อยู่อย่างว่างเปล่า ด้วยความไม่ว่างได้ไหม

อยู่อย่างว่างเปล่า ด้วยความไม่ว่างได้ไหม

433
0
แบ่งปัน

*** “อยู่อย่างว่างเปล่า ด้วยความไม่ว่างได้ไหม” ***

ยามเราแหงนมองท้องฟ้ามองความว่างเปล่า แล้วถ่มน้ำลายรดมันด้วยความสะใจ น้ำลายก้อนนั้น มันจะโดนฟ้าถุยใส่หน้าคุณเช่นกัน

ยามเราอาฆาต พยาบาท โกรธเคืองใคร ความพยาบาทโกรธเคืองนั้น มันก็ย้อนกลับมาตอกตะปูฝังในใจเราเป็นสัญญาเช่นกัน

ยามเราโอบกอดใครด้วยหัวใจที่รักและโหยหา ความรักและโหยหาก็ย้อนมาสู่ใจเราจากใครๆเขาเช่นกัน

ชีวิต..เมื่อกระทำสิ่งไรออกไปแล้ว สิ่งนั้นย่อมย้อนกลับมาสู่หัวใจและชีวิตเราอยู่เสมอ มันไม่มีอะไรว่าง..

ธรรมชาติคนเรานั้น หลงเป็นเจ้าของทุกๆเรื่องจนลืมไปว่า

แม้แต่ความคิด ความรู้สึก ความอยาก ที่คิดว่าเราเป็นนั้น เราก็ยังบังคับมันไม่ได้..

แต่เรายังอยากให้คนอื่นได้ดั่งใจเราด้วยความคิด
ความอยาก ความรู้สึกที่เราต้องการ

รู้ไหม..เราโง่น่ะที่คิดอย่างนั้น หรือไม่ค่อยคิด และคิดไม่ค่อยเป็น

ยามไม่ถูกใจ เราก็ทุรนทุรายเพื่อที่จะให้มันถูกใจ เหนื่อยไหม..

ยามถูกใจ เราก็ทุรนทุรายที่ไม่อยากให้มันเปลี่ยนไป เหนื่อยยิ่งเข้าไปอีก..

เรา..มันยึดมั่นไปเรื่อยด้วยความทุรนทุรายไม่มีที่สิ้นสุด เพราะตัณหาที่มากไปด้วยอุปาทานเป็นเหตุ

เราจึงอยากว่างเปล่าจากสรรพสิ่ง และเอาความว่างเปล่ามาเป็นนิพพาน พ้นไปเสียจากทุกข์

เราลืมไปว่า ตราบใดที่เรายังมีชีวิต มีรูป ตา หู ลิ้น จมูก กาย ใจ ก็ย่อมมี

เมื่อมี..ความว่างจากการผัสสะจากสิ่งเหล่านี้ย่อมไม่มี มันมีและปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา

คนบ้า..มักเข้าใจว่าความว่างคือความสุข ที่ไม่ต้องทุกข์กับอะไร มันลืมไปว่าเหตุแห่งความไม่ว่าง มันมีอยู่เสมอ

ความว่าง ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย

ความว่างคือไม่มีอะไรเลยในสิ่งที่มี ที่จะไปยึดมั่นถือมั่นได้

ว่างในสิ่งที่มี ไม่ใช่ไม่มีแล้วบอกว่าว่าง…

เราแค่อยู่กับความไม่ว่างทั้งหลายที่มันมี เพื่อให้ว่างเปล่าจากสิ่งทั้งหลายที่มันมีเช่นไร..นี่พุทธะท่านชี้เช่นนี้

ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ

แต่น้อยคนรู้ว่าตนเองต้องตาย ทั้งๆที่รู้ว่าตายแน่ๆ

เราเลยพากันประมาทใช้ชีวิตอย่างลืมไปว่าต้องตาย

เย็นนี้..นัดกิ๊กไปชอปปิ้งเดินสบายๆว่างเปล่าจากอีแก่ที่บ้าน

นี่..ใช้ชีวิตแบบนี้ เป็นชีวิตที่ว่างจากความตายใช่ไหม เพราะไม่นึกถึงมันเลย ว่าความตายจะมาเยือน..

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 29 เมษายน 2563

โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง