คุยธรรมกับผี 1

คุยธรรมกับผี 1

341
0
แบ่งปัน

*** “คุยธรรมกับผี 1” ***

เมื่อวานได้นั่งคุยกับตรัยบันทาย นั่งคุยกันหลายๆคน

ตรัยบันทายนี่ เป็นชาวขอมนะ ผ่านมาถึงตอนนี้ก็พันกว่าปีแล้ว

พูดอย่างนี้ คนยุคนี้ก็เข้าใจยากน่ะ เรื่องเช่นนี้มีด้วยหรือ

เอาเป็นว่า ข้าจะเล่าให้ฟังละกัน ฟังกันสนุกๆกันไป มีสาระก็ได้ไม่มีสาระก็ได้

สิ่งที่จะเล่าให้ฟังก็คือ การปฏิบัติด้วยความว่างนั้นไม่มีผลอะไรต่อชีวิต

เจ้าตรัยบันทายนี่ สมัยนั้น อายุก็น่าจะหกเจ็ดสิบปี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีความเพียรสูงยิ่ง

เขาบอกว่า เขาอยู่อาศัยนอกเมือง สมัยนั้นผู้คนไม่เยอะ ถิ่นที่เขาอยู่ก็คือแถบภูเขาพนมกุเลน

ธารน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา มีการแกะสลักลงมาตลอดสาย เขาบอกว่าเป็นเรื่องราวของนาค

นั่นแสดงว่า ธารสายน้ำที่เขาพนมกุเลน ที่แกะสลักลงไปบนหินตลอดธารน้ำนั้น มีอายุมากกว่าพันปี

เพราะตรัยบันทายเขาบอกว่า สมัยที่เขาปฏิบัติอยู่ที่ภูเขา กับสมัยนี้นั้น ห่างกันมากกว่าพันปี

แต่จะกี่พันเท่าไหร่นี่ไม่รู้ เขาหลับตาอย่างเหนื่อยๆและจำไม่ได้

เขาบอกว่า สิ่งที่เขายึดปฏิบัติก็คือความว่าง

เขามองทุกอย่างด้วยความว่าง โลกนี้จริงๆไม่มีอะไร เมื่อเขาไม่ใส่ใจในสรรพสิ่ง

ชีวิตในสรรพสิ่งโดยเฉพาะผู้ปฏิบัติ ก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์

มนุษย์นั้นเอาตัวตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสรรพสิ่ง ทำให้เกิดกรรมและวิบากขึ้นมา

หากทำใจให้ว่างจากเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย กรรมอันเป็นวิบากนั้นก็จะไม่เกิด

คนเราทุกข์เพราะเกิดจากวิบากกรรม อันเกิดจากการยึดมั่นถือมั่น

การยึดมั่นถือมั่น เป็นอุปาทานอุปสรรคร้ายแรงให้แก่ชีวิต ที่กำเนิดเกิดมาให้ข้องกับโลก วนเวียนอย่างไม่รู้จบ

เขาว่างจากเครื่องร้อยรัดเหล่านี้ เขาสอนศิษย์และผู้คนทั้งหลาย ให้อยู่กับความว่างเปล่า

บางคนที่ปฏิบัติในยุคของเขา ไม่เอาแม้เสื้อผ้า อาหาร พิธีกรรม พิธีการอะไรต่างๆ ก็ไม่เอา

หนักไปทางสมาธิ นั่งสมาธิกันเป็นเดือนๆ บางรายก็นิ่งอยู่เป็นปีๆ

ตัวเขาเองก็ตายในท่านั่งสมาธิ ตายในภวังค์ ตายอย่างไม่รู้ตัวว่าตนเองตาย

เขาไม่มีรูปให้ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป เขาตายด้วยการว่างจากรูป

ข้าถามว่า ” แล้วทำไมถึงมาเป็นวิญญานอยู่ในร่างคนได้เล่า ทำไมวิญญานไม่ไปสู่สุคติ ”

เขานิ่งมองหน้า ตอบคำถามข้าไม่ได้

ข้าจึงอธิบายให้น้องๆเพื่อนๆและท่านมหาที่นั่งอยู่ด้วยฟังว่า

ตรัยบันทายเขามีความเพียรสูง ปฏิบัติจริง ตั้งมั่นในการปฏิบัติ

เป็นผู้มีศีล ไม่เบียดเบียน ไม่ขโมย ไม่โกหก ไม่เป็นชู้กับใคร ไม่ดื่มสุรา ไม่อะไรทั้งนั้น

แต่นี่คือผลที่เขากำลังได้รับอยู่ คือเป็นวิญญานที่ยังไม่มีที่ไปชัดเจนแน่นอน ตามความเห็นคติตอนมีชีวิตอยู่

เขาอยากจะให้ร่างที่เขาอาศัยอยู่นี่ปฏิบัติมากๆ เพราะนางเป็นคนมีความเพียรน้อย

ข้าถามว่า ทำไมบันทายไม่ว่างจากความเป็นนางที่ไม่ได้ดั่งใจบ้างเล่า

เขาอึ้งและมองหน้านิ่ง..

ข้าจึงอธิบายว่า ที่ตรัยบันทายว่างนั้น มันว่างไม่จริง มันแค่ทำตัวให้ว่าง เป็นเจ้าของการว่าง จากอารมณ์ต่างๆเท่านั้น

อิกัวน่าที่ข้าเลี้ยง มันก็ว่างจากสิ่งต่างๆเหมือนกัน วันทั้งวัน มันก็ไม่ได้หือไม่ได้อือกับอะไร

แต่บันทายเขาไม่รู้จักอิกัวน่า ข้าบอกว่ากิ้งก่าตัวใหญ่ๆน่ะ เขาจึงพยักหน้า

ข้าบอกว่า อิกัวหน้าก็ไม่ได้เป็นอริยะอะไร มันก็ยังเป็นอิก้วน่าที่ไม่ได้ฉลาดอะไรขึ้นมา

เด็กน้อยตัวเล็กๆ เขาก็ว่างจากเรื่องเพศ เรื่องความชั่ว และการยึดมั่นต่างๆที่ผู้ใหญ่เขายึดๆกัน

เขาสิ้นชีวิต เขาตายไปด้วยอะไรก็แล้วแต่ เด็กน้อยคนนั้น วิญญานเขาจะไปไหนล่ะ

ไปเป็นเทวดานางฟ้ารึ หรือไปอยู่เป็นพรหมเป็นอมตะไม่มีวันแก่วันตาย

เด็กตัวน้อยๆ มีชีวิต ว่างจากความชั่วมากกว่าบันทาย บันทายเป็นวิญญาน

บันทายย่อมรู้ว่า วิญญานเด็กเหล่านั้นเขาจะไปไหนล่ะ

ตรัยบันทายมองหน้านิ่ง บอกว่าก็ต้องมาเกิดใหม่ ไม่ได้ไปไหน

ข้าจึงบอกว่า นั่นแหละๆๆ เป็นความจริงที่ว่า ความว่างจากความชั่ว ว่างจากกรรม ว่างจากอารมณ์กระทบต่างๆนั้น มันยังขาดปัญญา

ชีวิตคนเรานั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตัวให้ว่างหรอกนะ

เราเกิดมา เพื่อที่จะได้ศึกษาเรียนรู้ในความเป็นจริง หาคำตอบจากการปฏิบัติ ให้รู้แจ้งว่าชีวิตนั้น เกิดมาทำอะไร

ทำไมชีวิตเกิดมาจึงต้องทุกข์กับการ แก่ เจ็บ ตาย ความพลัดพราก ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ดั่งใจ ความสูญเสียอะไรมากมาย

เมื่อบันทายมาแช่อยู่กับความว่างที่บันทายเห็นว่าถูก ความถูกนี่มันไม่เป็นความจริงใช่ไหม

เขาพยักหน้า และอยากรู้ธรรมที่ตรงตามความเป็นจริง อยากรู้ว่าข้านี่รู้อย่างไร

ข้าบอกว่า ความถูกต้อง และเห็นถูก มันเป็นเรื่องของอัตตาตนน่ะบันทาย

มันยังมีมุมอีกหลากหลาย ที่มองเห็นความถูกนั้น ที่ไม่ใช่ความถูกต้องอย่างที่เรามอง

นั่นคือความเป็นจริง สำคัญอยู่ที่ว่า เราจะยอมมองเห็นความเป็นจริงได้แค่ไหน

แต่หากเรายังยึดอยู่แค่ความถูกต้อง อาการความถูกต้องนั้น มันยังห่างไกลออกไปจากความเป็นจริงอยู่มาก

เราเกิดมาเพื่อแสวงหาความเป็นจริง ไม่ใช่เกิดมา เพื่อแสวงหาความถูกต้องดั่งที่บัยทายเป็น

ไว้ค่อยเล่าให้ฟังต่อ วันนี้ขอพักก่อน ไม่ว่างแล้ว

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี