ผีมาขอให้ช่วยหน่อย

ผีมาขอให้ช่วยหน่อย

830
0
แบ่งปัน

หวัดดี ข้าจะเล่านิทานให้ฟังเอามั้ย

สมัยก่อนนี่ ข้าไปกะหลวงตาจักษ์ พระเบียร์ และเจ้าอุ๊ย ไปนู่นแถวๆ สังขละ ไปพักวัดหนี่งติดภูเขา ขับรถเข้าไปลึก

ทีนี้ ตอนไปถึงวัดนั้น มันมืดแล้ว ทางวัดเขาจะไม่ให้เข้าพักเขาปิดประตู แต่ที่สุด…ก็ได้เข้าไป

จริงๆแล้วที่เรามาวัดนี้ เป็นเพราะเจ้าอุ๊ยมันมีอาการไม่ปกติ และทราบว่าที่วัดนี้ เขามีคนมีกำลังฌาน รักษาภายในได้ จึงได้พาเจ้าอุ๊ยมาส่ง

แต่พวกข้ามัวแต่ไปแวะเที่ยวถ้ำ ไปเจอสิ่งแปลกๆในถ้ำกัน จึงออกกันมาช้า ทำให้มืดและเจ้าสำนัก ไม่ค่อยพอใจ

ข้านี่ไปรวมกลุ่มกับหลวงตาจักษ์ ปรากฏว่า เจ้าสำนักเขาให้แยกออกไปนอนอีกที่ ข้าจึงเดินตามไป เจ้าสำนักพาข้าไปนอนกุฏิหนึ่ง แค่ผลักเข้าไปก็มีกลิ่นศพแล้ว

ไฟก็ไม่มี มีเทียนเล็กๆ มอบไว้ให้ข้า ที่จริงที่วัดนั้น ไฟฟ้าน่ะมี แต่ที่ข้าพักน่ะมันไม่มี พอเปิดประตูเข้าไป หัวกระโหลกผีขาวโพลนตั้งอยู่บนโต๊ะ

ข้ามองหน้าเจ้าสำนัก เขาบอกว่า ให้ข้านี้ พักอยู่ห้องนี้ ช่วยปราบผีเจ้าที่ให้เขาหน่อย นี่..เขาดูว่าข้าเป็นพวกหมอผี

ข้าถอนหายใจ จำยอมต้องอยู่นอน ข้าเอาเทียนปักลงบนโต๊ะ หน้าหัวกระโหลกผี แล้วปิดประตู ขอตัวนอน

เจ้าสำนักจ้องหน้า ทำหน้ายิ้มๆ บอกว่า พรุ่งนี้คงได้เจอกันนะ แล้วหัวเราะ ฮึฮึฮึ ออกไป นี่..ถ้าไม่ใช่เจ้าสำนักที่เราต้องมาพัก มีหวังกูเตะหำบวม

ข้าหันมาตีสนิทผีไว้ก่อนว่า

อย่านะโว๊ย อย่ามาทำเป็นเล่นไป ห้ามยักคิ้ว ห้ามถอนหายใจ ห้ามยิ้ม ห้ามหัวเราะ ฮิฮิ ข้ามันรั่วๆ นะโว๊ย ดีไม่ดี หลอกข้าละก็ ข้าเป็นได้ทุบกระโหลกแหลกเชียว

ในห้องนั้นมีเตียง แต่เตียงน่ะเป็นโลงศพ ข้าไม่นอนบนโลงหรอก ข้าดึงเสื่อมานอนพื้น รอบๆ ห้องก็มีแต่พวกของขลัง แปลกๆ

มียันต์ต่างๆ และอักขระทางพม่ากะเหรี่ยง เพียบ มีน้ำมัน กระจุกผม หนังคนรึหนังหมูไม่รู้ มียันต์สลักอยู่

นี่มันเป็นห้องพวกเล่นของ พวกไสยเวทย์ พวกหมอผีเถื่อนๆดิบๆ แล้วให้กูมาพักห้องแบบนี้ ไอ้ห่าเอ้ย นี่มันศูนย์รวมของผีเลย

ข้านั่งลงสวดมนต์คาถาล้อมแล้วทำสมาธิ แค่ไม่นาน ยังไม่ทันหายใจให้ทั่วท้องเลย ประตูก็เปิดผลัวะออกมา ขนหัวงี้ลุกซู่ชันทั้งตัว อ้ายเหี้ย..เอากูเข้าแล้ว

ข้าลืมตาลุกขึ้นปิดประตู จึงรู้ว่า ประตูมันดีดออกได้เอง เพราะกลอนมันสั้นไป จึงเอาเชือกผูกมัดไว้ กลับมานั่งสมาธิต่อ แต่ใจนี่เต้นสั่นรัว

เต้นนี่ ไม่ใช่เต้นกลัว มันรัวเพราะผัสสะกับพลังงาน มันมีพลังงานบางอย่างรอข้าอยู่

กลับมานั่งนั่งซักพัก ประตูดีดผึ๋งออกมาอีก ขนหัวก็ลุกซู่อีก มันลุกเฮือกไปทั้งตัว

ข้าขี้เกียจลุกปิดประตู จึงนั่งสมาธิอยู่อย่างนั้น ประตูก็เปิดเด้งไปเด้งมา ข้าลืมตามองหัวกระโหลก ขนหัวก็ลุกตั้งอีก รึว่าจะผีนี่ มันแกล้งข้า

ข้างๆ โต๊ะมีท่อนกระดูกแขนสองท่อน ข้าจึงเอากระดูกแขนนั้นแหละ ทุบโป๊กๆๆไปยังหัวกระโหลก

ประกาศบอกมันว่า กูกลัวนะโว้ย อย่าซ่านัก กูทุบแหลกไม่เหลือหัวให้หมาเลียเชียวมึง เตือนกันไว้ก่อน อย่านะว้อย อย่าน่ะว้อย

เอากระดูกแขนนั้นวางข้างๆ ตัวเผื่อไว้เป็นอาวุธทุบหัวผี เกิดมันลอยขึ้นมางับ แล้วนั่งสมาธิต่อ

เสียงอะไรซักอย่าง หล่นหนักๆ นอกกุฏิ ทำเอาสะดุ้งเฮือกเหมือนกัน นี่มันดุขนาดเล่นงานกัน อย่างไม่เกรงใจเลยวุ๊ย ทั้งข้างในข้างนอก

จึงลุกขึ้นออกไปดู ในความมืดสลัวๆ นั้น มันมองเหมือนกองกระดูกขาวโพลน กองนิ่งๆอยู่ จึงเดินเข้าไปเตะดูใกล้ๆ

ปรากฏว่า เป็นใบต้นสักที่หล่นลงมา ไอ้ห่า..ตอนแรกมองเป็นกองกระดูก พอเข้าไปใกล้เสือกกลายเป็นใบไม้จึงกลับเข้ามานั่งสมาธิใหม่

ที่จริงข้าก็ใจเสียอยู่เหมือนกันนะ ไม่ใช่ไม่กลัว แต่ไม่รู้จะทำไงดี เพราะต้องอยู่คนเดียว มันยอมรับสภาพน่ะ

ที่สำคัญ ช่วงนั้นจิตมันตั้งมั่นสูงจัดด้วย ช่วงสิบกว่าปีมาแล้ว กำลังอยากลองของ แต่พอโดนจริงๆ เข้า ใจก็เสียเหมือนกัน

กลับมานั่งใหม่ ประตูก็เด้งไปเด้งมาเสียงออดๆแอดๆ มันเขย่าขวัญดีเหมือนกัน

แต่ข้านี่ หากนั่งสมาธิแล้ว จิตมักเข้าอัปปนาสมาธิ เมื่อตัดใจไม่ใส่ใจต่ออะไรรอบด้าน พักเดียวมันก็ดิ่งวูบหายไป นี่เป็นปกติ เมื่อไม่สนใจผัสสะรอบกาย มันก็ดิ่งเข้าอัปนา นู่นเกือบๆ ตีสี่นู่น จิตมันจึงตื่นออกมา

เมื่อรู้ตัวทั่วพร้อม ก็ขยับตัวและลืมตาขึ้น ข้าก็เห็นเงาลางๆ หมอบอยู่ตรงหน้า ตอนแรกนึกว่าหมา

แต่ที่มันแคบเล็กน้อย หมาที่ไหนจะมาหมอบ ขนหัวนี่ ลุกซู่ มันคือพะอี๋ ผีที่สิงอยู่ในห้องนั่น แหม..เพิ่งออกจากสมาธิ กำลังจิตมันหนาแน่นอยู่

++ จึงถามในใจไปว่า ต้องการอะไร

** มันตอบมาทางโสตเลยว่า ช่วยมันด้วย มันโดนพระองค์ก่อนตรึงวิญญานไว้

++ ข้าถามว่า จะให้ช่วยยังไง

** เจ้าผีบอกว่า ให้ไปเอาน้ำที่ในถ้ำมาทำน้ำมนต์ ล้างยันต์ที่สลักบนกระโหลกให้มันหน่อย แล้วแผ่ส่วนบุญให้มันด้วย

มันก็จะพ้นจากโซ่ตรวนแห่งเวทย์มนต์ที่พระนั่นทำ

** เจ้าผีมันบอกว่า มันน่ะโดนเขาฆ่าตาย โดนพวกกะเหรี่ยงด้วยกันยิง กระดูกและกระโหลก โดนเอามาทำเวทย์มนต์

พระเจ้าของเวทย์มนต์ให้มันไปเข้าสิงคน แล้วอาละวาด ใครมาปราบก็ไม่ได้ เพราะเจ้าผีมันมีมนต์เกราะป้องกัน ต้องเจ้าของเวทย์มนต์ที่ส่งมาเท่านั้น จึงกำหราบได้

และพระจะไปร่ายเวทย์มนต์รักษา เพื่อได้ลาภสักการะ เพื่อได้สรรญเสริญ เพื่อให้คนยกย่องเป็นมหาอาจารย์ทางไสยเวทย์

เจ้าผีบอกว่า มันเป็นบาป มันไม่อยากทำ แต่โซ่ตรวนแห่งมนต์ มันบังคับให้ต้องทำ ขอให้ช่วยมันด้วย แล้วมันก็จางหายไป

เสียดาย…ข้านี้ลืมขอหวยมัน

ข้านั่งสมาธิต่อยันเช้า เจ้าสำนักมาหาแต่เช้า ข้าลุกขึ้นออกไปสวัสดี เจ้าสำนักแปลกใจที่เห็นข้าไม่เป็นอะไร

++ แค่ถามว่า เจออะไรบ้างไหม

** ข้าบอกว่าเจอผี แต่เขาไม่ได้ทำอะไร เขาชวนเล่นหมากรุก เจ้าสำนักจ้องหน้า ทำหน้าแบบหมาสงสัย

ข้าจึงขอตัวปีนขึ้นไปในถ้ำบนภูเขา ไปหาน้ำมาล้างมนต์ให้เจ้าผี ข้านี้ขึ้นหายไปคนเดียว ไปตั้งแต่เช้า ลืมถามผีว่าอยู่ถ้ำไหน

ที่สุดก็เจอ เป็นโถงถ้ำมีพระพุทธรูปตั้งอยู่ ที่นั่นมีเทวดาเยอะแยะ แค่นั่งลงสวดมนต์ว่า

++ โยโสภควา เสียงกระหึ่มเป็นร้อยก็ตอบรับพร้อมกันว่า

” อาราหั้ง สั๊มมาสั๊มพุทธโธ

ข้าต้องหยุดกึ๊ก ขนหัวลุกตั้ง สงสัยไม่ได้นอนประสาทชักหลอนได้ยินเสียงสวดรับซะนี่

จึงหยุดสวดแล้วบอกว่า มาขอน้ำมนต์จากเจ้าถ้ำ เจ้าป่าเจ้าเขาของที่นี่ ไปช่วยเจ้าผีมันหน่อย

พอได้น้ำได้อะไรก็ลงมาทำพิธีให้เจ้าผี แค่เอาน้ำพรมๆ ข้าก็ขนลุกซู่ แสดงว่ามันได้ของดีหลุดไปแล้ว

จากนั้นก็ตั้งจิตแผ่เมตตาให้เจ้าผีมัน เอากุศลที่ข้าสร้างเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ แผ่ให้เจ้าผีมันหมดเลย

บุญนี้จะเป็นเกราะป้องกันเจ้าผี ไม่ให้โดนใครมาผูกมัดและเรียกวิญญานออกไปได้อีก พวกไสยเวทย์ สู้อำนาจพุทธคุณไม่ได้ไม่ต้องแก้อะไร

ตอนเที่ยงจึงไปปีนถ้ำกับหลวงตาจักษ์อีก ไปเที่ยวกันหลายถ้ำ

เพราะที่ภูเขานั้น มันมีเหล็กไหล ข้าน่ะเจอซะด้วย แต่ข้าไม่เอามา ตอนหลังจากมา เจ้าสำนักยังคิดว่าข้าเอาเหล็กไหลของเขาออกมาเลย และบอกให้เอาไปคืน ไม่งั้นจะมีอันเป็นไป

แต่ข้าไม่สนใจ ข้าเอาออกมาเหมือนกัน เป็นแร่ก้อนดำๆ เงาๆ ไม่กี่ก้อน แต่ข้าทิ้งคืนไปในถ้ำแล้ว

นี่..เป็นเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อน เล่าให้ฟังหนุกๆ ว่าผีนะมันมี

คืนนี้โอเคนะ ข้าง่วงมากแล้ว หวัดดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง