หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา

หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา

350
0
แบ่งปัน

****** “หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา” ******

เปิดมาเจอเรื่องความว่างของนักบวชไทยเรา ทำให้ย้อนคิดไปที่อินเดีย

ที่อินเดีย มีพวกอยู่ด้วยความว่างๆ โดยไม่คิดทำอะไรเลยนี่เยอะแยะ

มันเป็นลัทธิที่มากมายและหลากหลาย

นักพรตนุ่งผ้าสีแดง นั่งขัดสมาธิเพชร เอาสีเขียนหน้า ตัวดำปิ๊ดปี๋

เขาอยู่กับความว่างเปล่าในสรรพสิ่ง

เขานั่งนิ่งๆ รอเหยื่อแบบแมงมุม

เขาแสดงตัวตนแบบไม่เอาอะไร

ท่าทางเคร่งครัด แน่วแน่

นี่ถ้าอยู่เมืองไทยโกนหัวซักหน่อย

คนพวกนี้เป็นพิมพ์นิยมที่ผู้คนใฝ่หาและเป็นเชื้อแหล่งศรัทธา

หลักคิดของพวกนี้ก็คือ ว่างจากอัตตา ว่างจากการพลีกรรม ว่างจากความคิด ว่างจากการกระทำ

เพราะเขาเข้าใจด้วยความเป็นจริงที่เขาสืบๆกันมาว่า

ธรรมชาติมันเป็นของมันเช่นนั้นเอง เขาไม่จำเป็นต้องไปทำอะไร

ด้วยความคิดเช่นนี้ สุดท้าย เขาจะมีความเป็นนิรันดร คือ นิพพาน

นี่..ทางโน้นยังมีนักพรตประเภทนี้อยู่เพียบ

ทางไทยเอง เอาหลักการนี้มาใช้ด้วยในบางสำนัก

นี่แหละ..ธรรมแห่งพวกเดียรถีย์ชัดๆ

เพราะที่ทำนั้น มันเป็นอัตตาและบริโภคความไม่เคยว่างอะไรเลยซักนิด

มันเป็นแค่นิยามหรูๆหลอกเด็ก

เมื่อถึงที่สุด มันก็เอาทุกอย่างที่มันขาดและต้องการในอีกฟากหนึ่ง

เมื่อเราถอยมาดูพฤติกรรมพวกเหล่านี้ด้วยปัญญา เราจะเห็นชัด

แต่ถ้าเอาตัวเข้าไปเป็นเข้าไปศรัทธา

ความงมงายในนิยามแห่งตรรกะจะบดบังความเป็นจริงที่เราจะพึงเห็น

นี่แหละ…ลัทธิแห่งความว่างที่คนไทยเรา ยังตีความหมายยังไม่แตก

ที่ไม่แตก เพราะเราเอาตัวเข้าไปเป็นเจ้าของความว่าง ด้วยการทำตัวให้ว่างจากทุกสิ่ง

ความว่างนี่ไม่ใช่หลักชัยในวิถีมรรค ผู้ปฏิบัติเรามันตีธรรมกันไม่แตก

บางแห่งเข้าใจว่า หากอยากสำเร็จมรรคผลนิพพาน ให้หยุดคิด หยุดปรุงแต่งความคิด

นี่ก็เป็นอัตตาธรรมที่เป็นอุปกิเลสตัวหนึ่ง การหยุดคิด หยุดปรุงแต่งความคิด ไม่ได้ช่วยให้เกิดปัญญาญานหลุดพ้นอะไร

เป็นแค่เครื่องอยู่อย่างสงบใจที่ไม่ต้องวุ่นวายอะไร ในอารมณ์ที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวเนื่อง

ถือเป็นการฝึกวิถีขั้นสมาธิช่องทางหนึ่ง การไม่ทำชั่ว ก็เป็นหนึ่งในวิถีที่อยู่ในขั้นศีล

เวลาหนึ่งชาตินี่ มันมีน้อย เราเกิดกำเนิดมามีโอกาศในการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้

เราควรมุ่งเข้าสู่ขั้นปัญญาให้ได้ อย่าไปยึดติดอยู่แค่ขั้นศีล สมาธิ จนขยับไปสู่ความหลุดพ้นไม่ได้

ทุกคนมีเครื่องมือที่ดีเยี่ยมในการที่จะหลุดพ้นด้วยความเป็นมนุษย์ เป็นแต่เรามันใช้เครื่องมือให้เกิดปัญญาไม่เป็น

ข้าเองก็ได้แต่เป็นผู้ชี้แนะ ไม่สามารถทำให้ใครหลุดพ้นด้วยอำนาจที่ข้ามีได้

เราเกิดมาได้พบเจอพระพุทธศาสนา ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบสัตบุรุษในแต่ละยุค

น้อมเข้าไปถามไปทัก น้อมเข้าไปลับคมของเราเพื่อหาความหลุดพ้นเถิด

อย่าได้เกิดมาตายไปฟรีๆโดยไม่มีปัญญารู้เรื่องอะไร ที่ทำไมเราถึงได้เกิดมา

อย่าให้เวลาที่มีค่าแค่น้อยนิดแห่งลมหายใจ มันสูญหายหมดไปกับกาลเวลาที่กัดกินชีวิตสั้นๆนี้

มาซิข้ายินดีลับคมให้ ก่อนชีวาข้าจะวางวายแล้วไร้คนบอกความคมแห่งปัญญาให้แก่เรา

พระธรรมเทศนา วันที่ 28 มกราคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง