***** “ยืนอย่างอิสระท่ามกลางอาวุธที่มองไม่เห็น” *****
วิสัยของปราชญ์นี่ มีอิสระในด้านความคิด..
แต่เราเลือกที่จะยืนอย่างอิสระได้ โดยที่ไม่ให้ใครเขาเดือดร้อน
คือยอมรับความผิดพลาด ที่ไม่ผิดพลาดจากความคิดที่เราไม่พลาด ในเรื่องที่จะคิด… ว่าเราพลาดได้เช่นกัน
เรื่องผิดพลาดของผู้อื่นที่เราคิด ..
มันคือมาตรฐานเรา ที่ไปให้ค่าความผิดพลาดเขา..
ความผิดพลาดของเขาที่เราบอกเขา..
นั่น..มันอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดของเขา ที่เขาส่งมอบความไว้วางใจมาให้แก่เรา
ความไว้วางใจของเขา ที่เขามีและส่งมอบให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่เขามีเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ
มันอาจเป็นความอัปรีย์จัญไรต่อใจเรา ที่ยอมรับสิ่งดีๆ ของเขา มาเป็นความผิดพลาดของเขา ที่เราอภัยให้ไม่ได้เลย
ยิ้มให้กับสิ่งดีๆ ที่เขา มอบมิตรไมตรีดีๆ ที่มีต่อเรา เท่าที่กำลังเขาจะมีด้วยความเต็มใจเหอะ
มาตรฐานของเรา มันดันเสือกไปสูงกว่าเขา
เขาก็เลยเป็นผู้ร้ายที่ทำลายอะไรด้วยความผิดพลาด ด้วยความคิดของเราๆ
เขา…เป็นของเขาและดีที่สุดของเขาอย่างนั้น
เรา…ควรยอมรับในความคิดเห็นและการแสดงเจตนาของเขา
ว่าเขา เป็นธรรมดาของเขาเช่นนั้น ด้วยการเฉือนอุปาทานในใจเราที่ยึดมั่นในความถูกของเรา ให้แก่เขาบ้างก็ได้
เรา..จะได้มีที่ว่างเปิดโอกาสให้เขา ได้แสดงศักยภาพดีๆ ได้คุณภาพที่ทัดเทียมและเพียงพอ ดั่งที่ใจเราต้องการ
เรา..จะได้ลดความตระหนี่ในใจเรา ที่หวงแหนความถูก ที่เราสะสมจนเป็นมหาเศรษฐี
ตระหนี่ที่เศรษฐีหวงแหนและให้ไม่ได้ก็คือ ความตระหนี่ที่เขาและใครๆ ทำอะไรไม่ถูกดั่งใจเรา
เรา..ร่ำรวยแต่ความถูกใจ
เรา..รับไม่ได้กับความไม่ถูกใจ ในใจที่เรานี้แสนตระหนี่เอง
เลว..ก็พึงกลับตัว
ดี..ก็พึงเจริญให้เติบโต
อีกไม่นาน…
เรา..ต้องจากกันไปอยู่ดี ชั่วนิรันดร์
รักษาใจเราให้มีสายใยผูกพันกันดีๆ
วันนี้เรายังมีซึ่งกันและกัน
วันที่มีซึ่งกันและกัน
มันเป็นแค่สายใยเบาบางยึดโยงกันเท่านั้น
อีกไม่กี่วัน สายใยที่เบาบางก็จะจางคลาย สลายไปตามกาล
เรา..ก็จะจืดจางกันไปไม่หวลคืน
หวัดดียามบ่ายๆ
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2559
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี