ยอดคนบวชแล้วแสวงหาที่ลับคมปัญญา

**** “ยอดคนบวชแล้วแสวงหาที่ลับคมปัญญา” ****

การบวชนั้นสำคัญต่อชีวิตทีเดียว

หลายคนบวชมาเปลืองข้าวสุกชาวบ้าน

หลายคนบวชมาเพื่อเลี้ยงชีพ

หลายคนบวชมาเพื่อจุดมุ่งหมาย ตามเหตุปัจจัยเงื่อนไข

แต่ไม่ว่าบวชมาแล้วจะอยู่ในร่องไหน

การบวชนั้นสำคัญและมีคุณต่อจิตใจผู้ที่ได้บวช

บางคนบวชแล้วอยากภาวนาแต่อย่างเดียว

บางคนบวชแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีใครชี้ทาง

มีพระมากมายมาหาข้า ท่านเหล่านี้ ได้ฟังธรรมผ่านโซเชี่ยนนี่แหละ

เห็นเหตุเห็นผลทางธรรมที่ตามรู้ได้อย่างไม่กังขา

ท่านก็เลยเดินทางมาหามาฟังธรรมกัน

นี่..ท่านเหล่านี้นี่ บวชมาแล้วมีใจมุ่งสู่ธรรม กราบใจตนเองได้

ธรรมนั้นจะฉายแสงแก่ผู้มีปัญญาเท่านั้น

ธรรมสดๆที่ฟังแล้วแสนพิศดารใจ ทั้งๆที่มันก็อยู่ตรงหน้าใกล้ๆเรานี่แหละ

นี่..ท่านเหล่านั้นต่างได้ฟัง

ธรรมแห่งประสพการณ์ ที่ทุกท่านเป็นเจ้าของได้

เพราะธรรมทั้งหลาย มันก็แสดงตัวอยู่ในตัวของทุกๆท่านอยู่แล้ว

เพียงแต่ขาดผู้ชี้ ที่ชี้ให้เห็นตามความเป็นจริงเท่านั้น

หลวงพ่อเพชร อายุหกสิบเศษ กว่าสี่สิบพรรษา เดินทางมาจากนครสวรรค์

ท่านเดินทางมากับหมู่คณะสงฆ์ เพื่อมาขอฟังธรรม

ฟังแล้วก็แสนอิ่มเอิบใจ มีลู่ทางแห่งชีวิตที่พอจะได้เดินต่อไป

ด้วยความตั้งมั่นในความเป็นสงฆ์ ที่ใจจะไม่มืดบอดในความเป็นเพศบรรพชิตแน่

นี่..พระผู้บวชแล้ว ใจแสวงหาธรรม

พระเช่นนี้ เป็นผู้เจริญ เพราะใจเป็นพระที่หาทางพ้นทุกข์

มีพระมากมายที่แก่พรรษาได้เดินทางมาหาข้า เพราะเนื่องด้วยธรรม

ท่านผู้มากพรรษา เป็นผู้ไม่รู้ธรรมหรือ..

ท่านเหล่านั้นต่างรู้ธรรมที่ได้เรียนรู้กันมาทั้งสิ้น

แต่ธรรมที่เรียนรู้มา มันไม่มีกำลังแห่งกระแสพอที่จะทำให้ใจท่านเหล่านั้น พ้นความสงสัยออกไปได้

การได้ยินได้ฟังธรรมที่สิ้นสงสัย

จะทำให้ท่านเหล่านั้นสิ้นสงสัยไปได้ด้วยเช่นกัน

ข้าเห็นแล้วว่า เมืองไทยนั้น มีพระที่มุ่งสู่ทางพ้นทุกข์มากมาย

เป็นพระที่เป็นกำลังให้แก่พุทธศาสนาได้อย่างดีเลิศ

แต่ท่านผู้มีกำลังทางปัญญาญานทั้งหลายนี้

ท่านยังขาดผู้ชี้ ที่สามารถชี้ได้ตรงตามความจริง จากข้อข้องใจที่มีอยู่ในใจท่าน

เมื่อได้รับคำชี้ที่ถูกต้อง

การอิ่มเอิบใจในธรรมที่ไร้ข้อกังขาคาใจ มันก็จะคลายอุปาทานสูญสลายสิ้นหายไป

ธรรมทั้งหลายที่สงสัย มันจะเกิดความกระจ่างใจและกลับไปอย่างผู้ที่มีกำลัง

ธรรมที่ตรงตามความเป็นจริงนั้น ปัญญาเราลูบคลำได้

ใครก็หลอกลวงเราไม่ได้ ด้วยธรรมที่เขาจะมาชี้แนวทางให้เรา

ธรรมนั้นทดสอบคมได้ เอาคมของเราฟาดมันลงไป

ผู้ที่รองรับการลองคมของเราได้ เขาจะแสดงความคมของเราที่มี ให้เราเห็น

เราอาจเป็นดาบคมเฉพาะของนิ่มๆที่เราคิดว่าแข็ง

เมื่อมีโอกาสได้ลองคมกับผู้มีของลองคมเกิดขึ้นมา

เราควรมีโอกาสเดินทางมา เพื่อทดสอบคมของเรา

เรา..จะได้รู้ความคมของเรา ที่ว่าคมๆ

ที่แท้มันอาจเป็นแค่ดาบทื่อสนิมเกรอะกรัง ที่เรายังคิดว่าคม

มีโอกาสลองคมของเรา เรา..พึงรีบเข้ามาลอง

ข้านี่เปิดโอกาสให้ฟาดฟันทางธรรมได้เต็มที่อยู่แล้ว

รีบเดินทางมาเถิด มันเป็นโอกาส

อีกไม่นาน กายนี้จะสลายสิ้นชาติไป

น่าเสียดาย ที่เรามีโอกาส แล้วทิ้งผ่านไป ไม่ยอมเดินทางเข้ามาลับคมอาวุธเรา ให้มันเกิดปัญญาญาน

พระธรรมเทศนาจากบทธรรม โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560