วันนี้เรามาคุยกันถึงเรื่อง
คำว่าพระโสดาบันนี่ มันดูมีความหมายสูงส่ง สำหรับชาวพุทธเรา เพราะเราเข้าใจกันว่า การเป็นพระอริยะเจ้านั้น กระทำได้ยาก
มันยากสำหรับผู้ที่คิดว่ายา
ข้าเองในฐานะ ผู้เจริญรอยมาตามแนวทางแห่ง
การได้ฟังสดๆ ก็จะเป็นกุศลแก่ใจเจ้าของ ข้าเองรู้จักนายช่างซะแล้ว จึงพอเข้าใจได้ว่า เรือนหลังนี้ จะถอดจะสร้างจะประกอบด้วยเห
การที่ท่านเรียกว่าพระโสดาบ
เข้าใจถึงความจริงที่มันอาศ
คำว่าศีลนี้ เป็นผู้มีศีลอันเป็นอริยะศี
คำว่าวิมุติศีลหมายถึง เข้าใจตรงตามความเป็นจริง ในเหตุและผล ของเหตุปัจจัย ศีลในที่นี้ เป็นศีลภายในใจ ที่มีสติพิจารณาถึงความละอา
ไม่ใช่ศีลเป็นข้อๆ ศีลเป็นข้อๆ เป็นเรื่องสมมุติศีล เพื่อใช้เป็นคอกกั้น ยามอยู่ร่วมกับสังคม
พระโสดาบัน เป็นมนุษย์ขั้นศีล เป็นมนุษย์ผู้เริ่มต้น ที่จะเบรคกระแสแห่งตัณหา ที่ผุดขึ้นมาจากใจอันไม่รู้
จบนี้
ให้มันพอทุเลา เบาบาง จางคลายลงมา ไม่ให้เดือดร้อนนัก ผู้ที่เข้ากระแสแห่งศีล เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม ที่เกิดจากการได้ฟังธรรม แห่งความเป็นจริงจากสัตบุรุ
ผู้ได้ฟังธรรมจากสัตบุรุษ ย่อมได้เห็นความจริงอย่างที่
สัตบุรุษได้เปิดของที่มันคว
เมื่อรู้ผลตามเหตุปัจจัย ใจมันก็ไม่หลงงมงาย ในสิ่งที่ปรากฏทางเวทนาที่อ
ไม่ได้มีใครมาดลบันดาลให้มั
- ตัวตน
- ความสงสัยในธรรม
- และความหลงงมงาย
นี่ ท่านเหล่านี้ เมื่อได้ฟังธรรมจากสัตบุรุษ
สิ่งที่มองเห็นจะเข้าใจและเ
เมื่อใจเห็นความเป็นจริง ศรัทธาก็ย่อมเกิด เมื่อศรัทธาเกิด เจ้าของย่อมเกิดการพิจารณา ในเหตุในปัจจัยที่มากระทบ
โดยธรรมชาติของคน ย่อมไม่พิจารณา สาวผลไปหาเหตุ
เรามักจมอยู่แต่ผล ไม่สอดส่องลงไปถึงเหตุที่มา
การพิจารณานี้ ทำให้เจ้าของ เกิดสติและสัมปชัญญะ ผู้ที่มีสติและสัมปชัญญะ ย่อมเป็นผู้สำรวม ทางกาย วาจา ใจ
คำว่าสำรวมนี้ ไม่ใช่เรียบร้อย แต่เป็นผู้ที่มีสติ ในความละอายต่อความชั่วทั้ง
อริยะศีลเป็นศีลที่มาจากใจท
ใจที่มีความสำรวม อาศัยเหตุจากการมีสติ
การมีสติอาศัยเหตุ จากการได้พิจารณา
การพิจารณาอาศัยเหตุจาก ความศรัทธาที่เจ้าของประจัก
ความศรัทธาอาศัยเหตุมาจาก การได้ยินได้ฟังธรรม จากปากแห่งผู้รู้ธรรมที่เรี
ผู้ได้ฟังธรรมจากสัตบุรุษ ย่อมบางเบาจากอาการแห่ง อวิชชา
เพราะอวิชชา อาศัยนิวรณ์ห้า คือ กาม ความพอใจไม่พอใจ อาการการแสดงออกแห่งจิต สงสัย และฟุ้งซ่าน เป็นอาหาร
นิวรณ์ห้า อาศัย ความทุศีล คือการไม่สำรวม กาย วาจา ใจ เป็นอาหาร
ความไม่สำรวมใจ อาศัยการไม่มีสติเป็นอาหาร
การไม่มีสติ อาศัยการไม่พิจารณาเป็นอาหา
การไม่พิจารณา อาศัยการไม่มีศรัทธา ที่เกิดจากการประจักษ์ใจเป็
การไม่มีศรัทธา อาศัยการไม่ได้รับฟังธรรมจา
การไม่ได้รับการฟังธรรมจากส
คนมีตัวตน ย่อมไม่ฟังใคร แต่อยากให้ใครๆ มารับฟังตน
นี่ ทิฏฐิแห่งใจอันเป็นปุถุชน มันอาศัยการเป็นมาตามเหตุปั
ผู้มีดวงตาเห็นธรรม เรียกว่า ชาวบ้านชั้นดี
ชาวบ้านชั้นดี คือใจที่ปลงและลงตามกระแสธา
ความเป็นผู้มีศีล เป็นใจที่อาศัย หิริโอตัปปะ เป็นเรื่องอยู่อันเป็นวิหาร
ใจที่มีศีลอย่างอ่อน เรียกว่า พวก สัตตักขัตตุง กลับมาเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ
ใจที่มีศีลอย่างกลาง เรียกว่า พวก โกลังโกละ กลับมาเกิดอีกไม่เกิน 3 ชาติ
ใจที่มีศีลอย่างละเอียด คือมีปัญญาและสติที่หนาแน่น
นี่ คือพวกมนุษย์ขั้นศีล นี่เป็นศีลที่เป็นอริยะชน คือเกิดปัญญาความเข้าใจในกร
พระโสดาบัน เป็นมนุษย์ขั้นศีล ที่มีความละอายต่อบาป เป็นที่ตั้งแห่งใจ ไม่งมงายต่อสิ่งใดๆ ง่ายๆ ไม่สงสัยในธรรมแห่งสัตบุรุษ
นี่ อารมณ์พระโสดาบัน
พรุ่งนี้ค่อยมาโม้ต่อ ว่า พระโสดาบัน อาศัยอะไร จึงทำให้ในดวงนี้ กลายเป็น พระผู้มีศีลขึ้นมาได้ พระอย่างนี้มีเมียได้ พระอย่างข้ามีเมื่อไหร่ เจ๊ง
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง