นี่พระด่า..!!!!
>> สหธรรมมิก : วัด และ พระจะมีมาก็เพราะพุทธเจ้าเป
<< พระอาจารย์ : นี่..เด็กเขาเชิญมาคุย จึงขออธิบายให้ท่านฟัง ท่าน พระครูวิสุทธิธรรมธร วัดทรงธรรม เป็นถึงพระครู ฟังบทความคนอื่นแล้วมีความค
อยู่ๆ ก็มาตีความ ประจานผู้อื่นว่า ดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ศาสนาพุทธ ตลอดจน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามัญสำนึกของการเป็นพระครู
มันต้องว่ามา ว่าตรงไหนที่ตนเองฟังแล้วมี
หากธรรมที่สาดออกไป มันไม่ดี สังคมเขาตัดสินของเขาเอง เพราะธรรมทั้งหลายที่กระจาย
แต่ถ้าพระมันเลวๆ วัดเลวๆ มันหลอกลวงผู้คน ฟังเข้า มันย่อมสะดุ้งละ
เอามาถกมาคุยกันตรงๆ ธรรมบางบท แค่ชี้ให้เห็นเหี้ย นั่นเห็นไหม เหี้ยมันลักษณะอย่างนั้น เห็นแบบนั้นไหม
ไม่ได้ไปว่าใคร ว่าเป็นเหี้ย หรือเป็นพระเหี้ยๆ แค่ชี้ ว่าเหี้ยน่ะ มันเป็นของมันอย่างนี้ ท่านเข้าใจไหม
ผู้บวชเข้ามาแล้ว ต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองด้ว
แต่ต่างก็ช่วยกันดูแลรักษาศ
นี่เอาอารมณ์ตนเองมาตัดสิน และยัดเยียดว่าคนอื่น ดูหมิ่นและเหยียดหยามศาสนา
เป็นถึงพระครู โพล่งวาจา ด้วยทิฏฐิมานะตน ยัดเยียดตัดสินคน ไม่ควรเลย..!!
ทำหน้าที่ ที่ตนเองมีหน้าที่ของตนไปเห
จะได้ไม่ต้องหลงไปกราบไปไหว
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 6 กันยายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง >>
นี่น้องๆเขาสงสัยว่า…!!!!
ลูกศิษย์ : วันนี้ได้คุยกับเพื่อน ที่ถามว่า ทำไม พอจ.พูดไม่ค่อยเพราะ (เค้าเพิ่งเคยอ่านไม่กี่เรื
นู๋ตอบไปว่า
“55 พระแต่ละองค์มีจริต ต่างกัน เหมือนคนเรานี่ไง แม้พระอรหันต์ก้อยังมาจากหล
ในการเกิดเป็นคนชาตินึง จะได้พูดคุยแบบเจอตัวกันกับ
อ่านธรรม แบบอ่านแล้วดูเก๋ๆ แบบฉลาดล้ำ ต้องไปอ่านท่าน ว. // อ่านธรรม เป็นขำเยอะกว่าเนื้อหา ก็พระมหาสมปอง
แต่ถ้าพูดตรง ไม่ต้องเพราะ แต่ถ้าเจอตัวถามอะไร ตอบที ทิ่มใจน้ำตาร่วง กระซวกไส้ ต้อง พระธรรมกะ”
ถ้าการพูดถึงพอจ.นี้ เป็นการปรามาสครูบาอาจารย์ นู๋กราบขอขมาด้วยค่า…
<< พระอาจารย์ : ฮ่าๆๆๆ ข้ามันลูกแม่ค้า พูดเพราะๆ อย่างลูกแม่ค้า มันก็คงเป็นที่น่ารังเกียจข
นั่น…เหล่าลูกขุนนางเขาคิ
และคำพูดวาจาของเหล่าลูกขุน
พูดเพราะไม่เพราะอยู่ที่ใจเ
เพราะถูกใจ มันก็ชอบไปซะหมด หากไม่ถูกใจ มันก็ไม่ชอบไปซะหมดเหมือนกั
โจร..มันก็พูดเพราะได้ เพราะเป็นสาธารณะที่ใครๆ ก็ทำได้
ปลาร้ามันเหม็นเน่าเป็นที่น
ดอกบัวงามท่ามกลางโคลนตม เขาเอาแต่ดอกบัว เขาหาได้ใส่ใจโคลนตมที่หล่อ
เลี้ยงดอกบัวไม่
เป็นธรรมชาติของผู้หลงยึดดี
ชอบใจก็สรรเสริญไม่ชอบใจก็ด
ทั้งสรรเสริญและด่าเปิงมันก
ไม่เป็นการปรามาสอะไรดอกจ้า
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
นี่รวมๆแล้ว เคยโดนมาเยอะ..!!!!
สมัยที่ปฏิบัติภาวนาด้วย ทำงานด้วย ตัวนี้ผอมแห้ง เพราะกินวันละมื้อ บางวันก็ไม่ได้กิน
ไม่ใช่ไม่มีกิน แต่การกินเป็นเรื่องเล็กน้อ
น้ำหนักมันก็หายไปตามเหตุปั
เจ็ดแปดวัน จึงจะขี้ซักที
ที่นี่ใครมาอยู่จะว่า แดดแรงมากๆ ข้าคล้ำอยู่แล้ว
กลายเป็นเงาะป่าซาไกไปเลย ทั้งดำและทั้งแห้งผอม
ทีนี้เวลาใครมาหา เขาก็ว่า ข้านี้สกปรก เสื้อผ้าขาดและปะรุ่งริ่ง
ดูเป็นผู้ยากไร้อัตคัต และยาจกสิ้นดี
หลายคนเห็นแล้วก็เบือนหน้าห
บางคนบอกว่า ได้กลิ่นเหล้าจากข้าก็เคยมี
ทั้งๆ ที่ชีวิตนี้ ไม่เคยจะกินเหล้ากับใครเขา
คนร่างสูงใหญ่หนักกว่า 80 กิโล
พอเป็นสงฆ์เหลือแค่ 52 กิโล บางคนก็เข้าใจว่าข้านี่ เป็นโรคร้าย
คนเรานี่ มันตลกสิ้นดี เดี๋ยวนี้ หนักเกือบ 70 กิโล
ทั้งๆ ที่กินครั้งเดียวตั้งแต่บวช
นี่..คนเรา มักจะเอาความรู้สึกแห่งตนเข
ธรรมชาติแห่งคนธรรมดา ที่เกิดมาไม่มีห่าอะไร มักจะเป็นไป
ในความคิดเห็นด้วยอำนาจแห่ง
นี่ถ้าข้ามามัวคอยแก้ตัว ชาตินี้ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว
อยู่ที่นี่ผู้เดียว เคยโดนข้อหาเป็นร้อยข้อหา ที่ต่างพากันมา เพ่งโทษและคิดเอาเอง
แต่ข้าก็ยืนยงมาได้ ด้วยหัวใจยอมรับข้อหา ว่า “มันเป็นเช่นนั้นรึ”
ฮ่าๆๆ ที่สุด เขาก็ว่าเป็นพระบ้า เลยปล่อยหางมา และไม่ยุ่งอะไรกันอีกเลย
ใครว่ามา หากไม่แก้ตัวก็ยอมรับกันไป ให้ใครเขาได้สบายใจเถอะพี่น
เขาว่าเหี้ย ก็ยอมรับไปว่าเหี้ย จะได้มีเหี้ยแค่ตัวเดียว
หมาตัวหนึ่งเห่า หากเห่าตอบ มันก็เป็นหมาสองตัวเห่า มันจะยิ่งหนวกหู
อยู่กันแค่พอสบาย อีกไม่นานก็ต้องจากกันอยู่แ
จากกันอย่างปราชญ์ดีกว่าจาก
หากเป็นเปรตที่ห่อหุ้มด้วยป
เราจะอยู่อย่างเปรตหรือจะอย
เลือกแล้ว วิบาก ทั้งทางปราชญ์และเปรต ย่อมให้ผลสนอง
ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน
เรา..เกิดมาเลือกทางแล้วหรื
หรือเรา ให้โชคชะตาฟ้าลิขิต ว่าจะเป็นเปรตหรือปราชญ์แล้
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง