ชีวิตยึดไปก็กลุ้มแหละ

ชีวิตยึดไปก็กลุ้มแหละ

412
0
แบ่งปัน

*** “ชีวิตยึดไปก็กลุ้มแหละ” ***

หากเรามองชีวิตรอบๆตัวเรา เราจะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่าง โดนเรานี่แหละกำหนดมัน

ไก่เดินมาหา เราถามว่า “เอ้ยย.ย ..มึงรู้เปล่าว่ามึงเป็นไก่”

มันไม่สนแฮะ แถมเดินเข้าศาลาหน้าตาเฉย เลยเอาปากกาไปเขียนทางขึ้นว่า “ห้ามไอ้ไก่ทุกตัวขึ้นมาขี้”

มันก็ไม่อ่าน และไม่สนใจในถ้อยความที่เราเขียนขึ้นมาเลย มันเลยต้องก่อวินาศกรรมด้วยหนังสติ๊ก ปึ๊กเข้าให้

ถ้าไก่มันตอบได้ มันคงตอบว่า “กุไม่รู้ว้อย ว่ากูเป็นไก่ มีแต่มึงนี่แหละ ที่ยัดเยียดบอกว่ากุเป็นไก่ ไอ้บ้า..!!”

โน่นปลานิลขึ้นมาหายใจยามเช้าอย่าวหงอยๆในเขื่อน เราบอกว่า มันคืออาหารเรา

ข้าให้เณรลงไปเอามาทำอาหาร เณรมองหน้าแต่ก็เดินลงไป ปลาวิ่งหนีกันน้ำบาน

ไม่มีซักตัวที่รอเณรจับ และบอกว่า มาเลย มาเอาฉันไปกินเลย ฉันเนื้ออร่อยหนัก 2 กิโลกำลังทอดเลย..ไม่มี

แต่เราบอกว่ามันคืออาหารเรา เราเอามันมากิน มันว่ายหนีตรรกะฆาตกรรมต่อเนื่องของเรากันน้ำบาน

ธรรมชาติที่เราเป็นอยู่เนืองๆนี่แหละ เราจึงมองทุกอย่างด้วยการเอาตัวเราเข้าไปเป็นเจ้าของหมด

ผิดไปจากที่เรามีสัญญาจำ เราก็เกิดความไม่ชอบใจ ไม่ถูก ไม่ใช่ อะไรราวนั้น เป็นที่มาของความทุกข์ทั้งมวล

เข้าใจมันเหอะว่า ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรแน่นอนตามความรู้สึกเรา ธรรมชาติมันเป็นเช่นนี้ หัดยอมรับมันซะ

จ่อยมันเกรงใจเมีย ซักผ้าเสร็จ เมียบอกให้เอาไปตากด้วย นางจะเอาดินสอทิ่มคิ้วไม่ว่างช่วย

จ่อยคิดในใจ ทำไมต้องเอาไปตากให้เสียเวลา แต่ก็ไปด้วยความไม่เข้าใจ

เมียสงสัยทำไมนานจัง เดินออกไปหายทั้งไอ้จ่อยหายทั้งผ้า จึงไลน์เรียกหาว่ามึงไปไหน

จ่อยบอกว่าเอาผ้ามาตาก ตอนนี้ถึงกำแพงเพชรแล้ว รออีกซักครู่..เมียปรี๊ดแตกหาผัวใหม่หลังจากไอ้จ่อยกลับมา

ชีวิตนั้นบางอย่างมันก็เข้าใจผิดได้ เพราะเราชอบกำหนดมันขึ้นมาและยึดมันไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลง

โลกเปลี่ยนแปลงเสมอไม่ได้อยู่กับที่ เหมือนหน้าเราที่คิดว่าไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน

แต่ที่ไหนได้ คนอื่นบอกแก่ชิบหาย มีแต่เราที่มองความแก่เราไม่เห็น

หัดมองโลกให้เป็น และมองตรงๆ เราจะเห็นธรรมชาติตามความเป็นจริง

แต่ขอให้เข้าใจเหอะ ไอ้ความเป็นจริงที่เราเห็นๆตามธรรมชาติ มันก็คือไอ้สมมุติที่เราเข้าไปเป็นเจ้าของอีกนั่นแหละ

เมียก็คือสมมุติอย่างหนึ่งของเรา อยากไปนิพพาน เปลี่ยนเมียซะตอนนี้ นิพพานเกิดทันที เชื่อดิ มึงตาย..เมียบอก..!!

พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

3 มีนาคม 2563