การทำสมาธิจิตอย่างง่ายๆ แต่ได้ผล..

การทำสมาธิจิตอย่างง่ายๆ แต่ได้ผล..

5040
0
แบ่งปัน

การทำสมาธิจิตอย่างง่ายๆ แต่ได้ผล

ขอสาธุคุณยามเช้า ขอให้ทุกท่านเจริญๆๆๆ และร่ำรวยๆๆๆ

อากาศที่นี่เย็นเอามากๆ ยามเช้านี่ หากไม่อยู่ในสมาธิก็หนาวเหน็บไม่ต้องกระดิกกัน

เช้านี้จะขึ้นไปเทฐานองค์พระ พอมีเวลาเล็กน้อย ก็จะขอพูดถึง ”. การทำสมาธิจิต .”

เดี๋ยวนี้… การทำสมาธิจิต เป็นเรื่องที่ธรรมดาของแต่ละที่ ที่ได้ชี้แนะสอนกัน

หลายลัทธิเขาก็ชี้สอนกัน ชี้กันตั้งแต่ขั้นเด็กน้อยสูงขึ้นเรื่อยไปทีเดียว

การทำสมาธินี่ เราทำกันเพื่อให้ใจเราเคยชินกับภาวะการทรงตัวแบบอารมณ์เดียว

เพราะโดยธรรมชาติ ใจเราย่อมไหลไปตามกระแสแห่งผัสสะ ความทุกข์ความว้าวุ่นใจ มันก็เลยเกิด

แต่ที่ชี้ๆ กันส่วนใหญ่ ชี้อารมณ์หนักไป และให้ความหมายแห่งจุดประสงค์เพ้อไป

หลายคนจึงมักจะหลงและสงสัยในอาการแห่งจิตที่ปรุงขึ้นมา ทั้งทางมโน ทางกาย ทางเสียง ทางกลิ่น อะไรเหล่านี้

แต่อาการทั้งหลายที่เป็น วันนี้คงไม่อธิบาย… วันนี้จะอธิบาย .. การวางอารมณ์..

เมื่ออารมณ์ได้ สงสัยมันก็มักไม่เกิด ที่เกิดก็จะไม่ค่อยสงสัย

เช้าๆ ตื่นขึ้นมา ล้างหน้าล้างตา ให้มันสดชื่น หามุมซักมุน จะเป็นบนเตียงก็ได้ บนเก้าอี้ก็ได้ ตรงไหนก็ได้ นั่งท่าอะไรก็ได้ เอาซักที่ซักมุมที่เราชอบและเป็นส่วนตัว

หลับตาสบายๆ สูดอากาศยาวๆ เข้าไปทำความรู้สึกตัว กับอากาศที่หายเข้าไปในจมูกเรา ตามรู้ถึงอากาศไปยังท้องหรือทรวงอกก็ได้

แล้วถ่ายเทอากาศออกยาวๆ ทำความรู้ตัวกับลมที่ออกมาอีก นี่..ชักเข้าชักออกซักสี่ห้าพรืดยาวๆ แล้วค่อยผ่อนมาหายใจสบายๆ

จับความรู้สึกแค่หายใจเข้าออก ตรงทางเข้าของจมูกก็พอ เอากันแค่นี้

ทำความรู้สึกแจ่มใส ยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า หากอยากยิ้มจนแก้มฉีก ด้วยความสุขใจก็ไม่เป็นไร

ทำใจสบายๆ ในรอยยิ้ม ระลึกถึงบุญกุศลที่ได้ทำมา อย่างพวกที่มาขนหินทรายสร้างพระที่นี่ เอาตรงนั้นเลย เอามาเป็นที่ตั้งแห่งใจ มันจะเกิดความอิ่มใจและสุขใจ

วางอารมณ์สบายๆ เหมือนเรามาเที่ยวทะล เที่ยวป่าเที่ยวเขา วางใจสบายๆ

ตัดอารมณ์ขุ่นมัวออกไปให้หมด ระลึกนึกไว้ว่า ตอนนี้ ไม่เห็นจะมีทุกข์อะไร มีแต่ใจที่ระลึกถึงบุญอันเป็นกุศล นี่..เรากำลังทำการย้อมจิตให้กลับไปเป็นน้ำใสๆ กันล่ะ

ใจที่วางสบายๆ เอาอารมณ์ ทำความรู้สึกกับท่าทางและรูปกายตนเอง อย่าไปใส่ใจอะไรข้างนอก

นั่งสำรวจเอาความรู้สึกมองรูปตนเอง มองด้วยความรู้สึกว่า นี่แขน นี่ขา นี่ไหล่

นี่ฝ่าเท้า นี่หัวแม่มือ นี่ท้ายทอย นี่ตา นี่จมูก นี่.. ทำความรู้สึกรู้จักกับมัน

เมื่อเห็นว่าใจมันเก็บเกี่ยวกับความรู้สึกดีแล้ว ไม่ฟุ้งซ่านไปไหน เราค่อยล้อมความรู้สึกทั้งหลาย เข้ามาหาจุดใดจุดหนึ่ง เช่นการนั่งเพ่งดูรูปกายตนเอง

เพ่งท้อง เพ่งลมหายใจ อะไรก็ว่ากันไป

เพ่งซักพัก ค่อยมากำหนด ที่ลมหายใจ ทำความรู้สึกกับลมหายใจเข้า นับหนึ่ง

ทำความรู้สึกกับลมหายใจที่ออก นับหนึ่งปล่อยสบายๆ

ทำความรู้สึกกับลมหายใจเข้า นับสอง

ทำความรู้สึกกับลมหายใจออก นับสอง ปล่อยสบายๆ

ทำเช่นนี้ นับเข้านับออก ไปให้ถึงสิบ

หากเผลอ หากลืมการนับ ให้กลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่

หากครั้งแรกคล่อง นับได้ถึงสิบ ก็ให้ย้อนมาตั้งต้นนับหนึ่งใหม่

เอาซักสามรอบ ทำแค่นี้พอ หากทำได้ อาทิตย์ละสามครั้ง

โรคปวดหัว โรคเครียด โรคหวัด โรคนอนไม่หลับ ความฟุ้งซ่านอะไรทั้งหลาย จะทุเลาเบาบางจางคลายลงมาอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ต้องทำมาก ไม่ต้องทำนานหรอก เราไม่ใช่ฤษีหรือนักบวช เอาแค่นี้พอ

หากทำครบสิบได้สามครั้ง ใจเช่นนี้ เข้าถึงความเป็นพระโสดาบันได้ไม่ยาก

หากทำได้ครบสิบ ห้าครั้ง เป็นพระอนาคามีได้ไม่ยาก

หากทำเท่าที่ใจต้องการได้มากกว่าสิบ เป็นพระอรหันต์ได้ไม่ยาก

พระอริยเจ้า ใช้กำลังสมาธิแค่เล็กน้อย เพื่อมาเจือสติและปัญญา

เราฝึกกันแค่ว่า วางใจให้พอมีความสุขในอัตภาพนี่ ก็พอเพียงแล้ว

หากทำได้เช่นนี้ เราจะเห็นเวทนาที่เกิดกับใจเราได้ง่าย

เมื่อเห็นเวทนา หากมีปัญญามันก็จะเห็นอาการแห่งจิต อันเป็นที่มาแห่งเวทนา

เมื่อเห็นจิต หากมีปัญญามันก็จะเห็นความเป็นธรรมดาแห่งธรรม อันเป็นที่มาแห่งจิต

เมื่อเห็นธรรม หากมีปัญญามันก็เห็นเหตุปัจจัยแห่งสรรพสิ่ง อันเป็นที่มาแห่งธรรม

นี่..เราจะเข้าถึงความเป็นจริงได้ด้วยการวางใจ ทำสมาธิเล็กน้อยให้ได้นี่แหละ

ทำมากๆ มันจะกลายเป็นมานะ เอาแค่สบายๆ เท่าที่ทำได้ เอาแค่นั้นพอ

สมาธิมากไป ไม่มีวิริยะความเพียร ใจมันก็จะเกิดความเกียจคร้าน

วิริยะมากไป ไม่มีสมาธิ ใจมันก็จะเกิดความฟุ้งซ่าน

สมาธิมากไป ไม่มีปัญญา ใจมันก็จะเกิดโมหะ

ปัญญามากไป ไม่มีสมาธิ ใจมันก็จะเกิดทิฏฐิ

ปัญญามากไป ไม่มีศรัทธา ใจมันจะเกิดความสงสัย

ศรัทธามากไป ไม่มีปัญญา ใจมันจะเกิดความงมงาย

ปัญญา ศรัทธา วิริยะ สมาธิ หากขาดสติ ใจมันจะขาดกำลัง

นี่..พอเป็นแนวทางเล็กน้อยให้พวกเราลองเอาไปตรองดู ขอให้ใจมีกำลังทางพละห้ากัน

เช้านี้ขอสาธุคุณ ให้มีแต่ความสุขความเจริญกันทุกคน..!!

***********************************************
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง เข้าถึงธรรม….ตามความเป็นธรรมดา
ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง