ทำงานหนักแทบตายสุดท้ายก็ทิ้งทุกอย่าง

ทำงานหนักแทบตายสุดท้ายก็ทิ้งทุกอย่าง

286
0
แบ่งปัน

*** “ทำงานหนักแทบตายสุดท้ายก็ทิ้งทุกอย่าง” ***

หวัดดีเที่ยงคืน

บางคนยังไม่นอน

บางคนนอนไม่หลับ

บางคนเพิ่งตื่นมาทำกิจ

คนต่างไม่เหมือนกัน

เราจึงไม่ควรเอาความเป็นเรา ไปตัดสินคนอื่นที่เขาแตกต่างไปจากเรา

เมื่อเดือนก่อน ไปโรงพยาบาลรามา

เห็นผู้คนนั่งรอหมอรักษากันมากมาย

ฝ่ายหมอพยาบาลผู้ช่วย ก็ทำแต่งาน

ชีวิตนั้น หากไม่ได้ถอยออก กลับมามองสิ่งเหล่านี้ เราก็จะไม่เห็น

ครั้งหนึ่งเราก็วุ่นวายเช่นนี้แหละ

ลืมวันลืมเวลา ที่จะถอยออกมามองเห็นสิ่งเหล่านี้

มองไม่เห็นว่าชีวิตตนเองนั้นแสนวุ่นวาย

ทำงานกันอย่างมดงาน สุขมั่งทุกข์มั่ง

รู้อีกที อายุก็เกษียณซะแล้ว

ความแข็งแรง หนุ่มสาว ความรู้ความสามารถ ที่ทุ่มเทลงไป

มันโดนกลืนลงไปในกาลเวลา

เห็นชัดเลยว่า ชีวิต เกิดมาเพื่องานๆๆๆ

คุณหมอท่านหนึ่ง นั่งอยู่ตรงนั้น

ท่านก็มารักษาตัวท่าน เหมือนดั่งที่ท่านเคยรักษาคนอื่น

แม้หมอก็แก่และเจ็บ ไม่พ้นไปจากสิ่งนี้

คราวนี้หมอจะรู้ว่า โดนฉีดยา เจาะเลือด กินยาเยอะๆ ตามที่ตนเคยสั่งนั้น จะเป็นอย่างไร

เราทำงานมีเงินเก็บมากมาย จนเวลาร่วงโรยเข้าสู่วัยชรา

แล้วเราเอาเงินที่เก็บอดออมมา เพื่อมารักษาธาตุขันธ์ที่มันกำลังร่วงโรย

เงินซื้อความเป็นหนุ่มสาวคืนมาไม่ได้

ซื้อความเจ็บ ความแก่ ความตาย ไม่ให้มันเกิดไม่ได้

ลองถอยออกมา เราอาจได้เห็นว่า

เราเกิดมา เพื่อทำงานๆๆๆ อย่างทุ่มเท หาเงินมามากมาย เพื่อไปสู่ความ แก่ เจ็บ ตาย กันแค่นี้หรือ

พวกหมอสละชีวิตเพื่อผู้อื่นมากเลยนะ

วันหนึ่ง หมอจะรู้ว่า เมื่อหมอเป็นคนเจ็บ คนป่วย คนชรา

กาลเวลาที่ผ่านมา หมอซื้อกลับคืนมาเป็นหมอคนเดิมไม่ได้เหมือนกัน

ยาแก้เจ็บมันมี แต่ไม่มียา แก้ไม่ให้แก่ ไม่ให้ตายน่ะมันไม่มี

หมอที่ทุ่มเท ช่วยเหลือผู้คน ก็จะต้อง แก่ เจ็บ ตาย ไม่ต่างกัน

เราเกิดมาได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ

แต่เราไม่รู้ว่า สิ่งที่เราต้องการ มันเป็นแค่เหยื่อล่อ ให้เราติดกับดักในการแสวงหาโดยไม่รู้จบ

ทุกคนทำงาน ต่างมีหน้าที่กันไป

สุดท้าย ทุกคน ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น

เราจึงไม่ควร โกรธ ไม่ควรทะเลาะ เอาเปรียบซึ่งกันและกัน

วันที่ต้องจากกัน ต่างคนต่างไป ไม่มีใครอยู่ชั่วนิรันดร์

เกิดมาเพื่อได้ทำตามหน้าที่

กับเกิดมาเพื่อเรียนรู้ในการที่ต้องทำตามหน้าที่

ข้าเพิ่งเห็นว่า ผลแห่งการเกิดมามันช่างแตกต่างกัน

โลกไม่มีสาระอะไรเลย ในการที่ได้เกิดมา

แต่โลกเต็มไปด้วยสาระและหน้าที่ ที่มุ่งหน้าไปตามทางแห่งตน เมื่อมองไม่เห็นและไม่เข้าใจ

เราไม่รู้ว่าเราเกิดมาทำไม

จนกว่าเราจะเข้าใจ และรู้ว่า การเกิดมา มันไม่ได้จมแช่อยู่แต่ในหน้าที่ และความชอบที่ตนมี

อยากรู้และเข้าใจโลก ก็ต้องหัดถอยออกมายืนดูการแสดง..

ขอขอบคุณทุกไมตรี ที่ให้ความห่วงใยกันมา

ข้าไปตรวจไปสแกน ผลปรากฏว่า ไม่มีอะไร

ทุกคนต่างห่วงใย มันคล้ายเกิดเมฆฝนมาบดบังชีวิตเรา

ท้องฟ้านั้น บางครั้งก็หนาแน่นไปด้วยละอองหมอกควัน

ฝนนั้น จำเป็นที่จะต้องมาทำการชะล้าง

ฟ้าหลังฝนย่อมแจ่มใสและสว่างสวยงาม

ข้า..กำลังโดนพายุกระหน่ำ ฟ้าฝนกำลังก่อตัว

ทุกอย่างมันมีการเปลี่ยนแปลง

สังขารย่อมปรุงแต่งเพื่อเตรียมความพร้อม

กำลังใจต่อการปรุงแต่งนี่สำคัญ

ขุนศึกคนสำคัญ ย่อมเผชิญศึกใหญ่อยู่เสมอ

อินทรีย์ปีกใหญ่ ย่อมทะยานไกลสูงเหยียดเมฆ

ลมแรงย่อมต้องกระแทกเป็นธรรมดา

นกกระจิบก็ใหญ่อย่างนกกระจิบ

ต่างฝ่ายก็ต่างใหญ่ในเครื่องมือแห่งตน

แต่การเหินทะยานไกลไปในฟากฟ้า

กับทะยานแค่พุ่มไม้ วิบากย่อมแตกต่างกัน

วันนี้เรากำลังเผชิญแรงถาโถมกับศึกใหญ่ๆ

ต่อไป เราอาจเป็นแค่คนนั่งดู คนอื่นๆที่กำลังเผชิญ เหมือนดั่งที่เรากำลังเป็น

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง