*** “แผ่เมตตาจิต ณ.เขาชะเมา” ***
มาพักที่เขาน้อย อ.เขาชะเมา มาดูต้นปรงเขาชะเมาที่ได้สั่งซื้อเอาไว้
เจ้าของที่มีจิตสัมพันกับดวงจิตวิญญานพระเจ้าตากสิน ได้เชิญมาพัก
ตกกลางคืนได้เข้าพักนั่งสมาธิแผ่จิตเมตตาออกไป พอแผ่ออกไปขนหัวก็ลุกซู่
ร่างกายก็เหมือนโดนรัดรึงแน่นไปทั่วตัว แสดงว่ามีเหล่าพลังงานมารุมล้อม
สถานที่แห่งนี้ เคยมีพระมาพักหลายครั้งที่ได้เชิญมา แต่ปรากฏว่า เหล่าวิญญารับกุศลไม่ได้
เรื่องการแผ่เมตตาจิตนี่ ใช่ว่า ใครแผ่ออกไปแล้วเหล่าวิญญานเขาจะรับและสงบได้
มันขึ้นกับจิตบารมีความผูกพันธ์ตามพันธะสัญญาด้วย เหล่าวิญญานจึงจะสงบลงได้
ตกกลางคืนลมก็หอบพัดมาเป็นลูกๆ สั่นไหวบ้านไม้ไผ่สั่นคลอน ทั้งคืนไม่ต้องนอนกัน เลยนั่งสมาธิยันเช้า
พร้อมบอกว่า ยามเช้าจะกรวดน้ำแผ่กุศลและปลดปล่อยเหล่าทุกดวงวิญญานในสถานที่แห่งนี้
พลันลมก็สงบลง อาการขนลุกขนพองก็จางคลาย เข้าสู่ภวังค์จิตรับรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย
นี่แหละ..คนทำสมาธิจนจิตเป็นอารมณ์เดียว มีความแน่วแน่และตั้งมั่นจนเป็นนิสัย
ยามไปในที่ไหนๆก็มักเกิดเหตุการณ์ผัสสะกับเหล่าพลังงานในที่นั้นๆ
เรื่องราวต่างๆในภวังค์จิตที่ได้รู้เห็นก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคนไป
แต่นั่นแหละ สัญญาใครสัญญามันต่างมีวิบากที่ไม่เสมอกัน
ชีวิต..เกิดมาแล้ว ต่างคนต่างก็ดำเนินกันไปในวิถีของแต่ละคน
วันหนึ่งก็ต้องจากและพรากกันไปธรรมดา หวลคิดถึงวันพรากจากทั้งเขาและเราให้มากๆ
หากท่านไร้ภูมิวาสนาบารมี เหล่าน้องพี่ที่เป็นวิญญาญก็จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับท่าน
แต่หากท่านเป็นผู้เต็มบารมี แน่นอน เหล่าน้องพี่ในอดีตที่เคยร่วมเผชิญกันมา ย่อมมาพึ่งใบบุญของท่าน
ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนกันไป ตามเหตุปัจจัยที่ได้เผชิญ
วันนี้เหมือนได้มาปลดปล่อยอะไรบางอย่างตามพันธะสัญญา
จู่ๆก็ได้มา มาโดยไม่ได้วางแผนการณ์อะไรเลย
ทุกอย่างดำเนินด้วยวิบากที่เป็นชะตากรรม เช้านี้ชะตากรรมจะพาไปกินข้าวที่ไหนยังไม่รู้เลย ชักหิว..
พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
21 กุมภาพันธ์ 2563