**** “ข้อสงสัยในพุทธและพระเจ้า” ****
ชีวิตนั้นอาศัยการเกิดมาอย่างเดียวแล้วสมบรูณ์ไม่ได้
ชีวิตนั้นมันอาศัยเหตุปัจจัยไปเรื่อยแหละจนโต
น้องจากต่างประเทศถามว่า
” พุทธศาสนา บอกว่าการเกิดเป็นทุกข์ เขาน่ะมีแต่ความสุข
มีชีวิตที่ดี มีเงินทอง พ่อแม่รัก ครอบครัวอบอุ่น งานการมั่นคง
เช่นนี้จะทุกข์ได้ไง ดูๆคำสอนมันขัดแย้งความจริง พระอาจารย์จะว่าไง..”
: #เคยเห็นคนแก่ไม๊ :
“เยอะแยะไป ”
: #เคยเห็นคนเจ็บไม๊ :
” เคยเห็นซิ เยอะแยะ ”
: #เคยเห็นคนตายไม๊ :
” เคยเห็น ไม่มีใครไม่ตาย ”
: งั้นคน แก่ เจ็บ ตาย นี่ มันสุขหรือทุกข์ :
” เอ่อ..ทุกข์ซิ ใครจะไปชอบ ”
: แล้วแกพ้นไปจากสิ่งเหล่านี้ไหม :
” ก็ไม่พ้น ”
: ไหนแกบอกว่า แกเกิดมามีสุขไง :
“….!!!!! ”
: รึไม่จริง เงียบทำไม :
” ผมพูดถึงปัจจุบันตอนนี้ไง ผมมีความสุข ”
: งั้นข้าไม่ไปส่ง แกว่ายน้ำกลับออกไปเอง โอเคไหม :
” อ้าว..งี้ผมก็แย่ซิ ใครจะว่ายกลับได้ ตั้วสองสามกิโล ”
: แค่คำขู่ข้าแกก็ทุกข์ใจแล้ว เพราะความไม่ถูกใจ แล้วชีวิตแกทั้งชีวิต คิดว่าจะถูกใจทั้งชีวิตเหรอ
” มันก็คงไม่ ”
: งั้นอะไรที่ไม่ถูกใจ มันสุขหรือทุกข์เล่า :
” ก็เป็นทุกข์ ”
: งั้นที่แกคิดว่าเป็นสุข มันก็ผิดหมดซิ :
” โอเคๆ ข้อนี้ ถือว่าพุทธพูดถูก ผมเห็นชัด ”
งั้นขอถามอีกข้อ นะครับอาจารย์
” พุทธไม่ให้นับถือผี ไม่ให้นับถือสิ่งที่มองไม่เห็น
แล้วทำไมถึงไหว้พระพุทธเจ้า ในเมื่อพระพุทธเจ้าตายไปตั้งนานแล้ว
เช่นนี้ก็ถือว่าเป็นการเคารพนับถือผีเช่นกัน มันจะแย้งกับคำสอนไหม
ศาสนาอื่น เขาเคารพพระเจ้า ซึ่งไม่ใช่มนุษย์ที่ตายอย่างพระพุทธเจ้า
อาจารย์จะตอบว่าไง ”
: แบ้งค์พันนี้มีค่าไหม :
” มีค่า ”
: กระดาษเปล่าแผ่นนี้ มีค่าไหม :
” อืม..ไม่มีค่า ”
: ข้าเขียนเลข 100000 ลงไปในกระดาษ ตัวเลขมากกว่าแบ้งค์พัน มันมีค่าไหม :
” ก็ไม่มีค่าอยู่ดี เพราะมันเป็นแค่กระดาษ ”
: แล้วแบ้งค์พันนี่ มันกระดาษหรือทองคำกันเล่า :
” กระดาษ เหมือนกัน ”
: ทำไมกระดาษแบ่งค์พันมีค่า กระดาษเปล่าไม่มีค่า ในเมื่อมันเป็นกระดาษเหมือนกัน :
” เอ่อ.อ.. ก็เราให้ค่ามัน สมมุติมันขึ้นมาให้มีค่าไง ”
: แสดงว่า ไม่ได้ให้ค่าเพราะความเป็นกระดาษ แต่เราให้ค่าเพราะเราสมมุติมันขึ้นมา :
” แล้วเกี่ยวอะไรกับพระพุทธเจ้าที่ตายไปแล้ว ”
: ก็จะบอกว่า พุทธศาสนา ที่เขากราบไหว้พระพุทธเจ้านั้น เขาไม่ได้กราบไหว้เพราะความเป็นคน
เขากราบไหว้ในคุณแห่งปัญญา ที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ว่าความเป็นจริงนั่นคืออะไร
มันเป็นเรื่องของปัญญาแห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่มีในตัวทุกคน
ไม่ได้กราบวิญญาน ไม่ได้กราบผี ไม่ได้นับถือเพราะความเป็นเจ้าชาย สิทธัตถะ
ศาสนาอื่น คำสอนมาจากพระผู้เป็นเจ้า ก็ผ่านมาทาง ท่านนบีบ้าง ผ่านทางพระเยซูบ้าง
ท่านนับถือพระเจ้าของท่าน หรือนับถือศาสดาของท่านเล่า
” นับถือทั้งคู่ ”
: เช่นนี้ ท่านก็นับถือผีเหมือนกันซิ จะมาสงสัยศาสนาอื่นทำไม :
” …งั้นโอเค เป็นอันว่าเข้าใจ ผมตอบปัญหาเพื่อนได้ ”
ขอถามอีกข้อได้ไหม..
: ได้ :
” พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทำไมพระอาจารย์ไม่เชื่อพระเจ้า ”
: รถยนต์นั้น ใครสร้าง มนุษย์หรือพระเจ้า :
” มนุษย์ ”
: ต้นไม้นั่นใครปลูก บ้านนั้นใครทำขึ้นมา สัตว์นั้นใครเพาะพันธุ์
และแกเอง เกิดมาจากใคร พ่อแม่หรือพระเจ้า ”
” โห..อาจารย์ เล่นอย่างนี้แล้วผมจะตอบไง ก็ต้องมนุษย์ซิ
ที่ผมถามน่ะ ก่อนจะมีมนุษย์ไง ทุกอย่างจึงต้องเกิดจากพระเจ้าสร้าง ”
: แล้วแกเอาหลักฐานความจริงมาจากไหนล่ะ ที่ว่าพระเจ้าสร้างทุกอย่างขึ้นมา :
” ก็คำภีร์เขาเขียนบอกไว้อย่างนั้น ”
: แล้วคำภีร์ของแก ใครเขียน..? มนุษย์หรือพระเจ้าเขียน :
” ก็เอามาจากพระเจ้าไง มนุษย์เอาคำสอนมาจากพระเจ้า ”
: พวกผีเข้าก็อ้างพระเจ้าได้เหมือนกัน แล้วเอามาเขียน แกจะเชื่อไหม :
” โธ่..อาจารย์ ทำเอาผมไปไม่เป็น พระเจ้าก็พระเจ้า ผีก็ผีซิ มันแตกต่างกัน ”
: ก็เพราะเหตุนี้ไง ข้าถึงได้ถามให้แกตอบ พุทธน่ะ ชี้ให้เห็นธรรมชาติแห่งความเป็นจริง
ชี้ให้เห็นเหตุปัจจัยที่มันอาศัยกันเกิด มันมีเหตุมีผล ไม่ใช่งมงายเชื่อแต่ตำราหรือคำภีร์
มันต้องตอบต้องขยายออกมาได้ เข้าใจได้ ไม่ใช่เอะอะก็เป็นเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
เราต้องสนองอารมณ์ของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเดียว
นี่มันเป็นเรื่อง ไพร่อาริยะโมเดลแห่งพระผู้เป็นเจ้าแล้ว
พระผู้เป็นเจ้าพอใจ ก็จะให้สมความปรารถนา เกิดไม่พอใจขึ้นมา มึงก็ซวยเพราะอารมณ์ขัดใจ
มันเป็น บรูณาญาสิทธิราชย์เทวะนิยมซิวะ
เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วมาเป็นไพร่อารยะเทวะนิยมรึไง
มนุษย์เอาอะไรยัดใส่คำภีร์แล้วทุกคนต้องทำตามด้วยข้ออ้าง พระเจ้าท่านสั่งมา
ข้าว่า ตื่นขึ่นมาเห็นความจริงได้แล้ว ทุกอย่างมันเกิดจากมนุษย์สมมุติขึ้นมาทั้งนั้น
มองความจริงซิ อย่ามองแค่ความเห็นว่าตนถูกต้อง
โบราณเขียนอะไรลงไปในกระดาษ ในแผ่นหนัง ในแผ่นโบราณ
มันต้องเอามาตรึกตรอง ใช้สมองคิดซะบ้าง ไม่ใช่เชื่อดะ
แล้วเอาสิ่งที่ตนเชื่อดะ มาอ้าง มายัดเยียดให้ผู้อื่นทำตาม ด้วยข้ออ้าง พระผู้เป็นเจ้าสั่ง
ข้าน่ะ ไม่ค่อยสนใจอะไร ที่มันหาเหตุหาผลไม่ได้ และไม่อยู่กับความเป็นจริง
พุทธะสอนให้ข้า เข้าใจความเป็นธรรมดา ที่มันมีที่มันเป็นตามเหตุปัจจัย
ไม่ได้ขึ้นอยู่กัยคำภีร์ หรือพระเจ้าที่ไหนมาคอยดลบันดาล
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2561
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง