*** “ยุคตกต่ำแห่งจิตใจคน” ***
ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ
ทุกหนทางย่อมมีทางแก้
อยู่ที่ว่าเราจะแก้เรื่องแย่ๆที่เผชิญกันได้หรือเปล่า
พุทธศาสนาทุกวันนี้ ต้องยอมรับกันว่า นักบวชเฮงซวยมันก็มีอยู่เยอะ
และไอ้พวกเฮงซวยนี่แหละทำเอาความเป็นพุทธ เสื่อมทรามลงไปในสายตาผู้คน
การสะสมเงินทอง การสะสมสิ่งของเพื่อตนเอง จะเอาไปทำอะไร
นักบวชพึงพอใจแค่บริขารที่ตนมี
อยู่เมืองก็ว่าไปตามเหตุปัจจัย หากจำเป็นต้องใช้เงิน
แต่การสะสมเงินทองมากมาย ทั้งๆที่เป็นนักบวช มันไม่สมควร
ข้าเองน้องๆจัดการให้ทุกอย่าง พอใจเท่าที่มี
เครื่องมือเครื่องใช้ในการแสดงธรรม เขาก็จัดการมาให้
ค่าใช้จ่ายรายเดือน เขาก็ช่วยๆกันคนละเล็กละน้อย
ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้มาช่วยๆกัน
พวกเราพวกท่านก็จะไม่ได้รับรู้ธรรมแห่งประสบการณ์ ที่ข้าได้แสดง
ยุคนี้ผู้คนไม่ได้เกรงกลัวพระอย่างงมงาย
นักบวชทั้งหลาย อย่าได้นึกว่าบวชแล้วตนคือเทวดา
หากท่านไม่มีธรรม ท่านจะไม่ต่างจากผู้คนใส่เสื้อผ้า
บวชแล้วพึงน้อมใจเข้าหาการศึกษาฝึกปฏิบัติ เพื่อเข้าหาสัจธรรม
นักบวชนั้นมี 4 ประเภทน่ะท่าน
ประเภทแรก ท่านบวชมาแล้วเข้าถึงธรรม จึงอยู่เพื่อรักษาสัจธรรม
ประเภทสอง ท่านบวชมาแล้วมุ่งแสวงหาสัจธรรม
ประเภทสาม ท่านบวชมาแล้วเผยแพร่สัจธรรม
ประเภทสี่ ท่านบวชมาแล้วประทุษร้ายต่อพระสัจธรรม
ประเภทที่สี่นี่ มีเยอะ มันหลากหลาย
ฉะนั้น เราจึงไม่ควรเหมารวมเพราะเห็นว่า พระหนึ่งคนทำไม่ดี แล้วเหมารวมว่าพระทั้งหมดก็ย่อมไม่ดีตาม
เช่นนี้..เราก็เลวและโต่งเป็นผู้ประทุษร้ายศาสนาซะเอง
คนเราทำอะไรไว้ สิ่งนั้นก็ย่อมหวนมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ท่านพุทธะอิสระ แม้ท่านจะเห็นว่า เป็นการทำเพื่อส่วนรวม เพื่อความถูกต้อง
แต่การกระทำนั้น ย่อมไม่ถูกต้องต่อฝ่ายตรงกันข้าม
ความไม่พอใจในสิ่งที่ได้ทำมันก็เลยเกิด
เป็นการสะสมความแค้นลึกเข้าไปเรื่อย
วันหนึ่งเมื่อวิบากมันก่อตัวเข้มแข็งขึ้น
การฟาดฟันทางวิบาก มันก็จะกลับมาสนองให้เป็นผล
สรรพสิ่งเกิดจากเหตุ เหตุเป็นสมมุติ
สมมุตินี้เป็นอวิชา
อวิชาเป็นที่มาแห่งเหตุทั้งปวง
>>> ผู้แสดงความเห็น 1 >>> ถ้าเป็นกรรมของท่านผมเห็นด้วยนะครับ ท่านทำผิดกฎหมายรุนแรงครับ
และกับนักบวช ต้องวางใจเป็นกลางนะครับ ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใด ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
นักบวชไม่ควรขออภิสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น ถ้าสังคมจะมอบให้เพราะคุณงามความดีของนักบวชเองก็น้อมรับไปได้
แต่ไม่ควรขอเขาให้เคารพเรานะครับ
ผมนับถือศาสนาพุทธ เคยบวชเรียนมา ปัจจุบันจึงเห็นว่ากลุ่มที่ควรแก้ไขกันก่อนคือนักบวช
มาทำความเข้าใจกันใหม่ บวชเพื่ออะไรกันแน่ แล้วคุณทำเหมาะสมหรือยัง
ไม่ต้องมองบุคคลอื่น มองตัวเจ้าของเอง แก้ไข เอาอย่างพระพุทธเจ้าสิครับ
ท่านไม่เคยอ้อนวอนขอความเคารพจากใคร ความนับถือจากใคร นักบวชก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ดังนั้นอยู่ภายใต้กฎหมายเช่นกันนะครับ
<<< พระอาจารย์ตอบ <<< ผมเข้าใจครับ ร่วมออกความเห็นได้
นักบวชไม่ควรถืออภิสิทธิ์ใดๆ นั้นถูกต้อง
ผิดถูกว่าไปตามเหตุปัจจัย คนจริงย่อมยอมรับผลการกระทำ
เพียงแต่เห็นว่า การเข้าจับกุม ด้วยท่าทางและวิถีเช่นในคลิปนั้น
มันเป็นเด็กน้อยด้อยปัญญาเสียเกียรติภูมิ ความเป็นชาติทหารที่น่าภาคภูมิใจ
แค่พระแก่ๆรูปเดียว ต้องทำกันถึงขนาดนั้นเชียวหรือ
>>> ผู้แสดงความเห็น 2 >>> มีสองเรื่องเจ้าค่ะพระอาจารย์
1. เรื่องเป็นแกนนำ กปปส. ที่แจ้งวัฒนะ ลูกน้องไปทำร้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวมาอยู่ในกลุ่มเลยโดนฟ้องข้อหาหนัก!
2.ข้อหาปลอมแปลง เอาชื่อ ภปร.และสก. ไปติดที่หลังพระที่วัดอ้อน้อย ตั้งแต่ปี 54 โดยมิได้ขออนุญาต. เจ้าค่ะ!
<<< พระอาจารย์ตอบ <<< ความผิดที่ทางการเห็นว่าผิด ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
แต่พฤติกรรม ที่เข้าจับกุมนั้น เสียเกียรติภูมิของความเป็นเจ้าหน้าที่
มันดูว่า เก่งเฉพาะผู้ไม่มีหนทางสู้
ส่วนเรื่องทางความผิดอะไร ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
>>> ผู้แสดงความเห็น 3 >>> ผมว่าเป็นเพราะเงินตัวเดียวที่ทำให้พระหลายๆรูปถูกจับ
<<< พระอาจารย์ตอบ <<< พระที่มีบัญชีส่วนตัว เพื่อเป็นไปส่วนตัว มีเงินเก็บสะสมมากมาย
ย่อมเป็นเช่นสะสมงูพิษร้ายมาทำลายตน ผู้คนก็มองดูว่า ไม่น่าบวชเป็นพระ
>>> ผู้แสดงความเห็น 4 >>> ท่านพระ อจ.คิดอย่างไรเจ้าคะ
<<< พระอาจารย์ตอบ <<< วิบากว่าไปตามกรรม ท่านพุทธะอิสระกำลังเผชิญวิบาก
แต่การเกรี้ยวกราดดุจเข้าจับกุมมหาโจรที่มีอาวุธร้าย
เป็นการกระทำแบบเด็กน้อยไม่สมภูมิชายชาติทหาร
กับพระแก่ๆรูปหนึ่ง ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ มันจะเป็นบาปกรรม ส่งผลไปถึงเกียรติภูมิตน
เบื้องต้น คนก็ด่าแล้วล่ะ นอกจากพวกสะใจที่ไม่ชอบใจท่านพุทธะอิสระนั่นแหละ ที่เห็นดี
>>> ผู้แสดงความเห็น 4 >>> คงไม่ใช่ อ่อนแอก็แพ้ไป นะครับ…
<<< พระอาจารย์ตอบ <<< ถึงคราวแห่งวิบาก ผลคดีก็ว่ากันไปตามผลคดี
แต่ที่พูดๆกันนี่ มันหมายถึงการส่งคลิป แสดงความยิ่งใหญ่ของกลุ่มชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธ
ส่งเสียงท่าทางน่ากลัวเข้าจับกุมพระแก่ๆรูปหนึ่ง ที่ไม่ได้คิดต่อสู้อะไร
พฤติกรรมเช่นนี้ ของเจ้าหน้าที่ มีแต่เสียกับเสีย ดูว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ
ผู้สั่งการ ไม่ได้ฉลาดในการสั่งให้กระทำเลย
คนไม่ชอบท่านพุทธะอิสระก็มากมายในการกระทำตามตรรกะท่าน
แต่เหตุครั้งนี้ คนที่ยังมีความยุติธรรมในใจ มันเห็นว่า มันไม่ควรทำเช่นนั้น
คนเคยไม่ชอบ ก็หันมามองว่า รัฐรังแกแต่พระที่ไม่มีทางสู้
เก่งกับคนแก่ๆ เก่งแต่แก้ตัว คิดไม่เป็นว่าผลเสียมันจะสวิงกลับเข้าหา เพราะการกระทำเป็นเหตุ
ผู้คนไม่ได้สนใจเรื่องดีเลวหรือผลทางคดี
แต่ที่ดูไม่ดี คือการแสดงกริยาหยาบถ่อยกับพระแก่ๆ ที่ยังอยู่ในเพศนักบวชนั่นแหละ
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2561
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
