สู้ก่อนอย่าเพิ่งยอมแพ้

สู้ก่อนอย่าเพิ่งยอมแพ้

318
0
แบ่งปัน

*** “สู้ก่อนอย่าเพิ่งยอมแพ้” ***

คนเรานั้น ในชีวิตต่างผิดพลาดด้วยกันอย่างมากมาย

บางคนแก้ตัว พยายามบอกให้แก่ทุกคนรู้ว่า
มันไม่ใช่ความผิดพลาดของตน

แต่เป็นความผิดของคนนั่นนี่ ที่ทำให้เขาต้องเกิดเรื่องเช่นนี้

บางคนผิดพลาดแล้วท้อถอย ชีวิตไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินต่อ มันท้อแท้ สิ้นหวัง มืดมน เลือนลาง หาทางออกไม่เจอ

บางคน อดทน นิ่ง มีชีวิตดำเนินต่อไป ในท่ามกลางความเกลียดชัง ของคนที่เห็นว่าเขาผิด

เพื่อนเอย โลกนี้ ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยล้ม

ชีวิตเราเป็นเจ้าของที่จะเลือกเดิน เราจะท้อแท้ย่ำแย่ใส่ใจ กับขี้ปากของใครไปทำไม

ทำวันนี้ให้ดี ที่แพ้ ที่พลาด จะเกิดจากเราหรือใครที่ทำให้เราเป็น

เราพึงบินออกไปในเส้นทางของเราอย่างเสรีเถิด

อย่าไปแก้ตัวในสิ่งที่พลาดเลย ไม่มีใครสนใจคำแก้ตัวหรอก แม้มันจะเป็นความจริง

ให้ผลที่จะแสดงมันปรากฏออกมาในอนาคตของมัน เป็นตัวตะโกน บอกทุกคนด้วยตัวมันเอง

คนที่พลาด..โลกย่อมย่ำยี
เรา..อย่าไปตะโกนบอกใครๆเขาเลย
ว่ามันไม่ใช่มันไม่จริง แม้คำขอโทษ..เขาก็ไม่ฟัง

บางครั้ง..ความผิดพลาดมันเกิดจากอารมณ์เรา
ที่เราคุมอารมณ์เราไม่ได้

แต่เล็กน้อยแค่นั้น มันอาจทำเราพังทั้งชีวิต

เดวิด เบ็คแฮม นักฟุตบอลอังกฤษ ทำให้อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลก

เพราะเขาคุมอารมณ์ไม่อยู่ คู่ต่อสู้เข้าด้านหลังกระแทกทำให้เขาล้ม

เขาแค่เอาเท้าไปเกี่ยวขาผู้กระแทกเขาหน่อยเดียว

แค่นั้น..ทำให้เขาโดนใบแดง ไล่ออกจากสนามไป ทำให้อังกฤษเหลือ 10 คน

แม้ยันเสมอได้ แต่ก็พ่ายในการดวลจุดโทษ..

ทุกคนโทษเบ็คแฮม เป็นตัวทำให้อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลกในครั้งนั้น

ความกดดันต่างๆของคนทั่วโลกตกมาอยู่ที่เขา

จากผู้ที่ทุกคนชื่นชอบและเป็นความหวัง
กลายเป็นปีศาจร้ายแค่ชั่วค่ำคืน

เขาสู้ทนไปปริปาก ไม่แก้ตัว นิ่ง สงบท่ามกลางความเลวร้ายที่ถาโถม

เขาเป็นเหยื่อความเลวร้ายที่ทุกคน ต่างลากใส้ออกมาประจานแม้เรื่องในมุ้ง

สี่ปีกับความเลวร้าย ที่ไม่เหลือแม้คนที่เคยชื่นชอบข้างกาย

ที่สุด..ในวันที่อังกฤษกำลังจะตกรอบไปบอลโลก ในครั้งต่อมา

อังกฤษโดนนำไปถึงสองลูก ตกรอบ
ไปบอลโลกไม่ได้อยู่แล้ว

เบ็คแฮมเป็นกัปตันทีม ที่ไม่มีใครให้ความสำคัญ
ก็ต้องตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้ง

อังกฤษตีตื้นขึ้นมาได้ 1 ลูก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะได้มา 1 คะแนน

ก่อนหมดเวลา อังกฤษได้ลูกฟรีคลิก นอกกรอบโทษ

เดวิส เบคแฮม เป็นผู้ตัดสินชะตาในการเตะฟรีคลิกนอกกรอบโทษครั้งนี้

ไม่มีพระเจ้าที่จะมาช่วยเขา
ถ้าลูกนี้ไม่เข้าประตู
เขาจะต้องโดนสาปและแช่งชัก
ไม่มีกระดูกได้ยืนบนโลกใบนี้

ภาวะความกดดัน มันรุนแรง
ความเกลียดชังแทบไม่มีที่ยืนตลอดสี่ปี
มันเป็นมารร้ายต่อเส้นทางชีวิตที่เขาต้องท่องไปกับมัน

มันยังยั่วยวนและตะโกนกู่ก้องอยู่ข้างหู

เขามองทุกอย่าง อย่างสงบ แม้ใจภายในจะเต้นรัว

ทุกคนนิ่ง จ้องมองเขาด้วยความกดดันและคาดหวัง จากชายที่ไม่มีใครให้ค่า
เพราะความเลวร้ายในอดีต
ที่พวกเขายัดเยียดลงไปให้แก่เขา

เสียงเฮ..ดั่งลั่นสนาม และทั่วโลก
เมื่อลูกฟรีคลิกจากนอกเขตโทษ
โดนปั่นเสียบเข้าไปในมุมสามเหลี่ยม
เข้าไปตุงตาข่าย

เขากลับมาเป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่รัก
ความสำเร็จจากนอกกรอบโทษลูกนั้น

มันชะล้างคราบความเฮงซวยทั้งหลาย
ที่ผู้คนต่างถุยใส่เขา ให้สะอาดผ่องใสขึ้นมาทันที

รอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจครั้งแรกปรากฏออกมา

อ้อมกอดของผู้คนต่างโถมเข้าหา
ตลอดสี่ปี มันหายไปและหวลกลับมา

นี่..เพราะเขาไม่ยอมแพ้ ไม่แก้ตัว ไม่ทะเลาะกับใครให้มันเลวร้ายยิ่งๆขึ้นไป

ผลงานและธรรมชาติของเขา ตะโกน บอกกล่าวเล่าเรื่องราวความเป็นเขา ให้โลกได้รับรู้เอง

หลายคนเคยท้อแท้
หลายคนเคยพลาดหวัง
หลายคนโดนหลายคนชิงชัง
หลายคนเป็นกากที่ใครๆต่างก็ทิ้งให้เป็นเดน

ลุกขึ้นมาสู้ อย่ามัวแก้ตัว
ลุกขึ้นมาสู้ อย่ามัวโทษใคร
ลุกขึ้นมาสู้ อย่าไปคาดหวังจากใคร
ลุกขึ้นมาสู้ อย่าเพิ่งพ่ายเพราะใจที่มันมีแต่ความเฮงซวย

ข้าเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่โดนรังแก พลาดหวังและกำลังพ่ายแพ้

ขอจงอย่ายอมแพ้ แม้เราต้องร้องให้

วันที่โลกสดใสสำหรับเรานั้นยังคงมี

อย่าให้ความอัปรีย์ ในการกระทำหรือถ้อยคำใคร มันมาทำลายใจ

แม้แต่ข้า ก็กำลังสู้อย่างไม่ท้อและยอมพ่ายแพ้แก่โชคชะตาเช่นเดียวกัน

รางวัลมีไว้ชื่นชม ความขื่นขมระทม มีไว้ทำลาย..

เรา..ก้าวเข้าไปพุ่งชนด้วยกัน..!!

พระธรรมเทศนาวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง