท่านที่ผ่านการธุดงค์จริงๆ เรื่องมักมากในอาหารนี่จะไม่มี

ท่านจะได้ปัญญาจากการอยู่ธุดงค์ไปอบรมจิตท่าน

ผู้ที่เข้าใจ อาหารแค่ครั้งเดียวในแต่ละวันนี่ มันพอเพียงที่จะยังชีพธาตุขันธ์ให้อยู่ได้แล้ว

อาหารมากมื้อ มันก็มีความเป็นอยู่ไม่แตกต่างไปจากผู้ที่ไม่ออกบวช

เอาความหัวโล้นถากหัว ห่มผ้าสีขมิ้นอาบกลิ่นอายผู้บริสุทธิ์ฉาบๆทาตัวผิวพรรณเอาไว้หลอกแดก

แต่ไม่รู้จักพระธรรมวินัยในการย้อมใจตน

ไม่รู้จักว่าตนยังชีพโดยผู้อื่น

ไม่รู้จักว่าตนบวชมาเพื่อแสวงหาเหี้ยยย..อะไร

บวชเช่นนี้ เรียกว่าบวชเปลืองข้าวสุกของชาวบ้าน ที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธชินสีห์

พระอัปรีย์เช่นนี้ มีเยอะทั้งแผ่นดิน

ถ้าเราไม่ใช่พวกพระอัปรีย์ผู้หนึ่งในแผ่นดิน เราอย่าไปเดือดร้อนกับอักษรแห่งวาทะนะท่าน..!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 11 สิงหาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง