ปัญญามีกำลัง ยิ่งกว่ากองกำลังทั้งกองทัพ

ปัญญามีกำลัง ยิ่งกว่ากองกำลังทั้งกองทัพ

840
0
แบ่งปัน

หวัดดีทุกคน วันนี้ข้าวางแผนจะเอาเสาตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นแกนกลางเสาเอกกันแผ่นดินไหว แต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปตั้งบ่ายสามแล้ว ไปขนข้าวโพด ขนเหล็ก ขนทรายกัน คนมันมีน้อย

ข้าขึ้นไปบนเขา ก็ไม่เจอใคร ในใจถามว่า วันนี้จะทำได้แค่ไหนหนอ เห็นเอชบีมแสนหนักวางยาวอยู่แล้วชักท้อ จึงได้เรียกพวกที่ขนทรายอยู่ชายน้ำให้ขึ้นมาช่วยๆ กัน

เจ้าศักดิ์ มันก็อยากรู้ว่า คนไม่กี่คน จะยกเหล็กตั้งขึ้นได้อย่างไร เพราะมองอย่างไรก็ไม่เห็นหนทาง

ข้าบอกให้ตั้งเสา รั้งเชือกและโครงเหล็กขึ้นมา และวางแผนไปทีละขั้น ข้าเองนั้นเตรียมไว้หลายแผน แต่ละแผนก็ยังไม่เคยทำ ข้านี่ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

การใช้ปัญญาในการวางแผนงาน มันเหมือนการวางหมาก รบกับข้าศึก ศึกนี้หากดูไม่ได้รบ มันก็ง่าย การรบของที่นี่ มันใช้มือและความคิดเป็นอาวุธ คอบเตอร์เครื่องบินรถถังใข้รบเราไม่มี

และในที่สุด ตำแหน่งในการรับน้ำหนัก และทิศทางในการถ่วงดุลมันก็เป็นรูปเป็นร่าง ที่เหลือคือรบจริงกะมัน

ข้านี่แสนตื่นเต้น เพราะข้าเองก็ไม่เคยรู้เห็นมาเหมือนกัน มันอาศัยจากจุดหนึ่งเพื่ออิงไปจุดหนึ่ง ไม่ใชจะรบกันดื้อๆ พลาดขึ้นมาชีวิตอาจพรากได้

มันเป็นการวางแผนที่เหนือชั้นเหมือนกลยุทธหมากล้อม ในเชิงความคิด มันน่าจะเป็นได้ ด้วยกำลังแห่งความคิด

แต่ในการกระทำจริง มันอาจจะผิดพลาดได้ คิดได้ ทำได้ แต่อาจไม่ได้ อย่างที่คิดอย่างที่ทำ นี่เป็นธรรมดา แต่เรามีแผนซ้อนรองรับความไม่ได้และได้อยู่เสมอ

เราใช้ปัญญาทำแทนกำลัง เสาแสนหนักเป็นตันๆ เมื่อโดนดันในทิศทางที่ตรงกันข้าม มันจะหนักมากและไหลหนีออกจากจุดที่เราต้องการ

เราต้องยกหัวให้ลอยให้ได้ก่อน ถ้าหัวไม่ลอย มันไม่ขยับ ที่สุดมันก็ขยับตัวและเริ่มลอยสูงขึ้น มันสูงได้เท่าที่มันจะไปได้ แต่ความสูงที่ได้ มันไม่พอที่จะเกี่ยวรอกดึงได้

และที่สำคัญ เครื่องมือเรามีชุดเดียวในการรั้งน้ำหนักทั้งหมด มันจึงเกิดการแก้ไข แผนสอง แผนสาม สี่ห้า ไปเรื่อย

จนในที่สุด เสาก็ตั้งตรง ด้วยการทำงานของคนจริงๆ แค่คนเดียว ที่นั่งสาวรอก นอกนั้นช่วยแค่นั่งลุ้น และต้องลุ้นกันอยู่ห่างๆกลัวเสามันล้มทับ

นี่เป็นเรื่องของการใช้ปัญญา

คนเราหากมีปัญญา มันก็มีวิธีที่จะคิด

การคิด หากเราคิดว่า เราคิดดีแล้ว พอแล้ว จบแล้ว อย่างนี้นี่โง่ มันจะตันตรงแค่ ความคิดที่เราพอใจ

โลกนี้ หากไม่แจ้งแห่งธรรม มันยังมีวิธีการอีกต่อไปไม่รู้จบ แม้นจะแจ้งแแห่งธรรม ตราบใดที่มีสังขาร การปรุงแต่งก็ทำหน้าที่ของมันไม่มีหยุด

กว่าข้าจะตั้งเสาจนจบ มันใช้ความคิดในแต่ละขั้นตอนอย่างหลากหลาย การวางตำแหน่ง และทิศทางให้พอดีกับน้ำหนักที่แสนหนัก

หากมันเอียงแค่หน่อยเดียว เสาแสนหนักจะเอียงไหลลงมาล้มทับ ความเดือดร้อนทั้งหลายย่อมมาเยือน

ทุกคนทำด้วยความกลัว แต่ก็มั่นใจ ว่าข้าคงคิดและพาพวกเขาทำสำเร็จได้ แม้ในใจจะไม่มีใครคิดว่าข้าจะทำได้เลยก็ตาม

ธรรมก็เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของปัญญา ไม่ต้องเชื่อข้า แต่เราใช้ปัญญาตรองตามดู

ขณะที่ข้าวางแผนและบอกว่ามันจะเป็นอย่างนี้ๆๆๆ ทุกคนที่ฟังก็เห็นตามได้ ในความน่าจะเป็น

เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง หากข้าไม่อยู่ ทุกคนก็เดินไปต่อไม่ได้ เสามันค้างคาเอียงตั้งไว้ เพราะสุดสายรอก น้องๆพวกเราก็เหมือนกัน รู้แค่ไหน ปัญญามันก็คาเอาไว้แค่นั้น มันหมดกำลังไป

ข้าบอกว่าควรจะทำอย่างนี้ๆๆ องศาเสาก็จะสูงขึ้นมาได้อีกหน่อย พอไปสุดสายเชือก มันก็ต้องหาวิธีใหม่ เพื่อให้เสาตั้งได้ มันจะคาอยู่แค่นั้นไม่ได้

นี่ข้าชี้ธรรมให้น้องๆ มันก็เหมือนกัน หากน้องๆ กระทำจนถึงที่สุดแห่งกำลัง ข้าย่อมแก้ให้และไปต่อได้ง่าย

แต่ถ้ายังไม่สุด เราก็ต้องใช้กำลังสาวรอกกันต่อไป เวลาในการสาวของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน

แต่ตราบใดที่เรายังร่วมใจทำ เรานั้นก็จะถึงที่สุดแห่งความรั้งของสายโซ่

ที่สุด เมื่อฝ่าฟันอุปสรรค์อันหลากหลายได้ เราก็ตั้งเสาได้

เสาที่ตั้งได้ ย่อมยังความปลื้มปีติใจของผู้ร่วมและเจ้าของผู้ลงมือ

ขอให้เราทั้งหลายพึงตั้งใจ

ตั้งเสาใจแห่งเราเพื่อเข้าสู่ นิพพาน

ข้าจะเป็นผู้คอยชี้บอก วิธีตั้ง

ตราบใดที่ยังพยายามตั้ง ในที่สุดแล้วเสาแห่งความตั้งมั่นในใจเรา

มันจะตั้งตรงยืนยันให้ใจเรา ด้วยใจแห่งตัวเราเอง

เสาเอกของเรา ตั้งได้เรียบร้อยแล้ว พวกเราตั้งเสาเอกของใครของมันกันรึยัง

คืนนี้ ข้าขอสาธุคุณ

สวัสดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง