*** “ธรรมชาติไม่ได้แบ่งแยกด้วยความคิด มีแต่ความคิดชอบไปแบ่งแยกธรรมชาติ” ***
สิ่งที่ทำให้คนเราโง่ที่สุดก็คือความคิด
สิ่งที่ทำให้คนเราฉลาดที่สุดก็คือความคิดเช่นกัน..
บางครั้งความคิดที่ออกมาจากอัตตาจัดๆ เช่นศรัทธาจัดลุ่มหลงจัด ผลก็คือ..ความงมงายในความคิดที่เกิดจากศรัทธา
บางครั้งตรงกันข้าม ขาดศรัทธาขาดความเชื่อ มีแต่ปัญญาจัด เต็มไปด้วยความสงสัย ใจมันก็ไม่ลงไม่เชื่อผลก็คือ..ความงมงายในความคิดที่เกิดจากปัญญา
คนเรานั้น หาความพอดีให้แก่ใจเราไม่ได้ก็เพราะมักโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง
นักบวช คิดว่าตัวเองดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็จะยึดดี ไม่ชอบใจในความเลว ไม่ว่าตนทำหรือผู้อื่นทำ
โจรผู้ร้าย คิดว่าตัวเองดี ทำดี อิสระดีถึงได้ทำ
ก็จะยึดดีที่ใครๆเห็นว่าเลว ไม่แตกต่างจากนักบวช คือดีที่ได้ทำเขา ไม่ชอบใจเช่นกันหากเขาทำเรา
นักการเมือง ต่างก็คิดว่าตนเองดี อวดต่อผู้คนว่าตนเองดี เสียสละ เป็นพ่อพระ
ตนไม่ใช่โจรแม้ใครๆจะบอกว่าปล้นอย่างโจร
โจรปล้นเงินใครซักคน 50000 บาทคนเดือดร้อน มันคือไอ้โจรปล้นเงินคน คนโดนปล้นเดือดร้อน มันคือไอ้โจร
นักการเมืองขโมยเงินประชาชนคนละบาท 70 ล้านคน คนไม่เดือดร้อน มันก็คือไอ้โจรปล้นเงินคนเช่นกัน ไม่ต่างกัน
การกระทำของคนเรา ที่แสดงออกมา ต่างก็คิดว่ามันดีแล้วทั้งสิ้น แม้มันจะเฮงซวยในสายตาของใครๆ
ธรรมชาติไม่ได้แบ่งแยกความดีความเลว ไม่แบ่งแยกราชาหรือยาจก ไม่แบ่งแยกโจรแบ่งแยกพระ ไม่แยกมารไม่แยกพระเจ้า
มีแต่ผู้คนนี่แหละแบ่งแยกกันเอง และทุกข์ใจในสิ่งที่ตนทำเพราะเหตุแห่งการแบ่งแยก
ผู้เข้าถึงธรรมชาติจริงๆ เขาไม่ได้แบ่งแยกอย่างที่ใครๆทั้งหลายแบ่งแยก
แม้ว่าเขาจะอยู่ด้วยการอยู่อย่างแบ่งแยก แต่เป็นการแบ่งแยกเพราะต้องแบ่งแยกตามเหตุปัจจัยสมมุติ
ไม่ได้แบ่งแยกด้วยการโต่งจากความคิด
คนธรรมดา แบ่งแยกนั่นแบ่งแยกนี่ เพราะเหตุแห่งไม่เข้าใจในเหตุปัจจัยแห่งสมมุติ การเป็นอยู่จึงแตกต่างกัน
ลองหันไปสะกิดเมียข้างๆบอกความคิดเราออกไปว่า
” ต่อไปเธออย่าไปแบ่งแยก นี่เมียหลวงนี่เมียน้อยนี่กิ๊กอะไรอีกนะ มันโต่งรู้ไหม.. มันไม่ธรรมชาติ ธรรมชาติเขาไม่ได้แบ่งแยกแบบความคิดเธอ ”
เราก็จะได้ความดีความชอบจากนางมารร้ายที่เราแสดงธรรมให้นางเห็น แล้วเราจะบรรลุจนเลือดสาดอยู่แถวๆนั้น..
เชื่อกุซิ เป็นพระเขาไม่โกหกลองให้ธรรมมันดู..
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 23 เมษายน 2563 โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
