ลำบากกาย…เพื่อขอชดใช้แผ่นดิน

ลำบากกาย…เพื่อขอชดใช้แผ่นดิน

445
0
แบ่งปัน

ลำบากกาย

ขอสาธุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่าน ขอให้เจริญๆๆๆ และร่ำรวย กว่าจะเทได้แต่ละฐาน มันแสนสาหัสพี่น้องเอ๋ย

ใช้กำลังใจมากๆ ใช้เม็ดเงินสูง ใช้เวลากว่าจะได้ทรายแต่ละถุง หินแต่ละถัง เหนื่อยแสน นี่ละทุกข์หลายๆ เราเอาความทุกข์เช่นนี้ขณะผัสสะมาเป็นวิปัสสนา

แต่ขอใช้การตอบแทนความทุกข์ทั้งหลายนี้ เพื่อชดใช้แผ่นดินด้วย

ยังไง ผู้ที่ได้ร่วมกำลังใจ เมื่อได้เหตุปัจจัยประกอบกับการฟังธรรม ชี้เหตุและผลที่ได้มาร่วมกระทำ พี่น้องเอ๋ย มันจะปิดประตูแห่งอบายได้ง่าย

เกิดมาจะไม่เสียชาติเกิด ผู้ที่ได้มาแล้วได้ขนหินขนทรายเข้าวัด ด้วยแรงกายตน

เขาแสนจะภูมิใจ ไม่มีใครคิดจะเอาเปรียบใคร แต่ละคนยิ้มแย้มแจ่มใส แม้หินปูนทรายจะกองอยู่เต็มหลัง

นี่..เขาขนออกผ่านช่องทางทุกข์ แต่เขาภูมิใจที่ได้สละชดใช้ เกิดมาได้ชดใช้ซะบ้าง มันแสนภูมิใจ แสนภูมิใจจริงๆ ขอเป็นกำลังใจ
ร่วมๆ กันเถอะ คนละเล็กคนละน้อย กุศลทั้งนั้น อันที่จริงเราสร้างกันไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับใคร เดี๋ยวจะเป็นการเรี่ยไร

เราทำๆ กันแค่ไหนเอากันแค่นั้น แค่ทำกันเป็นที่ตั้งแห่งใจ ชีวิตหนึ่งได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน มันแสนสุขใจ แม้เหนื่อยแค่ไหน ก็ภูมิใจที่ได้ร่วมกันตอบแทน
การได้สร้างได้ทำนี้ ใช้กำลังใจและความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ได้มาร่วมต่างแสนประจักษ์ใจ ที่ตนนั้นได้เกิดมาได้ชดใช้คุณแผ่นดิน

สมัครใจที่จะปล่อยวาง ก็ลงชื่อสมัครใจตอบแทนแผ่นดินได้เลย

เราจะจูงมือไปด้วยกัน เป็นผลไม้ฤดูเดียวกัน ที่จะเป็นผลอันหอมหวานมอบให้แก่โลกเช่นเดียวกัน

สุกก่อนสุกหลัง ก็เป็นผู้ที่สุกเหมือนๆ กัน ขอผลไม้ร่วมฤดูทั้งหลาย จงภูมิใจ..!!

ไปดูภาพต่างๆ ของน้องๆ ซิ แต่ละคน แบกหินแบกปูนขึ้นบ่า

โน่น… ต้องใช้กำลังก้าวฝืนใจไปทีละก้าวๆๆๆ กว่าจะได้ซักสิบก้าว ต้องใช้กำลังใจสูง

นี่มันทุกข์กายชัดๆ แต่ทำไมภายในสว่างไสวสวยงามเช่นนี้

ไม่มีใครโกรธใคร ไม่มีใครต่อว่าใคร ไม่มีใครคิดเอาเปรียบใคร

ใครไม่ไหวอีกคนอยู่ใกล้ รีบเข้าไปประคอง และทั้งสองต่างยิ้มแย้มแจ่มใส หัวเราะร่อก้าวเดินประคองกันไป

ใครได้เห็นน้ำตาแทบไหล ทุกข์ทั้งหลายที่มันแบกไว้ โดนทำลายใจที่อิ่มเอิบด้วยแรงบุญ มันทำอะไรใจพวกเขาไม่ได้เลย

มาดูซิ ดูแววตาของแต่ละคน มีที่ไหนที่จะร่วมใจกันแบกขน โดยไม่ใส่ใจในความทุกข์ของตน

บางคนแบกมาสามสี่ถุง ไม้มีค่าจ้าง ไม่มีค่าแรงงาน แต่ทุกคน ยอมกระทำด้วยใจที่เป็นกุศล

ข้าถามว่าเหนื่อยไหม เธอต่างบอกว่าไหวจ้า ข้าบอกว่า เข็ดไหมที่ต้องเกิดมา เกิดอีกต้องมาแบกกันอีกเอาไหม น้ำตาเธอไหลร่วงพลู

ปากน้อยๆ สั่นระริก นี่ไม่ใช่สั่นเหนื่อย แต่มันสั่นด้วยใจที่เห็นแจ้ง เกิดอีกทุกข์อีก เจ็บอีก จากอีก พรากอีก และต้องมาแบกมาหามอีก เธอเห็นไหม

เสียงสะอึกสะอื้นในคอเดินผ่านข้าไป ภายในใจเธอร้องบอกว่า…

“.. กูจะขอชดใช้ให้มันจบๆ ให้ได้ในชาตินี้ การแบกขนครั้งนี้ ขอเป็นครั้งสุดท้าย
จำเอาไว้ มันหนักและลำบากแค่ไหนในแต่ละก้าว นี่กูอยากจะเกิดมาแบกมาขนอีกไหม

ขอเอามันให้เต็มที่ ขอเป็นชาติสุดท้าย ขอถวายความทุกข์ทั้งหลาย เพื่อมอบไว้ให้แก่แผ่นดิน ..”

เธอไปไชโยโห่ร้องอยู่บนยอดเขา ที่หินปูนทั้งหลายได้เทหลอมรวมกันเป็นฐาน เป็นฐานเพื่อใช้สร้างองค์พระ เป็นองค์พระเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งใจ ในการขอชดใช้แผ่นดิน

น้ำตาที่ไหลนองเป็นลำธาร บนใบหน้าที่เปื้อนๆ ที่น่าสงสาร กัดฟันและหลับตาสะใจท่ามกลางคราบน้ำตา

ในใจกู่ร้องก้องว่า…..กูชนะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

>>ลูกศิษย์ : กราบสาธุคุณยิ่ง ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมได้จองฐานองค์พระกับพระอาจารย์ไว้แล้วค่ะ สาธุ

<<พระอาจารย์ : เออ..จริง ลืมใส่ชื่อพี่นันท์ไปด้วย เดี๋ยวเพิ่มเติมชื่อให้ เหล่าเทวาจะได้ร่วมกันโมทนา

วันนี้เป็นวันมหาปวารณา เหล่ามวลเทพจะมาประชุมสาธุคุณที่ ดาวดึงส์ เพื่อประกาศถึงผู้ทำกุศล ให้ระบือไปทั่วชั้นฟ้า
ใครไม่มีชื่อแจ้งด้วยนะ เผื่อตายตอนนี้ บุญนี้ก็เป็นตั๋วยืนยันเจตนาบุญได้ ไม่ลงไปในนรกแน่ เพราะใจผูกอยู่กับกุศล

ชาติหนึ่ง ได้สร้างฐานรองรับใจ เพื่อพยุงใจทะยานสู่ฟากฟ้า ย่อมน่าอนุโมทนาไปทั้งสามโลก

ขอเป็นกำลังใจ มาร่วมเล็กน้อยกะข้าก็ได้ บุญใหญ่เหมือนๆ กัน

**************************************

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง สร้างฐานองค์พระพุทธะ…
ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง