คนดีที่ใจเข้าไม่ถึงธรรม

คนดีที่ใจเข้าไม่ถึงธรรม

329
0
แบ่งปัน

**** “คนดีที่ใจเข้าไม่ถึงธรรม” ****

ผู้มีศาสนานั้น ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรไหนๆ ส่วนใหญ่ดั่งเดิมของใจ จะเป็นผู้มีใจเมตตากรุณา เป็นที่ตั้ง

อิสลาม นิกายซุวหนี่ เป็นนิกายรักสงบ ใจดีชอบทำบุญ เป็นอิสลามที่แม้แต่ต่างศาสนาเขาก็นอบน้อมให้ความเคารพ

คริสต์ ส่วนใหญก็นอบน้อมอ่อนโยน ต่อเพื่อร่วมโลกด้วยกัน ให้ความรักและความเมตตาต่อกัน

พุทธ ชอบทำบุญสุนทาน นอบน้อมต่อผู้ประพฤติปฏิบัติ ไม่กล้าทำชั่วมีศีลเป็นที่ตั้ง

ผู้มีศาสนาประจำใจ ส่วนใหญ่ ไม่มีพิษภัยอะไรกับใคร เป็นผู้ที่น่ารัก น่าอยู่ใกล้ ใจดี และโอบอ้อมอารีย์ส่งผ่านกายและใจ

แต่ธรรมนั้น มันใช้กำลังปัญญาสูงกว่าความใจดี สูงกว่าความนอบน้อม สูงกว่าความมีเมตตา กรุณาขึ้นไปอีก

นั้นก็คือความเข้าใจธรรมชาติของใจเราเอง

ศาสนาพุทธนั้น ชี้มาให้เห็นธรรมชาติของใจเราเอง มันลึกซึ้งและเป็นเพียงศาสนาเดียวเท่านั้นในโลก

คนเรามีเมตตา กรุณา เพราะเนื่องด้วยถูกใจ

แต่เมื่อไหร่ที่ไม่ถูกใจ เจ้าของกลายเป็นอสูรกายไร้ความเมตตาและกรุณาที่ตนเคยมี

นี่..เข้าไม่ถึงธรรม

หลายคนทำบุญทำทาน เท่าไหร่เท่ากัน แต่พอไม่ถูกใจ ด่าทอ ใส่ร้าย ทำลาย อาฆาต ในสิ่งที่ตนเคยทำ

นี่..เข้าไม่ถึงธรรม

หลายคนใจดี ใจบุญ น่ารักน่าใคร่ ไม่เอาเปรียบใคร แต่พอไม่ได้ดั่งใจ โดนขัดใจ ดุร้าย ไม่ฟังใคร ไร้เหตุไร้ผล เอาแต่ใจ

นี่..เข้าไม่ถึงธรรม

หลายคนเก่งการสาธยายธรรม ผูกคำแห่งธรรม ดูเข้าใจโลก เข้าใจตนเอง เป็นผู้แตกฉานในธรรม

แต่พอไม่ได้ดั่งใจ มีคนขัดใจ โกรธคนไม่เห็นด้วย หลบหน้าหนีหาย โทษผู้อื่น ที่เข้าไม่ได้กับธรรมตน ปากไม่โกรธ แต่การกระทำมันบ่งบอก

นี่…เข้าไม่ถึงธรรม

หลายคนน่ารักมากๆ เมื่อยามใจดี ยามถูกใจ ยามได้ดั่งใจ เป็นที่รักกันเองกับทุกๆคน

แต่เมื่อไหร่ที่ผิดใจ ก็เกิดอาการผูกใจเจ็บ เอาแต่ความคิดตนเอง ตัวเองถูกเสมอ ไม่สนความเป็นเพื่อน ไม่สนความเป็นครูบาอาจารย์

ตนก็หวลกลับไปทำลายสิ่งดีๆนั้น ด้วยตัวเอง ด้วยความไม่รู้ตัว ชักชวนให้ผู้อื่นเห็นด้วย โกรธคนขัดใจ อึดอัดที่ขาดคนเข้าใจ

สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น เป็นใจของผู้เข้าไม่ถึงธรรมทั้งสิ้น

เป็นผู้มีคติที่ไม่แน่นอน แม้ทำบุญมาก สร้างกุศลมาก แต่ขาดการอบรมจิตที่หวลกลับมาดูใจตนเอง

มนุษย์เรา ไม่ค่อยมองเห็นใจตนเองที่เป็นแล้วแสดงตนออกมา

เรามองเห็นผู้อื่นได้ แต่มองเห็นใจตนเองไม่ได้ นี่เพราะขาดการอบรมใจให้เข้าถึงธรรม

เพื่อนเอย..เราเกิดมาไม่นานก็ต้องจาก จะดีจะชั่ว ก็ต้องจาก จะใจบุญใจบาปก็ต้องจาก

จะรูปสวยรวยทรัพย์ยากจนเข็ญใจอัปลักษณ์ ก็ต้องจาก รีบหันมาดูแลใจตน

อย่าให้มันวิ่งออกไปขบกัดใครอย่างไร้เหตุผล

อย่าเอาอารมณ์และเหตุผลแห่งตน มาทำลายความรัก ความหวังดี ความเชื่อถือ นอบน้อม ต่อใจใครๆ

มันเป็นบาปพี่น้องเอ๋ย ใจมันจะมีที่ไปสู่ภูมิที่ต่ำ แม้จะทำบุญมามากมายแค่ไหนก็ตาม

พึงหัดอบรมใจเรา หันมามองใจเรา ว่ามันเป็นใจโหดร้ายไหม เพ่งโทษผู้อื่นอย่างไร้เหตุผลไหม

เอาเปรียบผู้อื่นไหม เข้าใจใครๆเขาบ้างไหม หรือชีวิตนี้เราจะเอาแต่ใจตนเป็นที่ตั้ง

บางคนเอาความแก่แห่งตนมาข่มคนอื่น

บางคนเอาความเป็นผู้รู้ธรรม มาหลอกล่อ หาความยิ่งใหญ่ให้แก่ตน

บางคนเอาสมณะแห่งการบวช มาหลอกลวง

บางคนเอาการถากหัวห่มสีขมิ้น หมกตัวนานๆผ่านความดกแห่งราตรี หลอกลวงผู้คน

และหลายๆคน อยู่ด้วยการหลอกแดกหากินกับผู้อื่นด้วยการทำตัวสร้างรูปตน ให้มันดูดีๆในสายตาชาวโลก

นี่..กายแตกเมื่อไหร่ ต่างไหลไปสู่เบื้องต่ำทั้งสิ้น

เรามีเวลาหายใจอยู่บนโลกใบนี้ไม่นาน อย่าเลย..อย่าเอาใจไหลไปอยู่ในฟากชั่ว

หมั่นดูแลใจตน อบรมให้มันดีๆ นึกถึงใจเขาใจเราให้มันมากๆ

ยังไงเราก็ต้องมีวันลาจาก

ยามอารมณ์ดีๆ ลองหวลกลับไปดูอดีตที่เราผ่านมาบ้าง

บางที่..เราอาจเห็นใจเรานี้ มันช่างดุร้าย ไปทำลายใจใครเขาที่เขาก็เคยดีและรักเรา เพราะอารมณ์ของเราแท้ๆนี่เอง

ขอให้เข้าถึงธรรม เริ่มต้นด้วยการดูใจเขาใจเรา

ใจเราไม่ชอบอย่างไร ใจเขาก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน

อารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผล มันทำลายความจริงและมิตรภาพของผู้คนรอบกาย ให้จางหายด้วยใจอันดุร้ายของเรานี่เอง

หมั่นหันกลับมาดูใจเรา เรา..จะเห็นตามความเป็นจริงว่าเรา เป็นผู้สร้างและผู้ทำลาย ไม่ใช่ใคร.

พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 10 กันยายน 2560