ยืนรับพร พระอาบัติ..!!

ยืนรับพร พระอาบัติ..!!

1858
0
แบ่งปัน

ยืนรับพร พระอาบัติ..!!มีคนเขาถามว่า ทำไมพระอาจารย์บอกว่า เวลาใส่บาตรนี่ ชาวบ้านต้องยืน นั่งแล้วพระอาบัติ ฟังให้ดีนะ !!

บางคนตีความไม่ค่อยถูกการใส่บาตรนั้น ขณะที่ใส่ เราจะยืนหรือนั่งก็ได้ หากพระท่านยืน แต่ถ้าหากพระท่านนั่ง เราก็ต้องนั่งใส่ด้วยความนอบน้อม แต่หากพระยืน นี่..ไม่เป็นไร เราจะยืนใส่หรือนั่งใส่นี่ ไม่เป็นไร

ทีนี้ เมื่อใส่แล้ว เราพึงถอยออกมารับพร นี่.. ตรงนี้ที่ข้าให้ความหมาย…

การรับพรนี้ เป็นการรับธรรมอย่างหนึ่ง เพื่อความเจริญใจ มันเป็นประเพณีของเราชาวไทย ที่ยึดๆ ต่อๆ กันมา เมื่อเรามารับพร

หากพระท่านยืน เราก็ยืนรับเช่นกัน อย่างนี้ไม่เป็นไร

แต่หากพระให้พร เรานั่งรับพร อย่างนี้ พระอาบัติ

ทีนี้ เหล่าพระเขาก็ไม่ค่อยจะรู้กัน ว่าหากโยมนั่งรับพรนี่ พระต้องอาบัติ มันก็เลยนั่งรับกันจนกลายเป็นประเพณี ดูดีๆเหมือนเป็นการนั่งรับอย่างนอบน้อม

ข้าเองนี้ หากเหล่าโยมรับพร ข้าจะบอกให้ยืนขึ้น บางรายก็พากันมองหน้ากัน แต่ไม่ยืน เมื่อไม่ยืน ข้าก็เดินจากไป โดยไม่ให้พร

ทีนี้ เมื่อไม่ให้พร มันก็งอนข้า แต่ข้านี้ ช่างแม่งมันอยู่แล้ว ปล่อยให้มันงอนๆ กันไป บางพวกเขาขอนั่งรับได้ไหม เขารู้สึกไม่ดี เพราะนั่งรับพร สืบๆ ต่อๆ กันมานาน

ข้าก็พยักหน้ายินยอม แต่ข้าจะนั่งลงพับเพียบกับพื้น และกล่าวให้พร พวกมันก็มองหน้าเป็นแมวสงสัยกันอีก

ครั้งหนึ่งที่กาญจนบุรี ที่สะพานแม่น้ำแคว ข้าเคยไปรับบาตรที่นั้น พวกเขาใส่บาตรเสร็จ ต่างก็นั่งยองๆ กันเป็นแถว

ข้าบอกให้ยืนขึ้น เขาก็ไม่ยอม เมื่อไม่ยอมข้าก็เลยนั่ง วันนั้น นักท่องเที่ยวจึงพากันนั่งสี่ห้าสิบคน ฟังข้าให้พร ทุกคนต่างก็แปลกใจ ว่าทำไม พระจึงต้องนั่งให้พร เขาไม่กล้าเดินไปมา เพราะเห็นว่า พระนั่งอยู่

เรื่องนี้ ทุกคนไม่ค่อยรู้ หากเรานั่ง พระยืนให้พร เราไม่เป็นไร แต่พระจะอาบัติทันที อาบัติบ่อยๆ ศีลมันก็ด่างพร้อย

ทำไมถึงอาบัติ..??

การอาบัตินี้ มันมีมาแต่โบราณแล้ว ท่านได้ห้ามไว้ และเรื่องเหล่านี้ ในชาดกก็มี ในสมัยของไทยเราเอง สมัยหนึ่ง สาวๆ เขาจะใส่เสื้อคอกระเช้า

เสื้อพวกนี้ คอมันเว้าเข้าไปจนเห็นร่องอก คราวนี้เมื่อเธอนั่งลง พระก็ยืนให้พร นมน้องนางก็อยู่ในร่องตาของเหล่าอาตมาพอดี

พระให้พรไปไข่เริ่มแข็งไป ภาษาใต้เรียกว่า ไข่จ้อง กว่าจะให้จบ สบงก็ตุง มันคงอยากมุดออกมาเริงร่าน่าหนุกหนาน บางนาง ใส่กระโปรงสั้น นั่งลงเมื่อไหร่ ทั้งนมทั้งโคนขายันหอยมันล่องลอย มาทิ่มหน้าพระ

เหล่าพระจมูกกำเดากระชูด เพราะโดนนมขวิดเดินไข่จ้องกลับวัดไม่ถูก คำบริกรรมจากพุทโธกลายเป็นขาวหนอ พอกลับวัด บางพวกก็มาขำคิกๆกันและทักทายกัน ว่าเห็นไหมๆๆ ใครไม่ใส่ใจเพราะสำรวมใจ มันก็เชย

บางพวกจำได้ไม่จาง อยู่เปล่าเปลี่ยวคนเดียว พาลจะชักว่าวเอา นี่.. ท่านจึงให้โยมยืนขึ้น เมื่อเวลาพระยืน พระจะได้ไม่อาบัติ โยมมันไม่อาบัติอะไรอยู่แล้ว แต่โยมสาวๆจะก่อลมให้พระเอาว่าวขึ้น ว่าวดุ๊ยดุ่ยรู้จักไหม

พวกพระหนุ่มๆ กลัดมัน เจอขาอ่อนๆ ขาวๆเข้าไป สาวๆน่ะไม่เป็นไร แต่ขาอ่อนของนาง มันกำลังจะขวิดทิ่มตาพระ

และที่สำคัญ การให้พร ถือเป็นโอวาทธรรมอย่างหนึ่ง พระยืนให้โอวาท แต่คนฟังกลับนั่งฟัง นี่..มันเป็นการไม่เคารพกันในที ตามบาลีที่เขาสมมุติ อีกคนหนึ่งยืนอีกคนหนึ่งนั่ง ตรงนี้ โบราณท่านว่าไม่เหมาะ

ธรรมทางวินัยในเสขิยวัตรเขาก็บอกไว้ เราจะไม่แสดงธรรมโดยการยืน หากผู้อื่นนั่ง และเราจะไม่แสดงธรรมโดยการนั่ง หากผู้อื่นยืน นี่..ตรงนี้ท่านว่ากันมาแต่โบราณ

พระหลายรูปเมื่อรับบาตรแล้ว เดินไปเลยไม่รอให้พรนี่ก็มี รับเสร็จเดินจากไปเลย เพราะฟังๆเขาว่ามาจึงประพฤติตาม แต่ไม่รู้เหตุ เรียกว่าทำตามๆรุ่นพี่ว่า

หรือเพราะคิดว่าตามตำราบอก แต่ไม่รู้นัยยะความจริง ว่าจริงๆไม่ต้องให้พรเพื่ออะไร

จริงๆหากดูตามตำรา พระโบราณท่านก็ให้พรเป็นภาษาบาลีสั้นๆเหมือนกัน แม้แต่พระพุทธองค์เจ้า ท่านก็ให้พร

ข้าเองไปทางอีสาน คนอีสานเขานั่งลงกับพื้น ข้าบอกให้ลุกขึ้นยืน เขาก็เลยงงๆ กัน บางคนก็ดื้อ บางคนก็ยืน แต่ข้าไม่ถือสา ตรงไหนถ้าบอกแล้วดื้อ ข้าก็เดินเลยไป เขาก็งงๆนั่งมองหน้ากัน

บางคนไปถามพระเขา พระเขาก็บอกว่าต้องนั่งยืนไม่ได้ แต่ข้าไม่สนหรอก ข้ารู้มาอย่างนี้ ข้าไม่รับบาตร คนอีสานที่ตื่นเช้าๆ มาใส่บาตร เกือบทั้งหมดเป็นคนสูงอายุบางคนใส่คอกระเช้า

พวกแกคิดดู หากข้ายอมมนุษย์ป้าๆ ข้าคงไม่มีชีวิตรอดมาเล่าอะไรให้พวกเราฟัง เพราะหากป้าๆ เขาดื้อและนั่งลง

ข้าก็ย่อมมองเห็นร่องอกที่เว้าลงไปเป็นแน่แท้ ที่สำคัญเลย จะทำให้ข้ากลับมาไม่ได้และตายด้วยโรคอาพาธก็คือ แต่ละป้า นมหมดอายุเป็นพิษกันทั้งนั้น อ.ย. ไม่รับรองแล้ว เจอเข้าไปข้าท้องเสียตายเลย

นี่…. เป็นที่มา ของการให้ยืนรับพร คืนนี้หวัดดี

***********************
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง