มนุษย์ผู้มีปัญญาไม่พึ่งหาพระเจ้าที่ไหน

*** “มนุษย์ผู้มีปัญญาไม่พึ่งหาพระเจ้าที่ไหน” ***

หวัดดียามเที่ยง..

บางครั้ง.. ความเห็นก็ไม่ใช่ความถูกต้อง

บางครั้ง.. ความถูกต้องก็ไม่ใช่ความจริง

บางครั้ง.. ความจริงก็ไม่ได้รับการยอมรับเสมอไป

พุทธศาสนาชี้ให้เห็นความเป็นจริงเบื้องหน้า

เราหยิบเหรียญขึ้นมากำไว้ในมือซักเหรียญซิ

แล้วถามใจเราดูให้ตรงตามความเป็นจริงเลยว่า

เหรียญในมือ กับล้อรถยนต์เบื้องหน้านั้น

อะไรมันหนักกว่ากัน..??

ถ้าเราตอบล้อรถยนต์ เช่นนี้ เรียกว่าตอบถูกอย่างโลกเขาว่า

เพราะเห็นว่า ล้อรถยนต์มันใหญ่กว่า โตกว่า ก็ย่อมต้องหนักกว่า

แต่มันไม่เป็นความจริง

ความเป็นจริงก็คือ เหรียญในมือมันหนักกว่า

ที่หนักกว่า เพราะเจ้าของรู้น้ำหนักเหรียญในมืออย่างชัดเจน

ส่วนล้อรถยนต์ที่โลกเขาว่าหนักกว่า

มันเป็นเพียงแค่จินตนาการ

มันเป็นอากาศสัญญา มันไม่ได้มีน้ำหนักตามหลักฟิสิกส์

นี่..พุทธศาสนา ชี้ให้เห็นความจริงเบื้องหน้าเช่นนี้

ไม่ได้ชี้ให้ไหลไปกับความงมงายที่เกิดจากตรรกะและความคิดความเห็น ดั่งตาที่เห็นแล้วตัดสินเอา

การนับถือพระเจ้านั้น ไม่มีใครเขาว่าหรอก มันเป็นเรื่องธรรมดา

เราไม่รู้ว่า พระเจ้าเป็นใคร มาจากไหน

และทำไมเราถึงได้นอบน้อม อย่างสิ้นท่าต่อสิ่งที่เขาว่ามาในหนังสือคัมภีร์

มนุษย์ที่ฉลาดนั้น มันต้องพิสูจน์ต่อความเป็นจริง ที่จับต้องได้ด้วยปัญญา เท่าที่มี

การจำนนต่อโชคชะตา ฟ้าลิขิต มันเป็นเรื่องของผู้อยู่ป่า

ที่ล้าหลังความเป็นศิวิไลซ์ ในการเป็นมวลมนุษย์ชาติ

พระพุทธเจ้า เป็นมนุษย์ ที่ทรงค้นพบความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหน้า

เรากราบและนอบน้อมพระปัญญาที่พระองค์ท่านค้นพบ

ไม่ได้กราบเพราะแค่ความเป็นมนุษย์ขี้เหม็นอย่างพี่บังเขาว่าและเข้าใจ

เราเคารพธงไตรรงค์ นั้นเพราะเป็นอัตตลักษณะแห่งการเป็นชาติ

เราไม่ได้เคารพเพราะเหตุแห่งธงนั้นเป็นแค่ผืนผ้าย้อมสีอย่างที่เห็น

พุทธะนั้นเป็นเรื่องของปัญญา

มันเข้าใจได้ด้วยความเป็นมนุษย์

ศรัทธาอย่างเดียวนั้นงมงาย

ปัญญามากไป ก็สงสัย

เชื่อจนงมงาย เราก็จะโดนหลอก

การหลอกด้วยคำอ้าง เกี่ยวกับคนบนฟ้า ที่ไร้ตัวตนมีแต่คำกล่าวอ้าง

มันทำให้มนุษย์ด้อยค่าและงมงายในความเป็นมนุษย์

คำถาม >>> กราบสาธุ เจ้าค่ะ เราควรจะพิจารณาอย่างไร จึงเป็นธรรมที่ถูกต้องเจ้าคะ

พระอาจารย์ตอบ <<< ถ้าเป็นชาวบ้าน ธรรมที่ถูกต้องไม่มี

ที่มีเป็นธรรมที่ถูกใจตน

ธรรมที่ถูกต้องนั้น มันเกิดจากเราเพียงส่วนเดียว

แต่ธรรมที่เป็นความจริง เกิดจากการเห็นแจ้งธรรมดา

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 26 เมษายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี