เมา

เมา

248
0
แบ่งปัน

*** “เมา” ***

คนกินเหล้านี่ กินเพื่อเมา เมาแล้ว รู้สึกถึงความเป็นอิสระ

อยากพูดก็พูด อยากด่าก็ด่า อยากชมก็ชม อยากทำอะไรก็ทำได้ ตามอิสระใจ

หลายคนตอนไม่เมานี่ ดีแสนดี แต่พอเมานี่ สารพัดเหี้ยมารวมตัวกันแปลงกาย

บางคนนี่รู้ตัว ว่าเมาเมื่อไหร่ แปลงกายเป็นเหี้ยเมื่อนั้น

แต่..อดแดกไม่ได้ ใจมันพ่ายแพ้

มันแพ้ซ้ำแพ้ซากอยู่เช่นนั้น เป็นผู้ที่ไม่ประมาณตน

บางคนเมายา บางคนเมาเหล้า บางคนเมาชีวิตที่ทุมเทมากไป

คนที่เมา ไม่ว่าจะด้านไหน ท่านเอย..ทุกข์มันตามหาเป็นเงาติดตัวอยู่นั่นแหละ

ถ้าเราเมาอันเนื่องมาจากเหล้ายา
เมาไม่นานมันก็หาย กลับมาเป็นเราเหมือนเก่า

บางคนเมาแล้วซ่า
บางคนเมาแล้วพูดมาก
บางคนเมาแล้วเงียบ
บางคนเมาแล้วตาขวางระรานไปทั่ว
บางคนเมาแล้วใจดี แจกๆๆ
บางคนเมาแล้วของขึ้น

พวกขี้เมานี่ มันก็เมาอยู่นั่นแหละ
มีโอกาศเมาเมื่อใหร่ มันเมาแหลก

เหล้ายาที่เคยกิน เห็นแล้วอดไม่ได้

เหล้ายาน่ะกินได้ ถ้าประมาณใจตนได้
ถือเป็นคนมีสัจจะ

คนที่รู้ตัวเอง ว่ากินแค่ไหนแล้วเมาควบคุมตนเองไม่ได้

ก็พึงกินแค่ลิมิตที่ตนเองพอรับได้
พอรู้ตัวว่าตึงๆก็ควรพอ เช่นนี้ไม่เป็นไร

แต่พวกขี้เมานี่ พวกพ่ายแพ้ใจตนเอง

ถ้าเป็นทหาร ก็ทหารเลว
รบในศึกมีเท่าใหร่ก็ตายเรียบ

ใครได้เป็นผัวเป็นเมีย ก็ละเหี่ยใจ
เรียกว่าได้ไอ้ขี้แพ้ มาทำผัวเมีย

เมาเหล้าเมายานี่ มันยังพอกลับมาเหมือนเดิมได้เป็นครั้งคราว แม้จะพ่ายแพ้

แต่เมากิเลสตัณหา ที่ผุดขึ้นมาจากใจไม่รู้จบนี่ มันทุกข์ตลอดกาล

ยาแก้ก็คือการพิจารณาใจและอารมณ์ในสิ่งที่มาผัสสะ

นี่..เป็นหนทางแห่งมรรค พอที่จะแก้เมาชีวิต ให้มันพอสงบลง

ตื่นเช้ามา ก็เริ่มเมากับเหล้าแห่งชีวิต

นั่นลูก นี่เมีย โน่นเพื่อน โน้นผู้คน ต่างคนต่างเมา

คนเมาเจอกัน มันก็ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างพูด

พอผิดไปจากที่ตนยึดด้วยความเมา มันก็โกรธ มันก็โวยวาย

ไอ้ยึดนี่ มันอาการเมา เรียกว่าเมาอุปาทานที่เกิดจากตัณหา

เราตื่นมาเมาทุกวัน
ตื่นมาทุกวัน เราลองหยุดคิด
หยุดพิจารณาชีวิตเราดูบ้าง

เผื่อมีซักวัน ตื่นขึ้นมาจากความเมา มันจะได้เห็นตามความเป็นจริง

ว่าไอ้สิ่งที่กุบ้าอยู่ทุกๆวันนี้ แท้จริงกุน่ะเมา…

พระธรรมเทศนาวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง