คุณยายผู้ตั้งมั่นแห่งศรัทธา

คุณยายผู้ตั้งมั่นแห่งศรัทธา

275
0
แบ่งปัน

**** “คุณยายผู้ตั้งมั่นแห่งศรัทธา” ****

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ

หลายครั้ง ที่ข้าต้องล้มเอนตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า จากการปฏิบัติภาวนา

แต่เมื่อเห็นภาพแม่ส่ง ลุกขึ้นมาหุงข้าวตอนตีสี่ทุกวัน

ทำให้ข้าต้องดีดผึงลุกขึ้นทันที

มันละอายใจ หากพ่ายแพ้ด้วยหัวใจของผู้ขลาดกลัวต่อเหนื่อยล้า

ข้าต้องลุกขึ้นนั่งทำสมาธิ เจริญธรรม

หากง่วงก็เดิน หากเดินแล้วยังขี้เกียจ

ข้าก็ขึ้นภูเขา

นี่..คำข้าวแห่งความห่วงหาศรัทธา มันดันอยู่ด้านหลัง

แม่ส่งมีอะไรดีๆ แม่ส่งจะเก็บไว้ให้พระก่อน

ขอให้เป็นพระเถิด

จะเป็นพระดีพระชั่ว แม่ส่งไม่เลือก

แม่ส่งช่วยเหลือหมด

แม่ส่งขายมะละกอฮาวาย เป็นมะละกอของหลานชาย

แม่ส่งขายโลละ 15 บาท

ที่อื่นขาย 10 บาท

แม่ส่งบอกว่า ตายห่ะ..กูไม่รู้

แต่แม่ส่งขายหมดตลอด ขายดีด้วย

แม่ส่งบอกว่า ก็ฉันขายอย่างนี้มาตั้งนาน

ถ้าลดลงมาเท่าที่เขาขายกัน

เดี๋ยวจะคิดว่าแม่เอาของไม่ดีมาขายน่ะซิ

เวลาคนมาซื้อ แม่ส่งก็จะแจกจะแถมให้แทน

เอาไปเลยลูก โลเดียว 15

แม่ลดให้ 3 โล 50 ล่ะกัน

เอาไปเลย 6 กิโล แม่คิด 100 เดียวพอ

คนก็เลยเฮกันช่วยซื้อ มีที่ไหน 6 โลร้อย

หลายคนพอซื้อแล้ว ลืมบวกลบคูณหาร

จึงซื้อกันครั้งละ 6 กิโล

ข้าเคยถามว่า

แม่ส่ง มะละกอนะ 6 โลร้อยขายได้ไง

แม่ส่งตอบว่า ช่วยๆเขาไปน่ะท่าน

เขามาไกลอยากให้ได้กินของดีๆถูกๆ

เห็นเขาซื้อกันก็ดีใจ ที่เขาจะได้กินของดีๆถูก

ข้าถามว่า แม่ส่งขายโลละ 15 ใช่ไหม

แม่ส่งตอบว่าใช่ โลเดียวน่ะไม่พอกินกันหรอก

แม่เลยลดๆให้เขาไป หกโลร้อย และแถมๆให้เขาไปอีกน่ะท่านเอ๋ย

ข้ามองหน้าแม่ส่ง จะบอกว่า

โลละ 15 สามโล แค่ 45 น่ะแม่ส่ง

แค่คิดไว้ในใจไม่ได้บอกอะไรหรอก

แต่แม่ส่งก็ขายดิบขายดี ด้วยราคา สามโล 50 มาตลอด

สามปีผ่านไป..

ข้าจึงบอกว่า แม่ส่งครับ ลองบวกเลขใหม่ซิ

โลละ 15 สามโลเท่าไหร่

แม่ส่งเอาเครื่องคิดเลขมากดๆ

ตาแกโต ร้องอุทานออกมา

” อ้าวตายห่ะ..นี่กูคิดเขาแพงมาตลอดเลยนี่ ”

แล้วนั่งหัวเราะตัวเอง ตีคนโน่นตีคนนี่ ด้วยความขบขันในการกระทำของตัวเอง ที่คิดว่าลดให้ลูกค้า

” ตายแล้วๆๆๆ แล้วนี่เขาจะรู้กันไม๊เนี่ยย..ย ”

ข้าบอกว่า มีแม่ส่งนี่แหละที่ไม่รู้ แต่คนอื่นเขารู้กันทั้งนั้นแหละ

เขาช่วยซื้อเพราะเพราะความไม่รู้แต่เจตนาดีของแม่ส่งนี่แหละ

แม่ส่งแกนั่งขำ ร้องพูดแต่ ตายห่ะๆๆๆๆ

ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเล่าเรื่องแม่ส่ง ที่แกรอพี่หรั่งไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล

เดี๋ยวเรามาอ่านทวนอีกครั้งถึงหัวอกแม่ ที่ลูกหายไป

***** ” แม่…ที่ใจสลาย ” ****

***…ผืนน้ำเบื้องหน้าแสนกว้าง ตาฝ้าฟาง มองเหม่อออกไปอย่างไร้จุดหมาย

” ไอ้เปี๊ยกมันไปดีแล้วน่ะท่าน ”

เสียงเครือๆเอ่อน้ำตาหันมาบอกข้า เอามือปาดหยาดน้ำตาที่ร่วงพรูเมื่อได้เอ่ยออกมา..!!

” เขาบอกว่า มันตายตอนสี่ทุ่ม คุยกันอยู่ดีๆ มันล้มตัวนอน แล้วตายไปเลย ”

เสียงสะอื้น สูงขึ้นมาแบบแหบๆในลำคอ

” มันเป็นพี่ชายคนโต มันมาตายก่อนแม่มัน มันจะรู้ไม๊…ว่าชั้นจะรู้สึกอย่างไร หัวใจของแม่นี่…จะรู้สึกอย่างไร..ที่ลูกต้องจากไป

จากไปทั้งๆที่ผู้เป็นแม่ ต้องมาดูลูกตายจากไป ท่านเอ้ยยย..!! ชั้นไม่เคยมีความเศร้าโศกเสียใจอย่างนี้มาก่อน..!! ”

พูดไป…เสียงก็สะอึกสะอื้นขาดหายไป มือที่เป็นอัมพาตด้านขวาหงิกเหยียดนิ้วไม่ค่อยออก เอื้อมออกมาอย่างสั่นเทา

ค่อยๆเอาอีกมือที่ยังพอมีเรี่ยวแรง พยุงถุงข้าวถุงแกงยกขึ้นมาใส่บาตร..!!

” ขอให้ถึงลูกชั้นนะท่าน ไอ้เปี๊ยกมันชอบกินแกงคั่วกลิ้งนี้ ชั้นรู้จักลูกดี ชั้นเลี้ยงดูมันมาตั้งแต่เล็กๆ ”

ข้ารับบาตรอย่างและยิ้มให้อย่างมีเมตตา แม่ส่ง เอามือมาประกบกันแนบอก รับพร

แม่ส่งปีนี้ก็เจ็ดสิบแล้ว ความร่วงโรยแห่งสังขารมาเยือนไม่อาจหลีกเลี่ยง

แม่ส่งใส่บาตรดูแลข้ามาหลายปี เป็นหนึ่งในสองบ้าน ที่ข้าได้รับข้าวปลาอาหาร มาเลี้ยงชีพในการปฏิบัติธรรม

” ท่าน…อยู่กับฉันนานๆนะ ขอให้ฉันได้พึ่งใบบุญท่าน ฉันเป็นห่วงท่าน กลัวท่านไม่มีอะไรขบฉัน ขาดอะไรท่านต้องบอกฉันนะ

นี่..ตาเปี๊ยกมันตายไปแล้ว ฉันยังเหลือตาหรั่ง และหมอ ที่เป็นลูกชาย

ท่านก็เหมือนลูกคนหนึ่งที่ฉันรัก ท่านอย่าตายนะท่านอย่าตาย

ถ้าท่านตาย…ฉันคงทนไม่ได้ ยังไงๆ…ขอให้ชั้น..ตายก่อนท่านนะ.!! ”

พึมพัมพอได้ยิน เสียงแหบสูงสะอื้นก็กลั้นน้ำตาไม่ไหวอีก ฟันขบกันแน่น หลับตา หยาดน้ำตา มันร่วงพรูหลั่งไหลออกมา เนืองนองแก้ม..

ห้าปีผ่านไป..!!

” เมื่อคืน…หรั่งมันไม่สบาย ตาแป๊ะกับจิ๋วเอาไปส่งโรงบาลตอนเที่ยงคืน

ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นไงมั่ง ฉันเป็นห่วงมันจัง มันเป็นอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว

ท่าน..ส่งกระแสจิตไปช่วยตาหรั่งมันด้วยนะ นี่..ฉันเองก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย นอนไม่หลับ เป็นห่วงตาหรั่งมัน..!! ”

ข้ารับบาตรอย่างอ่อนโยน บอกว่า

” แม่ส่งพักเถอะ พี่หรั่งพักฟื้นที่โรงพยาบาล หมอเขากำลังให้ยา แม่ส่งยิ่งเป็นทุกข์ พี่หรั่งเขาจะไม่สบายใจ เดี๋ยวพาลทำให้พี่หรั่งแย่ลงไปอีกนะ..”

แม่ส่งพยักหน้า พยายามยิ้ม แต่เอามือปาดน้ำตา

” …. จ้าๆๆ ฉันจะไม่เศร้า ขอให้หรั่งมันสบายใจ หายเจ็บหายป่วยไวๆ

ตอนนี้..เหลือเจ้าหรั่งนี่แหละ ที่คอยทำอาหารให้ฉันได้ดูแลใส่บาตรท่าน

เจ้าหรั่งมันเป็นเบาหวาน ฉันเป็นห่วงมัน

มันอาจรำคาญฉัน ที่ฉันไปจู้จี้กะมัน

ท่านเอ้ยย..ฉันรักมัน ฉันไม่อยากให้มันต้องมาเสียใจอะไรกับฉันหรอก..””

พูดถึงท่อนนี้ น้ำตาแห่งความเป็นแม่ก็ร่วงผล็อยหยาดออกมา พูดด้วยเสียงสะอื้นฝืนๆไม่เต็มคำ

“.. ตั้งแต่เล็กๆ ตาหรั่งมันคิดว่าฉันไม่รักมัน มันบอกว่าฉันลำเอียง รักตาเปี๊ยกกับตาแป๊ะ มากกว่ามัน

มันมักขี้น้อยใจ มันไม่รู่ว่า ฉันน่ะรักลูกทุกๆคน

ตาหรั่งมันเป็นคนรอง แต่หัวใจของมันยิ่งใหญ่ มันดูแลพี่และน้องของมันทุกๆคน

มันไม่กลัวใคร มันปกป้องพี่และน้องมันเสมอ มันยอมให้ฉันตี เพื่อรับผิดแทนพี่แทนน้องมัน ใจมันช่างยิ่งใหญ่

ทุกวันนี้ ตาหรั่งมันคงรำคาญชั้น.. ที่ฉันไปยุ่งกับมัน มันบ่นฉัน แต่ฉันรักมัน ฉันไม่ถือสามัน มันคงเหนื่อย ที่ต้องมาดูแลฉัน ที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตอย่างนี้

แต่มีมันกะยายจิ๋วนี่แหละ ที่ได้ทำอาหาร มาให้ฉันไว้คอยใส่บาตรท่านทุกวัน

ฉันลุกขึ้นหุงข้าวตั้งแต่ตีสี่ทุกวัน ด้วยแขนข้างเดียวเพื่อได้ใส่บาตรพระ

ฉันภูมิใจ ที่ลูกฉัน ช่วยจัดหาข้าวหาแกงมาให้ฉันทำ ได้ใส่บาตรทุกวัน ใส่ให้ลูกอีกคน ที่กำลังบวชอยู่ได้มีอาหารมีข้าวน้ำมาดื่มกิน

ท่านต้องช่วยตาหรั่งนะ ช่วยให้ตาหรั่งหายไวๆ ช่วยให้ตาหรั่งผ่านพ้นจากพิษภัย

ช่วยให้ตาหรั่งห่างไกลจากโรคร้าย ที่เฝ้าเร้ารุม…

ฉันอยากไปเยี่ยมตาหรั่ง อยากไปกอดตาหรั่ง อยากบอกว่า แม่นี่เป็นห่วง

แม่นี่แสนคิดถึง แม่นี่รักและซาบซึ้ง ที่ตาหรั่งเกิดมาเป็นลูกของแม่

ขอให้ตาหรั่งหายดี ขอให้กลับคืนมาหาแม่ ท่านช่วยส่งกำลังไปช่วยตาหรั่งด้วยนะ ช่วยตาหรั่งด้วย คิดถึงลูกฉันเหลือเกิน ช่วยลูกฉันด้วย…!!

ข้าหลับตารับบาตรและเดินจากมา บอกให้แม่ส่งพักให้สบายใจ ตอนนี้ พี่หรั่งคงไม่เป็นไร คงนอนพักรักษาใจที่ป่วยไข้มานาน

ความเป็นแม่นี่..แสนห่วงลูก

ลูกจะรู้บ้างไหม สายใยแห่งแม่ลูก มันถักทอหนาแน่นห่อหุ้มใจแม่

ลูกจะรู้ไหม แม่นั้นเป็นมารแห่งจอมอภัย ให้แก่ลูกเสมอ

ลูกจะรู้ไหม ขอเพียงลูกอยู่ใกล้ แม่นี้ใจแสนฟูฟ่อง

ลูกจะรู้ไหม ยามเจ้าห่างไกล ใจแม่เจ้านี้แสนโหยหาคิดถึง

ลูกจะรู้ไหม ไม่มีใคร มาทดแทนเจ้าได้

ยามเจ้าสูญหายจากอกแม่นี้ไป แม่แสนตรอมใจเศร้าสร้อยเจ้ารู้ไหมๆๆๆ

แม่ส่งหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อนที่ไม่ได้พัก

หวังลึกๆยามหลับพัก ว่าตื่นขึ้นมา..ตาหรั่งของแม่ คงกลับมาหา

ตาหรั่งคงกลับมาทำอาหารให้แม่ได้ใส่บาตรพระ

กลับมาทำอาหารแสนอร่อยเลี้ยงดูผู้คน

กลับมาหัวเราะเมื่อยามถูกใจ

กลับมาคุย มาทำอะไรกับแม่

กลับมาแก้ความคิดถึงที่แสนโหยหาของแม่นี้ ให้จางคลายหายไป

แม่จะรอ…แม่จะรอ…

แม่ส่งหลับตาและหลับลงไปด้วยรอยยิ้มแห่งความวาดหวัง

ตื่นมาอีกครั้ง คงได้รับข่าวดี ข่าวว่าตาหรั่งที่แสนดี หายป่วยไข้และกลับมาทอสายใย ให้ความเป็นแม่ลูกผูกพันกันตลอดกาล

….รอยยิ้มน้อยๆเกิดขึ้นที่ริมฝีปากยามแม่ส่งหลับ นี่คงฝันดี ฝันว่าตาหรั่งลูกรักคงกำลังกลับมา

ในฝันคงสำราญเจริญเกินกว่าจะรับรู้ได้ว่า

ตาหรั่งที่กำลังจะกลับมา ได้สิ้นชีวิตไปตั้งแต่เมื่อคืนเสียแล้ว..!!

แต่วันนี้ ผู้เป็นแม่ ก็มาตายตามลูกชายไป

แม่ห่วงอาทรแค่ไหน ที่ไม่รู้ว่าลูกจากไปแล้ว

กว่าจะทำใจ ว่าลูกไปไม่หวนคืน

แม่ก็รออยู่นาน แม่ทำใจ แม่ทำใจ

ลูกชายคงนอนไกลไปรักษาตัว

พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

วันที่ 17 ธันวาคม 2560