จริงหรือ…พุทธศาสนามี 5,000 ปี ตอนที่ 3

จริงหรือ…พุทธศาสนามี 5,000 ปี ตอนที่ 3

909
0
แบ่งปัน

190a44bb5eb3aeวันนี้เรามาโม้กันต่อ ….ถึงไหนแล้วหนอ อ้อ….กลุ่มอรรถาจารย์ เขาให้นิยามคำว่า “นยัตถะ” คือ คำที่ต้องมีการอธิบาย และพวกท่านกลุ่มแรก 

ก็ได้อธิบายเหตุแห่ง 1,000 ปีไปแล้ว อีกกลุ่มหนึ่ง กลับแย้งว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วท่านก็สาธยายออกบอกมาว่า.. 1,000 ปีแรก นั้นใช่อยู่ 

มีความเหตุด้วย ว่าช่วง 1,000 ปีแรกนั้น พระสัจธรรมเกิดขึ้นทำให้บรรลุธรรมในขั้น อรหันต์ปฏิสัมฏิทาญาณ แต่อีก 1,000 ปีหลัง

ไม่ใช่จะมีแค่ พระอรหันต์ สุขวิปัสสโกหรอก ไม่ใช่อย่างนั้น…..นี่ อีกกลุ่มหนึ่งแย้งมา ช่วง 1,000 ปีที่สอง จะมีพระอรหันต์ ที่เป็นได้แค่พระอรหันต์ ฉฬภิญโญ

หรือพวก อภิญญา ที่สำเร็จด้วยฌาณสมาบัติ แต่ไม่มีปฏิสัมฏิทาญาณอย่าง 1,000 ปีแรก เมื่อมาถึง 1,000 ปีที่สาม หรือที่พวกเรากำลังมีชีวิตอยู่ตอนนี้

จะมีแค่พระอรหันต์ เตวิชโช หรือ ประเภท วิชาสาม ไม่มี ปฏิสัมภิทาญาณ และ ฉฬภิญโญ อีกแล้ว เมื่อถึง 1,000 ปีที่สี่ ถึงจะเหลือแค่พระอรหันต์ สุขวิปัสสโก

นี่…ท่านว่ามาอย่างนี้ 1,000 ปีที่ห้า พระอรหันต์ จะไม่มีแล้ว จะเหลือแค่พระอริยเจ้า ขั้น อนาคามี เป็นอย่างสูง 1,000 ปีที่หก ก็จะเหลือแค่ พระสกิทาคามี เป็นอย่างสูง

1,000 ปีที่เจ็ด ก็จะเหลือแค่ พระโสดาบัน เป็นอย่างสูง พอถึง 1,000 ปีที่แปด ก็จะเหลือแค่พระสงฆ์ ที่ปฏิบัติอย่างไรก็ไม่ได้เข้าถึง โคตรภูญาณ เป็นพระอริยเจ้าไม่ได้

จากนั้น ใน 1,000 ปีหลัง ก็จะเหลือแค่พวกโคตรภูสงฆ์ มีแค่ผ้าน้อยห้อยหู หรือรัดข้อมือ เพื่อให้รู้ว่านี่ คือ สงฆ์ เท่านั้น หลังจาก 10,000 ปีไปแล้ว ก็จะเป็นช่วงว่างจากพระพุทธศาสนา

และจะเข้าถึงความเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตรไตร เมื่อกาลผ่านไปถึง 80,000 ปี นี่…ท่านว่านี้อีก คึคึ คราวนี้…ก็จะมีอรรถาจารย์กลุ่มอื่นๆ ต่างก็แสดงความคิดเห็นแย้งกันเข้ามาอีก

แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปอย่างละนิดอย่างละหน่อย พอได้แย้งๆ กับเขาบ้างแค่นั้นเอง เพราะทิฐิพระมันสูง มันยอมรับใครเหตุผลผู้ใดง่ายๆ มันเสียหน้า

กลายเป็น เห็นด้วยส่วนหนึ่ง ไม่เห็นด้วยส่วนหนึ่ง อะไรอย่างนี้ นี่เป็นทิฏฐิพระ มานะครู ที่ต่างก็มีลูกศิษย์ลูกหา และทั้งหมด ส่วนใหญ่

เอาตำราของพราหมณ์ เข้ามาหนุนหาหลักฐาน เพื่อยืนยันอธิบายในความหมายแห่ง “นยัตถะ” แต่หากว่าเราถอยลึกลงไปอีก คือ เอาหลักฐานจากหนังสือ มิลินทปัญหา ฉบับบาลีนำออกมาแปล

มันจะมีข้อความที่แย้งกับคำ กล่าวของเหล่ากลุ่มอรรถาจารย์เป็นอย่างมาก มีอยู่ข้อความหนึ่ง ทีพระเจ้ามิลินท์ได้ถกถาม พระนาคเสนว่า..

ในคืนปรินิพพาน พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวกับ สุภัทธปาริพาชกว่า หากตราบใดที่ภิกษุ ยังประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โลกนี้จะไม่มีวันเว้นว่างไปจากพระอรหันต์..

แต่ทำไม ถึงได้มากล่าวกันอีกว่า พุทธศาสนานี้ มีอายุ แค่ 5,000 ปี มันไม่เป็นการแย้งกันหรือ.. พระนาคเสนท่านก็ได้ทรงกล่าวแก้ว่า..

สัจธรรมที่พระพุทธองค์เจ้า ได้ประกาศออกไปแล้วนั้น ดำรงคงอยู่ได้หลายพันปีวัสสานักหนา แต่เมื่อมีมาตุคามเข้ามาบวช จึงทำให้สัจธรรมนี้ คงเหลือแค่ 5,000 วัสสาเท่านั้น

คำว่าวัสสานี่ คือ 1 ปี หรือ 1 พรรษา แต่สะกดวัสสาไม่ถูก ฮ่าฮ่า คึคึ ในบาลี ท่านชี้มาประมาณแค่นี้ แล้วไม่มีอธิบายอะไรต่อ

นี่เป็นหนังสือโบราณที่สุดแล้ว ที่ได้กล่าวอ้างถึงเรื่องนี้ อ้างถึง 5,000 ปี และเหตุแห่งมาตุคาม คือ ผู้หญิง เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงว่า พุทธศาสนา ไม่ใช่ มีอายุแค่ 5,000 ปีแน่ๆ

เพราะหากเราเอาคำอ้างอิงคำว่า เพราะ มีมาตุคามเข้ามาบวช ทำให้ สัจธรรมนี้ จากหลายๆ พันปีนักหนา เหลือแค่ 5,000 ปี

อย่าลืมว่า 5,000 ปีนี้ นี่ยังไม่ได้นำคุรุธรรมแปดประการ เข้ามาสกัดกั้นธรรมแห่งมาคุคามเลย เมื่อนำคุรุธรรมที่พระพุทธองค์ได้มาบัญญัตสกัดกั้น

สัจธรรมนี้ ก็จะกลับไปเป็น หลายๆ พันปีวัสสาเช่นเดิม จริงไหมพี่น้อง… สมัยก่อน ท่านเรียก สิบพัน เท่ากับหมื่น ถ้า เก้าสิบพัน ก็ 90,000 นะครับท่าน

คำว่าหลายพันปีนักหนา ตามบาลีที่มีมาในหนังสือมิลินท์ หากนำมาไล่ตามกลุ่มอรรถาจารย์ ว่าละก็ อายุพระพุทธศาสนา มีอายุอย่างต่ำๆ เป็น แสนๆ ปี

คราวนี้ ในฐานะของ พระป่ารูปหนึ่ง ที่อดีตเคยมีส่วนร่วมในตำราและนิยามแห่ง 5,000 ปี เพราะเคยนั่งฝันเห็นเอา ตัวเอง

ก็เป็นผู้ให้นิยามยืนยันคำว่า นยัตถะ ผู้หนึ่ง ไปตีกรอบ อายุของพระพุทธศาสนา ไว้แค่ 5,000 ปี แต่จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะมันเป็นการนั่งฝัน น้ำลายยืด คึคึ

ขอแก้ ณ. ที่นี่ว่า ทั้งหลายที่ข้าพเจ้ายืนยัน เกิดจากความเข้าใจผิด พระพุทธองค์ไม่ได้มีพระจุดประสงค์ ตามคำที่ข้าพเจ้าเคยตีความ

ในฝันนั้น ข้าพเจ้าโง่เขลาเบาปัญญามาก คนอื่นๆ ให้ความหมายเช่นไรไม่ขอเกี่ยว บัดนี้…ข้าพเจ้า เข้าใจแล้วว่า ความหมายที่แท้จริงนั้น

ไม่ไช่ อยู่แค่ 1,000 ปี หรืออะไรที่เคยตีความ 1,000 ปี นั้น เป็นความหมายที่พระพุทธองค์ ทรงยกตั้งวิตกขึ้นมา เพราะเหตุนี้ จึงได้เหลือ 500 ปี

พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงหมายถึง 1,000 ปี แต่ทรงหมายถึง เช่นมีส้มหนึ่งลูก หากมาตุคามเข้ามาบวช ก็อาจทำให้เสียหายไปครึ่งลูก ความหมายเป็นอย่างนี้

หากพระองค์ท่านยก หลักสิบมา ก็จะเหลือ 5 หากยก ล้านมา ก็จะเหลือ ครึ่งล้าน คือสัจธรรมนี้ จะเหลือครึ่งหนึ่ง เมื่อมีมาตุคามเข้ามาบวชอยู่ในพระสัจธรรม

แต่เมื่อ ได้ทรงบัญญัติคุรุธรรมแปดประการเข้าไปสกัดกั้น ให้ภิกษุณีน้อมรับรักษา สัจธรรมที่ได้ประกาศไว้ ก็จะกลับมา เต็มกาลเวลาเช่นเดิม ซึ่งบอกไม่ได้ว่า ยาวนานเท่าไหร่ แค่ไหน

เพราะเหตุนี้ เหล่าอรรถาจารย์ ยุคหลัง ที่แปลบาลีไม่จบและไม่ละเอียด หรือตัดทิ้งข้อความเดิมไป เมื่อไปเจอข้อความที่เห็นว่

เพราะ มาตุคามคือผู้หญิงเข้ามาบวช จะทำให้อายุพุทธศาสนา เหลือแค่ 5,000 ปี ภิกษุณี จึงเริ่มมลายหายไป เพราะโดนรังเกียจว่าเป็นตัวซวยทำให้พุทธศาสนา อายุหดหาย

ทั้งๆ ที่ พระอานนท์ท่านก็ได้ทรงขอไว้แล้ว และพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาติ ด้วยคุรุธรรมแปดประการ ที่เข้ามาสกัดกั้นใจให้ปฏิบัติตาม

พระภิษุณี จึงหายไป ด้วยความเข้าใจ ของไอ้พวกขี้โม้ทางธรรม ที่แปลความ ไม่ละเอียด และไม่รู้อะไรตามความเป็นจริง

เลยไปริดรอนสิทธิมนุษย์ชนแห่งความเป็นเพศสตรี โดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่ศีลแห่งเพศภิกษุณี 311 ข้อ ก็ยังคงคาค้างอยู่ในบทแห่งพระธรรมวินัย

แต่เมื่อเลยมาถึงขั้นนี้แล้ว อะไรต่ออะไร ก็ไปง้างความคิดที่เป็น มานะและทิฏฐิแห่งผู้รู้มากไม่ได้หรอก คึคึคึ ก็เลยออกมาโม้ๆ ให้ฟังกันหนุกๆ คุคุคุ คงหวัดดีกันแค่นี้…!!

พระธรรมเทศนา ผ่าน Facebook ณ วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง