ญาน

ญาน

324
0
แบ่งปัน

*** “ญาน” ***

คำว่าญานนั้น แยกออกเป็นความหมายทางภาษาไทยเราได้หลากหลาย

แต่ที่ง่ายๆในความเข้าใจก็คือ ความรู้ที่เกิดขึ้น

ญานนี้ แยกออกเป็น ญานทางเจโตก็มี ญานทางปัญญาก็มี

แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นทางใด ความหมายก็คือ ความรู้ที่เกิดขึ้นมาจากภายใน จากที่เราฝึกปฏิบัติด้วยกันทั้งสิ้น

คำว่าญานนี้ เป็นความรู้ที่ต่อเชื่อมกับภวังค์ในอดีตที่เคยสะสมมา

ฉนั้น ญานต่างๆของแต่ละคน มันจึงไม่เท่ากัน ส่วนของข้านี่ ยานโตงเตงเพราะแก่แล้ว

หลายคนมีญานเกิดขึ้น แต่ขาดผู้ชี้แนะ ญานเหล่านั้นก็สงบและจมหายไป รอผัสสะใหม่

ญานนี้ บางคนก็เรียกว่าเซ้นส์ก็ได้ หากเป็นญานเบาบางชั่วครั้งชั่วคราว เกิดรู้นั่นรู้นี่ขึ้นมา

แต่กับบางคน มันรู้แจ้งเห็นชัดสว่างโพลนขึ้นมา จนเจ้าของเข้าใจว่าตนบรรลุธรรมไปเลยก็มี

พระพุทธองค์ทรงตรัสกับปัญจวัคคีย์ว่า

” ญานเราเกิดแล้ว ญานเราแจ้งแล้ว ไม่มีสิ่งใดๆมาขัดขวางความสว่างแห่งญานเราได้ ”

นั่นหมายความว่า ความรู้ที่สะสมมาอย่างยาวนาน มาต่อเชื่อมกับภาวะอัตภาพในปัจจุบันแล้วสื่อออกมาได้

หลายคนปฏิบัติแล้วรู้นั้นรู้นี่ เห็นนั่นเห็นนี่ เหล่านี้ล้วนเกิดจากญานที่สร้างสมมา ผุดขึ้นมาให้ผล

ญานต่างๆนั้นเป็นโปรแกรมจิตที่รักษาอยู่ในภวังค์ มีอยู่ด้วยกัน กันทุกคน

จะมากจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับบารมีที่สร้างสมมาทางใด ญานทางนั้นมันก็จะเกิด

การเกิดนี่ มันเกิดด้วยอำนาจของสมาธิเป็นเบื้องบาท
เป็นสมาธิที่เกิดจากปัญญาที่พิจารณาก็มี เกิดจากการเพ่ง ที่เรียกว่าสมถะก็มี

หลายคนเกิดความรู้ขึ้นมา เช่นทางธรรม รู้นั่นรู้นี่ เห็นนั้นเห็นนี่ แล้วไม่เข้าใจตนเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันก็มี

ญานนี้ อาศัยอยู่ในภวังค์ มันแสดงออกได้ทางสัญชาติญาน

แต่หนทางที่จะเกิดญานให้ชัดแจ้ง มันต้องปฏิบัติ เพื่อนำญานในภวังค์จิต ยกขึ้นมาสู่วิถีจิต

วิถีจิตนี้ เป็นจิตที่เราตื่นเราเป็นในปัจจุบันนี้นี่แหละ อาศัยประสาท เส้นเอ็น กล้ามเนื้อและผัสสะทางอายตนะในการตีความ

เราจึงจะเข้าใจในความรู้สึกและความหมายแห่งญานต่างๆด้วยสมมุติที่เราดำเนิน ในทางวิถีจิต

บางคนรู้ธรรมชาติขึ้นมา บางคนรู้เรื่องวิญญานต่างๆขึ้นมา บางคนระลึกชาตินั่นนี่ขึ้นมา บางคนรู้นั่นรู้นี่ เยอะแยะไปหมด

ญานต่างๆเหล่านี้ หากไม่มีผู้ชี้ที่เข้าใจ เจ้าของก็จะเข้าไปยึด และหลงยึดว่าตนเองนั้นเป็น ด้วยการเอาตัวเข้าไปแสดงผลในญานวิถี

ปัจจุบันนี้ มีผู้เกิดญานต่างๆมากมาย ที่ผุดขึ้นมาจากการปฏิบัติ

แต่นั่นแหละ หากขาดปัญญา มันก็จะทำให้ท่านหลง หลงยึด หลงทำ หลงเป็น

วิธีที่จะอยู่กับญานต่างๆเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัยก็คือ ให้อยู่กับปัจจุบันให้เป็น

บางอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว มันไม่ใช่ความเป็นจริง

บางอย่างมันเป็นอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องไปวิตกทุกข์ร้อนอะไร

หากมีความเห็นตรงเช่นนี้ อยู่กับความเป็นจริงเช่นนี้ ญานอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น เราจะไม่ไหลลงตามไปจนเป็นสมุทัย

ทุกข์ทั้งหลายก็จะทำร้ายทำลายหัวใจเจ้าของไม่ได้

การเกิดญานต่างๆนั้นดี แต่ถ้ารักษาไม่เป็นหรือไม่รู้จักมัน มันก็จะขบกัดเอา

ขอความสุขความเจริญ ในเช้าวันอังคาร…

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 24 กันยายน 2562

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง