ฝึกปฏิบัติมาก ขาดปัญญาก็โต่ง ไม่ได้อะไร

ฝึกปฏิบัติมาก ขาดปัญญาก็โต่ง ไม่ได้อะไร

228
0
แบ่งปัน

*** “ฝึกปฏิบัติมาก ขาดปัญญาก็โต่ง ไม่ได้อะไร” ***

เราควรตระหนักกับความเป็นจริงอะไรบางอย่างกันบ้าง

การฝึกปฏิบัติ โดยเอาตัวตนเข้าไปเป็น

แล้วเพ้อพร่ำรำพันไปตามภาษาธรรม

ว่าไม่เอานั่นไม่เอานี่

ข้าว่านี่เป็นอัตตาที่สุดท้าย ก็มีหนทางไปไม่ต่างจากวิญญาณเหล่านี้

หลายสำนัก เน้นแต่การสอนเรื่องทำตัวให้ว่างจากสรรพสิ่ง

อ้างความเป็นพุทธ แต่แนวทางนี้ มันเป็นของพวกนอกศาสนาทั้งสิ้น

เรามันลอกเขามา ที่สำคัญ เข้าไม่ถึงความเป็นจริง

การชี้แนะชี้นำ มันก็เลยใช้การคิดเอา

ความคิดที่เห็นว่าถูก มันถูกเพราะเราคิดว่าถูก

แต่ความถูกนั้น มันอาจห่างไกลจากความเป็นจริงก็ได้

เราอย่าเพิ่งมั่นใจ ในธรรมใดๆ ที่ตำราหรือผู้เขียนชี้ออกมา

จิตที่ไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างถูกวิธี หรือโดยตรงจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์

ย่อมจะไม่รู้เห็นเรื่องราวต่างๆของพลังงานที่เป็นวิญญาณ

ไม่เช่นนั้น คนทั้งหลายคงไม่โดนหลอกจากพวกพ่อค้าคนกลาง

ที่ขายสินค้าด้วยตรรกะแนวทางแห่งวิญญาณ ให้เราจนงมงาย

คนที่ไม่พบเจอ ก็จะบอกว่าไม่มี

ถ้าท่านมองพื้นดิน ท่านเห็นเชื้อโรคไหม

วิญญาณนั่นมันมองเห็นได้รับรู้ได้ สำหรับผู้ที่มีเครื่องมือในการสอดส่ง

สิ่งเหล่านี้ เราเรียนรู้แค่ว่ามันมี ฉะนั้น เราอย่าได้พึงทำความชั่ว

เพราะความชั่ว มันมีวิบากมาให้ผล แม้แต่พลังงานที่เป็นวิญญานได้เหมือนกัน

การที่ผู้คนได้เปิดหูเปิดตารับรู้ตามความเป็นจริง

สิ่งนี้จะเป็นปัญญาให้แก่ตัวเขาเอง ในการมีชีวิตในอัตภาพนี้

การหลงยึดอะไรด้านเดียว มันทำให้เรานั้นโต่ง

ยึดเหตุยึดผล ก็บ้าเหตุบ้าผล

ยึดความถูกต้องก็บ้าแต่ความถูกต้อง

ยึดมั่นความดี ก็บ้าแต่ความดีคนอื่นไม่ดี

เช่นนี้ๆแหละ ที่ท่านเรียกว่าโต่ง

พุทธะนั้นเป็นเรื่องของปัญญา

ไม่ใช่เรื่องของความเชื่องมงายแต่เพียงฝ่ายเดียว

เราพึงทำกำลังแห่งศรัทธาและปัญญาให้เสมอกัน ด้วยสติ

ความถูกต้องกับความเป็นจริง มันคนละตัวกัน

ความถูกต้องนั้นอาศัยสิ่งที่เราเห็นว่าถูก

แต่ความเป็นจริงที่เราเห็นว่าถูก

มันอาจไม่ใช่ความเป็นจริง

เราจึงควรพิจารณาก่อนที่จะทำอะไร

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 24 เมษายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี