สร้างกันไปทำไมให้วุ่นวายหว่า

สร้างกันไปทำไมให้วุ่นวายหว่า

751
0
แบ่งปัน

ผลไม้ย่อมมีเปลือกฉันใด

ใจอันละเอียดอ่อนย่อมต้องการเปลือกมาห่อหุ้ม

เราไม่ต้องสร้างต้องทำอะไรเลยก็ได้

เพราะเราได้กินเนื้อเยื่ออันแสนหวานอิ่มหนำสำราญใจแล้ว

แล้วลูกเราหลานเราที่ยังมาไม่ถึงมันไม่มีหรือ

รึจะกัดกินเนื้อเยื่อกันแต่พออิ่มเรากันเพียงแค่นี้

เมล็ดพันธุ์ที่เนื้อเยื่อห่อหุ้ม เรากินกันอิ่มดีแล้ว

เราจะเอาเมล็ดที่ไร้เนื้อเยื่อ ไร้ความหมาย ไร้มูลค่าต่อใจใครๆ

สร้างเป็นเมล็ดพันธุ์ต้นใหม่ ให้ออกดอกผล

เพื่อเป็นเปลือกรักษาเนื้อเยื่ออันหอมหวานให้แก่ชนรุ่นหลัง มันผิดหรือ

ทานแล้วแดกแล้วยัดแล้ว อิ่มแล้วกูไม่เอาอะไรแล้ว เช่นนั้นหรือ

เก็บเนื้อเยื่อรักษาไว้ในเปลือก ที่มันเป็นเมล็ด มันมองไม่เห็นเนื้อเยื่อหรอก

ค่อยๆรดน้ำค่อยๆพรวนดินค่อยพยุงใส่ปุ๋ยลงไปในผืนดิน ที่วางเปลือกแห่งเมล็ดพันธุ์

ไม่นานกิ่งก้านสาขาดอกใบก็สยายใหญ่ ให้ลูกให้ผล

เราต่างทนรดน้ำที่โคน ลูกเอ๋ย ผลมันไปเกิดที่ปลาย

มันเป็นสิ่งตลกและไร้ความหมาย สำหรับความที่ล่อแต่ยอดหวาน

ไม่มีโคนดอกผลจะมาจากไหน

สละได้ไหม กำลังใจเฝ้ารดน้ำที่โคนไว้ เพื่อยอดปลายจะได้มีผลแก่ลูกหลาน

ผลที่หอมหวานเป็นเปลือกแห่งเนื้อเยื่อ

เนื้อเยื่อที่หอมหวานเป็นเปลือกของเมล็ด

เมล็ดที่ไร้ค่าเป็นเปลือกของราก

รากที่หยั่งลงดินเป็นเปลือกของโคนต้น

โคนต้นเป็นเปลือกของปลายยอด

ปลายยอดเป็นเปลือกของดอกผล

ดอกผลเป็นเปลือกของผล

ผลเป็นเปลือกแห่งเนื้อเยื่ออันหวานหอม

เราอย่าแดกแค่เปลือกที่คิดว่าเป็นเนื้อเยื่อ

เราช่วยกันรักษาเนื้อเยื่อด้วยการสร้างเปลือก