ยามเช้านี้ต้องเดินทาง จึงเอาธรรมบทนี้มาอ่านเล่นกัน
เช้านี้ ขอแช่งด้วยกำลังแห่งพรหมวิห
ธรรมดาเช้าๆ เมื่อออกจากกรรมฐาน จึงจะไปค้นบทธรรมที่น้องเขา
ธรรมนี้หากว่างจากผู้คน และกิจการงาน เป็นได้โม้ให้ฟังกันได้ทั้ง
เมื่อได้ผัสสะที่สมควร มันจะใคร่ครวญวินิจฉัยออกมา
ฉะนั้น ผู้ได้ฟังธรรมสดๆ ย่อมเป็นผู้มีอานิสงส์สูง หากตรึกตรองตาม ใจก็เข้าสู่โลกุตละธรรมไปตา
อย่างน้อยก็คือการมีศีล แห่งวิมุติศีล
ใจที่ตื่นขึ้นมายามเช้าแล้ว
ส่วนอารมณ์มันเป็นเรื่องของ
ยามเช้า หากวันใดเข้ากรรมฐานแล้วใจม
แต่นานๆ จะเกิดซักที มันไม่ได้เกิดทุกวัน บังคับมันไม่ได้เลย ไอ้เรื่องจิตนี่
แต่การได้รับธรรมยามเช้า ก็ยังใจให้ได้รับผลแห่ง ผลสมาบัติ ซึ่งอานิสงส์สูงกว่า ฌานสมาบัติ แค่นี้ก็โอแล้ว สำหรับพวกเรา กระแสบุญมันหล่อเลี้ยงใจแล้
หากเป็นนิโรธสมาบัติ นี่…สุดยอดขึ้นไปอีก ยังผลให้ผู้รับมหาศาลในอัตภ
ว่างๆ จะโม้เรื่องนิโรธให้ฟัง มันมีทั้ง นิโรธที่เป็นทางมรรค นิโรธที่เป็นสมาบัติ และนิโรธแห่งสัญญา
การที่ได้อนุโมทนากับผู้เข้
หากได้แสดงออกแห่งความมุทิต
คำว่าวิบากนี่ คือผล ส่วนการกระทำ ทางกาย วาจา ใจ นี่คือกรรม เมื่อมีกรรมก็ต้องมีผล คือวิบาก เป็นวิบาก ที่แยกออกไป เป็นกุศลก็มี อกุศลก็มี มันแยกออกไปอีก ขึ้นอยู่กับเหตุแห่งกรรมเป็
ฉะนั้น ยามเช้าๆ เมื่อเราได้ผัสสะ ธรรมแห่งมุตโตทัย วิบากธรรมแห่งมุตโตทัย ก็จะแสดงวิบากผลแก่จิตเรา นี่..เป็นธรรมดาของธรรมชาติ
เราได้รับธรรมทุกวัน เราก็สะสมกรรมแห่งกุศลธรรมท
ที่เหลือมันก็ทยอยออกและแตก
แต่ความเผ็ดนั้นมันก็ยังคงอ
หากเราตื่นขึ้นมาแล้วตั้งสต
พวกเราเข้านิโรธสมาบัติไม่ไ
เช้านี้ ขอให้โชคดี ท่านผู้มีบุญทั้งหลาย ที่ได้ฟังธรรมกันด้วยเครื่อ
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง พรหมวิหารธรรม… ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง