ฆราวาสบรรลุธรรม

ฆราวาสบรรลุธรรม

384
0
แบ่งปัน

***** “ฆราวาสบรรลุธรรม” ******

>>> ศิษย์ถาม <<<

หลวงตาคะ การที่คนจำนวนมาก หลักร้อยคน รวมตัวกันสวดโพชฌงค์ นี่สามารถต่ออายุให้กันได้ด้วยหรือคะ

>>> พระอาจารย์ตอบ <<<

มันเป็นความเชื่อน่ะ ไม่ใช่ความจริง

แต่ความเชื่อก็ทำให้เกิดกำลังใจขึ้นมาได้

มีที่ไหน สวดโพชฌงค์แล้วต่ออายุ นี่มันโกหกหลอกลวงกัน

เรามันก็เชื่อกันเนอะ มนต์น่ะมันเป็นสมมุติ ไม่ใช่ยาอายุวัฒนะ

พระและฆราวาสเขาสวดกันทั้งประเทศ ยังยื้อชีวิตในหลวงเราไม่ได้

อาจารย์คนนี้ แกก็ว่าของแกไปเรื่อยแหละ

มันเป็นอัตตาธรรมอยู่

แต่ผู้คนฟังแล้วก็อาจถูกจริต

ในรูปลักษณ์ ในคำพูด ที่น่าจะอย่างนั้นอย่างนี่

ฆราวาสน่ะบรรลุธรรมขั้นสูงไม่ได้หรอก มันขาดเหตุปัจจัย

แต่เข้าถึงขั้นใดขั้นหนึ่งน่ะได้อยู่

แค่คำพูดประโยคที่บอกมา

นี่ก็เป็นอัตตาเจ้าของวิบากสัญญา

พวกนักปฏิบัติที่เป็นผู้หญิงเป็นกันเยอะ เข้าใจกันเอาเอง

ทึกทักว่าตนเองเป็นเทพเจ้าของอาการทุกอย่าง

ป้าแกมโนไปเองเรื่อยแหละ

แต่คนก็ชอบกันนะ

ธรรมะโลกสวย

เอาตัวเองเข้าไปเป็น

และก็เป็นกันทั้งหญิงและชาย

นี่เรียกว่า เอาธรรมมาเป็นตัวตน

เช่นได้สภาวธรรม โลกธาตุเลือนลั่นแบบไอ้โยมัน

มหางี้ ไอ้โยงี้ อละหลายคน สภาวะหนึ่งเหมือนตื่นขึ้นมารู้เห็นอะไรบางอย่างที่ไม่เคยเจอ

เกิดความว่าง เห็นความจริงชัด

หรือปฏิบัติไม่นอนไม่กินอย่างมหาเรา

แล้วเกิดภาวะจิตรู้แจ้งบรรลุขึ้นมา

ประกาศใครๆยกเว้นข้าว่าถึงที่สุดแล้ว

หรือใครๆอีกหลายคน

ที่มาเล่าสภาวธรรมของตัวเองว่าเข้าถึง

ข้าแค่ไม่อยากขัดใจเท่านั้น

สิ่งที่เป็นๆเกิดๆกัน มันอัตตาทั้งนั้นแหละ

ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ

ดีไม่ดีถ้าข้าบอกกล่าวออกไป

มันก็จะเกลียดหาว่าข้านี่งี่เง่าและไม่รู้เรื่องอีก

ธรรมนั้นมันมีเรื่องภพเป็นปัจจัยอยู่

ฆราวาสนี่อย่าได้หวังเลยที่จะไปเข้าใจธรรม

มันไม่มีหรอก อยู่บ้านนั่งห้องแอร์สบายๆแล้วเข้าถึงธรรม

มันเข้าได้ก็เรื่องศีลธรรมหรือจริยธรรมเล็กๆน้อยๆที่เอาตนเองเข้าไปเป็นก็แค่นั้น

เรื่อง กาย เวทนา จิต ธรรมนี่ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและประณีต

ที่สำคัญมันอยู่ในทุกข์ ไม่ใช่ปฏิบัติแบบสุขๆแล้วบรรลุนั่นนี่

ไม่งั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว ทำไมไม่ออกไปอยู่อย่างฆราวาสเล่า

หรือพระผู้ทรงคุณที่ท่านเข้าใจเข้าถึง ทำไมไม่ออกไปอยู่อย่างชาวบ้านทั่วๆไปเล่า

เพราะการอยู่อย่างโลกๆ ไม่มีเครื่องป้องกันจิต

ภพมันก็จะเกิด

ฉะนั้น

ใครจะมาอ้างจะมาเขียนจะมาพูดอะไรก็ได้

มันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องอัตตาตนแต่งเอาทั้งนั้นแหละ

เอาตำราทางธรรมเข้าไปเป็นองค์ประกอบอย่างนักเขียนนักเล่า

พุทธะนั้น ไม่ใช่เกิดจากการตรึกอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วอนุมานว่าใช่

โลกสวยนี่ไม่ได้ทำให้เกิดปัญญา

ไอ้คนน่ะ ธรรมชาติพอรู้ต้วว่าเก่ง คนชม พรรคพวกมาก มันก็ไม่ฟังกันอยู่แล้ว

ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนดื้อรั้นไม่ฟังใครหรอก

แต่เท่าที่ผ่านๆมา มันยังเป็นธรรมะเด็กน้อยกันทั้งนั้น

ข้านี่รอกราบพระผู้ทรงคุณที่เกิดปัญญาจริง

คุยแล้วมาเติมเต็มในส่วนที่ข้ายังไปไม่ถึงได้

พวกเข้ามาทางธรรมและแสวงหาธรรมเพื่อความหลุดพ้นจริงๆนั้น

ต่างแสวงหาครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณมาชี้แนะกันทั้งนั้น

แม้ผู้นั้นจะบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม

มันยังมีอรหันต์ที่มากบารมีเหนือๆขึ้นไปอีกมากมาย

นี่..เป็นเรื่องที่พวกเรายังเข้าไม่ถึงกัน

ฉะนั้นการเชื่อใครก็ตามให้ไปดูผลที่เขาแสดง

ผลแห่งคุณธรรมมันเป็นตัวชี้เหตุที่เป็นเขา

เหตุนั่นประกอบด้วยปัญญา สัจจะและความเข้าใจ

คนไร้สัจจะและความเข้าใจ

อย่าเลย อย่าได้ไปโม้ว่าตนนั้นเข้าถึงธรรม

เราพึงเอาหลักเกณฑ์นี้เป็นร่องทางในการมอง

แต่อย่างว่า

ขึ้นชื่อว่าคน

ถ้าไม่ถูกใจตน คนอื่นมันก็เลว

เราชาวพุทธ

จึงควรตื่นขึ้นมามองเห็นความจริงตามสัจธรรม

อย่าเอาตนเองเข้าไปตัดสิน

แต่เราก็ต้องโดนคนอื่นเขาตัดสิน

เราเองก็พึงเข้าใจความจริงของข้อนี้ด้วย

ข้าเองปรารถนาจะให้ทุกคนรู้เห็นตรงตามความเป็นจริงด้วยตัวของเราเอง

แต่..ก็ช่วยอะไรใครไม่ได้จริงๆ

ที่ช่วยไม่ได้ เพราะเราเองทุกคนเป็นผู้เลือกเอง

หวัดดียามเที่ยง

พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 19 สิงหาคม 2560
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี