ยอมรับมันซะ…

ยอมรับมันซะ…

2195
0
แบ่งปัน

<< พระอาจารย์ : หวัดดียามเช้าจ้า เช้านี้ขอแช่งให้ทุกคน ยิ้มได้ เมื่อความพรากจาก มันมาถึง ขอเป็นกำลังใจ 

>> ลูกศิษย์ : กราบนมัสการค่ะ สาธุธรรมค่ะ แค่คิดก็แปล๊บๆ ที่ใจถึงเวลาก็ไม่รู้จะเป็นยังไง จะยิ้มท่าไหนดีหนอ 

<< พระอาจารย์ : เมื่อถึงเวลา ยังไงโดยธรรมชาติ ใจมันก็ทำใจปรับสภาพของมันได้ด้วยตัวมันเอง จะมีเราเศร้าหรือไม่มีเราเศร้า มันก็ปรับของมันเอง หน่อง

ตอนนี้ เราพอมีกำลัง อย่างน้อยก็ย้อมใจเราให้เกิดกำลัง มองไปยังสิ่งที่หวงแหนและคิดอยู่เนืองๆ ว่า…วันหนึ่ง สิ่งที่รักที่หวงแหนสิ่งนี้ ก็ต้องจากเราไป หรือไม่ เราก็ต้องจากเขาไป

ใจที่ไม่เคยได้ตระเตรียม มันแทบสลายเจียนตายเชียวไอ้น้องเอ๋ย

ความพรากจากนี้ เราทุกคนต้องเผชิญกันอยู่แล้ว มันเป็นของตายที่หนีไม่พ้น จึงควรเตรียมพร้อมในการทำใจ

ในภาพคือลูกชายของเจ้า นาเดีย เพิ่งถือกำเนิดลืมตามาบนโลก เมื่อวันที่ 19 วิบากแห่งเด็ก มีกำลังที่จะดึงผู้คนให้หลงรัก แต่ยิ่งรัก มีดคมมันก็ปักและกรีดใจ อยู่เบื้องหลัง เรามองเห็นความเจ็บปวด ที่ซ่อนตัวมาไหม

เหลียวไปดูเหลียวไปมองข้างหลังบ้าง วันใดที่พรากจาก วันนั้นมันกระชากและกระโจนทิ่มแทงใจเจ้าของ ที่เฝ้าหวงแหน

มันเป็นธรรมที่มองเห็นยาก เมื่อเผชิญแล้ว ใจเราจึงเห็นว่า โลกนี้..มันไม่มีธรรมสำหรับเรา เรา..ก็เลยเจ็บปวด
ทุกอย่างมันซ่อนตัวอยู่ในซึ่งกันและกัน เราเห็นมันไหม

ธรรมนั้น ย่อมเอาทุกข์ที่กำลังจะเกิด เกิดขึ้นแล้ว และเกิดไปแล้ว มาเป็นเส้นทางในการดำเนินออกจากทุกข์

สุขไหนเลย…จะมุ่งออกจากทุกข์ได้ ในเมื่อทุกข์นั้นมันซ่อนอยู่ในตัวสุข ที่เรามองไม่เห็น

ยิ่งทุกข์ ยิ่งโดนบีบคั้น หากไร้ปัญญา ใจมันก็จมลงไปในกระแสห้วงแห่งทุกข์

แต่หากมีปัญญา ทุกข์ทั้งหลาย เป็นกุโลบายให้เรา ก้าวพ้นเสียไปจากทุกข์

ขี้หมาอยู่ตรงหน้า ใครไม่รู้จักขี้หมา มันรู้ก็ต่อเมื่อเหยียบ

คนที่รู้จักขี้หมา มันก้าวพ้นไปจากการเหยียบ แม้ไม่เหยียบ มันก็รู้ว่านี้คือขี้หมา

รู้ว่าเป็นขี้หมาเพราะความเหม็น เพราะไม่รู้จักและไม่เห็นขี้หมา กับรู้ว่าเป็นขี้หมา เพราะมองเห็น มันแตกต่างกัน..

ธรรมชาตินั้นเราพรากกันอยู่ทุกวัน เพียงแต่เราไม่เห็นและต้านทานความพรากนั้นได้

แต่เมื่อไหร่ความพรากนั้น มันยิ่งใหญ่ และเกิดขึ้นมาฉับพลันกระชากใจ หากไร้กำลังใจ อะไรๆๆๆๆ ในโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเรา

นี่..คนที่ไม่เตรียมใจ ใจเจ้าของย่อมยอมรับไม่ได้ และไม่ยอมรับความจริงทั้งหลาย ที่มันต้องเกิด

หมั่นตระเตรียมใจไว้ ไอ้พี่น้องทั้งหลาย ท่องๆ ไว้ เราแก่เป็นธรรมดา เราเจ็บเป็นธรรมดา เราพรากจากสิ่งที่รักเป็นธรรมดา
เราโศกเศ้ร้าเป็นธรรมดา

เมื่อมีเกิด ก็ย่อมมีจากกัน เป็นธรรมดา ธรรมดานี้คือธรรม ธรรมนี้ก็คือ ความเป็นธรรมดา ที่มันมีมันเป็นของมัน
เช่นนั้นเอง มองเห็นมันไหมไอ้พี่น้องร่วมรุ่นเกิดมาทั้งหลาย

หมั่นเตรียมใจไว้ เปิดเปลือกตาขึ้นมา ให้มันมีดวงตาเห็นธรรม

ธรรมชาติแสดงธรรมอยู่ แต่เราไม่มีดวงตาเพ่งดู

ถึงดู ก็มองไม่ค่อยจะรู้

ถึงรู้ ก็มองไม่ค่อยจะเห็น

ถึงเห็น ก็มองไม่ค่อยจะเป็น

ถึงเป็น ก็เป็นอย่างควายๆ ที่มองดู

มันไม่รู้ว่าทั้งหลาย นี่คือธรรม เฮ่อออ เจ็บปวดกับการเกิดมาแล้วต้องจาก อย่าอยากเกิดกันเหอะเรา..

การไม่เกิด เริ่มตรงที่ มองให้เห็นความจริง ว่าโลกมันเป็นของมันเช่นนี้

แล้วพยายาม ลด ละ เลิก ตัณหาที่ผุดขึ้นมาจากใจ ที่ไม่รู้จบดวงนี้ ให้มัน ทุเลา เบาบาง จางคลาย ลงไปตามกำลังแห่งปัญญาเถิด

ยามผัสสะแล้วใจเกิด หากเกินกำลัง ก็ให้มีสติเข้ามาประคองใจ

ปกป้องใจดวงนี้ ให้มีความละอายต่อบาป คนที่มีความละอายต่อบาป มันจะลด ละ เลิก โดยธรรมชาติของมัน เรียกว่า เป็นอาริยะชนคนผู้มีศีล

ศีลนี้ จะเฝ้ารักษาเจ้าของ เพื่อให้ไหลไปตามครรลอง กระแสแห่งธาร ที่ไม่ย้อนคืนกลับมาเกิด

เริ่มจากตรงนี้ ตรงที่ ใจละอายต่อบาป ทางเดินแห่งใจที่ละอายต่อบาป เรียกว่า เป็นผู้ดำเนินมาทาง มรรคา เริ่มที่มีสติและพิจารณา ลด ละ เลิก ตัณหาที่ผุดขึ้นมาจากใจ อันไม่รู้จบนี้ ให้พอทนพอต้านกับกระแสแห่งตัณหาได้

จึงพอได้ชื่อว่า เป็นผู้ใกล้ และดำเนินอยู่บนทาง ที่ไม่กลับมาเกิด..

เช้านี้ขอสวัสดีกับทุกๆ คน ขอแช่งชักให้ร่ำรวย ผ่านความทุกข์โศกได้อย่างมั่งคง เจริญในหน้าที่การงาน
ครอบครัวมีความสุข ไร้ทุกข์ไร้โศกโดยทั่วหน้ากัน

ขอสาธุคุณ..

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ยามพราก…ใจพร้อมจาก ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง