มองโลกบ้าง

มองโลกบ้าง

357
0
แบ่งปัน

*** “มองโลกบ้าง” ***

หวัดดีๆ

คนโง่ ย่อมทุกข์ทนต่อสิ่งเร่าร้อนต่างๆที่ตนนั้นต้องเผชิญ

คนฉลาด แก้ไขปัญหาและเรียนรู้จากสิ่งต่างๆ ที่ต้องเผชิญ เพื่อเป็นครูในการที่จะได้ก้าวข้ามไป

คนโง่ มัวแต่โทษผู้อื่น ว่าไม่ดี ผิด เลว

คนฉลาด เอามาย้อมตัวเอง รู้ว่าสิ่งที่คนโง่คิด มันคือความโง่ที่งี่เง่า ไม่เห็นตนเองที่เป็น

คนโง่ ย่อมอคติกับคนที่ตนเพ่งโทษ
และแสดงความโง่นั้นด้วยอคติแห่งใจตน
ให้แก่ผู้อื่นฟังอยู่เนืองๆ

คนฉลาด เห็นความโง่เหล่านี้ว่า
กำลังทำตัวประจานตนให้คนอื่นอื่นเห็น
ว่าตนนั้นโง่และคับแคบไปด้วยอัตตาแห่งตน
ทำลายความดีผู้อื่น

ก่อนที่จะเล่าเรื่องความเฮงซวย
ของใครคนอื่นให้ผู้อื่นฟัง
ควรหัดเล่าความระยำและเฮงซวยของตน
ที่มีต่อผู้อื่น ให้ใครๆ ได้ฟังด้วย

คนเรานั้นก่อนที่จะไปเพ่งโทษใครด้วยอัตตาตน
ควรหัดเพ่งโทษใจตนที่ชอบไปเพ่งโทษใครๆ เขาด้วย
จึงได้ชื่อว่า มนุษย์ที่เกิดมาสมภูมิ

วันใดที่เราเดินออกมาจากใต้ปีกความคิดของผู้อื่นที่เรายอมจำนน
วันนั้น เราจะรู้สึกลึกๆ ว่า
ทุกก้าวที่เดินถอยออกมา
#กุเริ่มฉลาดขึ้น

วันใดที่ท้องฟ้าแห่งความคิดเริ่มแจ่มใส
เราอาจเห็นอะไรที่ครอบคลุมกระบาลเราอยู่
ว่าเป็นแค่เงาปีกของใครบางคน
ไม่ใช่ฟ้าใสที่เราเข้าใจ

ปลุกคนหลับให้ตื่นนี่ มันไม่ยากนัก
ปลุกคนแกล้งหลับนี่ มันไม่ตื่นขึ้นมานั่งให้ใครเห็นหรอก

วันๆนั่งเพ่งคิดถึงแต่ความเลวของผู้อื่น
แต่ความเลวตนนี่ มองไม่เคยเห็น

ฟังความข้างเดียวจากคนหนึ่งแล้วปักใจว่าใช่
ลองหาสิธีไปฟังความอีกข้างด้วย
ไอ้ที่ใช่มันอาจมีแต่ความงี่เง่าและเฮงซวย
ที่ออกมาจากความเกลียดชัง

ตราบใดที่ยังมีชีวิต เรานับหนึ่งได้ใหม่เสมอ
แต่ต้องนับหนึ่งใหม่ตลอดแห่งการมีชีวิต
ชีวิตมึงน่ะเฮงซวยแล้วไอ้เวร

วันนี้วันวาเลนไทน์ ควรทำตัวให้มีค่า
อย่าเป็นแค่สัตว์ให้พรานหน้าหม้อมันล่าฆ่าพรหมจรรย์เพราะเป็นแค่วัน วาเลนไทน์

พระธรรมเทศนาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง