เนกขัมมะกรรมฐาน….บอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง

สวัสดีกับทุกท่าน ไม่ได้เจอกันตั้งเกือบสองอาทิตย์นะครับ 
หากเข้าเมือง จะไม่มีเวลาเพราะคนมากันเยอะ ตอนนี้กลับมายังป่าแห่งบุญญพลังแล้ว คงได้ฟังธรรมกันอีก จ้า 

การขึ้นกรรมฐาน เมื่ออาทิตยที่แล้ว บางคนเข้าใจว่าเป็นพิธีกรรม ขึ้นขันธ์ 5 ขันธ์ 8 ขันธ์อะไรก็ไม่รู้ คิดว่าขึ้นแล้วจะเจอผี เจอนั้นเจอนี่ เป็นการเรียกเอาวิญญาณมาครอบ จึงเกิดความกลัว

นี่ พวกชอบคิดไปเอง เอาความรู้สึกนึกคิดของตนเอง เข้าไปยัดเยียดซะนี่ บางคนบอกว่า เคยยกครูแล้ว ไม่ทำแล้ว เดี๋ยวผิดครู นี่ก็ยึดไปอีกแบบ

หลายคนจึงพลาดโอกาสไป และหลายคน มาไม่ได้ และหลายคน ติดธุระอันหลากหลาย ในบ่วงที่คล้องสะเอวตนเองอยู่

การขึ้นกรรมฐานครั้งที่ผ่านมา มันเป็นเหตุปัจจัยของ ไม่กี่คน ที่เขาทำสมาธิแล้วฟั้นเฝือ จึงมาขอให้ข้าช่วย ข้าจึงอธิบายไปว่า ใจมันขาดที่ตั้ง อาการเหล่านี้ จึงได้เกิด

หลายคน จึงอยากจะขึ้นกรรมฐานกัน แต่ข้านี้ขี้เกียจหลาย จึงบอกไปว่า โน่น ว่างๆ มาพร้อมๆ กันในพรรษาโน่น ไปขึ้น กันทีเดียว ขึ้นแล้ว ข้าจะอธิบาย การวางจิตและการเผชิญ อาการทางจิตให้

พอดี มีกิจธุระต้องลงไป ที่กรุงเทพ น้องๆ ก็เลยขอให้ขึ้นกรรมฐานที่นู่เลย เพราะมีคุณลุงที่เป็นพราหมณ์ ที่นับถือข้า อยากให้ข้าบอกกล่าวเหล่าพรหมเทวา

ว่าท่านนี้ ได้ทำการบวชใจตรงต่อพระพุทธชินสีห์แล้ว และขอถวายผ้าไตรศรัทธาโดยตรง เรื่องทั้งเรื่องมีแค่นี้

พวกเราหลายท่านรู้ข่าว ก็เลยเฮกันมาขึ้นกรรมฐานกัน เกือบ 70 คน แน่นไปทั้งบ้าน เมื่อก่อนโน้น ข้าจะช่วยยกจิตเพื่อให้เหล่าผู้ปฏิบัติ ได้ทำกรรมฐานกัน

แต่…หลายปีผ่านมา หาคนทำจริงน้อย ข้าเห็นว่าเสียเวลา จึงเลิกการขึ้นกรรมฐานไปเสีย กรรมฐานแต่ปาก มันไม่ได้ช่วยให้ใจมันเกิดปัญญาอะไร

และการขึ้นกรรมฐานใจนี้ บางคนที่ไม่เข้าใจ คิดว่า เมื่อขึ้นกรรมฐานแล้ว จะทำให้ร่ำรวย จะโชคดี จะค้าขายเจริญ จะถูกหวยไปโน่น

เมื่อก่อนจึงยกขบวนกันมาขึ้นกรรมฐานกัน ข้าจึงเลิกขึ้นไปซะ การขึ้นกรรมฐาน ไม่ใช่มุ่งหวังในแนวทางนั้น พวกนั้นเป็นแค่ของแถม เป็นทางผ่านของผลแห่งวิบากจิต ที่อาศัยเหตุและปัจจัยในใจ ที่มี กุศลจิต

การขึ้นกรรมฐานนี้ ที่ข้าขึ้นให้ เป็นการปราวณาในการบวช เรียกว่า เนกขัมมะกรรมฐาน เพื่อสร้างฐานกำลัง มุ่งสู่ความหลุดพ้น ในเพศแห่งฆราวาส หรือเพื่อเป็นที่ตั้ง ของเหล่าเพื่อน ที่เป็นเพศบรรพชิต ที่กำลังใจไม่พอเท่านั้น

เมื่อได้ขึ้นกรรมฐาน จะมีที่ตั้งแห่งใจ เมื่อมีที่ตั้งแห่งใจ มันก็มีกำลังใจที่จะเจริญรุดหน้า ในด้านแห่ง ศีล สมาธิ และปัญญา แต่จู่ๆ จะมาบอกว่า ขึ้นกรรมฐานแล้ว จะเป็นผู้มี ศีล สมาธิ ปัญญา โดยไม่ทำอะไร ก็หาไม่

เมื่อขึ้นแล้ว ต้องติดตามสอดส่อง และปฏิบัติ ไถ่ถามทางแห่งแนวทางธรรม ที่เราติดขัดจากการปฏิบัติ มันจึงจะเกิดผล ไม่ใช่ไปคิดว่า ทำพิธีขึ้นกรรมฐานไปแล้ว เป็นอันว่าจบ ตนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว

ไม่ใช่อย่างนั้น…!!   นั่นเป็นการยึดที่มีความหลงเอาหลายๆ การขึ้นกรรมฐานนี้ เมื่อขึ้นแล้ว ก็มารับกรรมฐาน การรับกรรมฐานก็คือ การบอกแนวทาง แห่งการดำเนิน ในการวางจิตเพื่อการพิจารณา

ในที่นี้ เป็นการพิจารณา กายคตานุสติกรรมฐาน ผู้บวชที่ต้องเข้าพิธีบวชใน โบสถ์ ก็รับกรรมฐาน กายคตานุสติดรรมฐาน คือ พิจารณา เกศา โลมา นขา ทันตา ตะโจ อะไรอย่างนี้ ไม่ได้ยุ่งหรือมุ่งหมายเกี่ยวกับผีอะไร

การขึ้นกรรมฐานในขั้นกายคตานุสตินี้ เป็นกรรมฐาน ในขั้นสมาธิ คือมุ่งสู่ความเป็นอนาคามีผลเป็นหลัก เมื่อมีกำลัง ก็จะก้าวขึ้นสู่ภูมิมหาปัญญา คืออรหันตผลเป็นเป้าหมายสูงสุด มันอาศัยเหตุปัจจัยกัน

ฉะนั้น คนที่มาขึ้นกรรมฐาน กับข้า ส่วนใหญ่มีธรรมและมีศีล เป็นภาชนะรองรับธรรมกันอยู่แล้ว กรรมฐานนี้จึงมีผลมาก แต่เหล่าน้องๆ ทั้งหลายที่ยังมึนๆ อยู่ ก็เลยได้มีโอกาส ร่วมสังฆกรรมกับเขาด้วย จึงนับว่าเป็นโอกาศดี

การขึ้นกรรมฐาน ทำให้ข้าเหนื่อยมาก การขึ้นที่สมบรูณ์ ควรมาทำพิธีบวชใจ ในวิหารแห่งบุญญพลัง จึงจะสมบรูณ์ ข้าจะได้อบรบจิตและอธิบาย การวางจิต ตั้งแต่เบื้องต้นไปจนถึงขั้นสูงสุด ตามแต่จริตของแต่ละคน

หากไม่เอาจริง อย่ามาทำเลย มันเสียเวลา และเป็นการใช้ข้า ที่เกิดความสูญเปล่า มันจะเป็นบาปไปเปล่าๆ การขึ้นกรรมฐาน ที่ใจมอบขึ้นสู่ตรงต่อพระพุทธชินสีห์ เสนียดจัญไรใดๆ ทั้งหลาย ที่ติดตัวมา ที่เขาเรียกว่า โดนของ สลายมลายหายหมด

สำคัญต้องตั้งมั่นจริง สิ่งชั่วร้าย เพศภัยมนต์ดำทั้งหลาย สูญสลายหมด พวกที่ขึ้นไปแล้ว หากมีใจมาทางกุศล จะรู้สึกได้ว่า มีพลังบางอย่าง กระตุ้นให้ลุกขึ้นมาทำกรรมฐาน

หากการกระตุ้น เกิน 7 ครั้ง แล้วไม่มีผล การขึ้นกรรมฐานกับข้า ก็จะสูญสลายไป กลับไปสู่ความโมฆะ เช่นเดิม การขึ้นกรรมฐานนี้ จะไม่มีผลอะไรกับผู้ที่ทำไม่จริง หากไม่ตั้งใจ ผลบาปจะเกิดขึ้นในใจ ที่เราทั้งหลาย หลอกใช้แรงงานสงฆ์

ขอบอกว่า บาปนะเว้ย สายนี้ คงพอแค่นี้ เขารอทานข้าว ขอให้โชคดีและร่ำรวยทุกคน จ้า.. คนที่ถามคำถามไว้ เดี๋ยวว่างแล้วจะเข้ามาอธิบายจ้า..

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ใจที่มี..กรรมฐาน ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง