อย่าตายอย่างเป็นผู้แพ้ความโง่

อย่าตายอย่างเป็นผู้แพ้ความโง่

370
0
แบ่งปัน

**** “อย่าตายอย่างเป็นผู้แพ้ความโง่” ****

การยึดในตัวบุคคล
ไม่แน่นอน อาจทำให้เราสิ้นหวังได้

เราพึงยึดในพระธรรม
อันเป็นสัจธรรมที่เรายืนยันได้ด้วยปัญญาเรา เท่าที่มี

หวัดดียามค่ำ..กับทุกๆคน

คนเรานั้น มักจะยึดตัวบุคคลเป็นเหตุ
ตัวบุคคลนั้น แท้จริงมันยังไม่มีความแน่นอนอะไร

บางครั้ง เขาถูกใจเรา
บางครั้ง เขาไม่ถูกใจเรา

นี่ก็เพราะเกิดจากตัวเรา
ไม่ใช่ตัวเขา

เป็นเพราะเรายึดในตัวเขา
ความถูกใจและไม่ถูกใจก็เลยเกิด

เมื่อเกิดแล้ว เราก็ผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง

ถูกใจ ก็ชอบไปซะหมด
ไม่ถูกใจ ก็ไม่ชอบไปซะหมด
ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง
ชอบใจบ้างไม่ชอบใจบ้าง

นี่เป็นธรรมดาของใจผู้ที่ยังเป็นปุถุชน

ปุถุชนก็คือ ผู้ที่ยังมีกิเลสหนา
ยังอาศัยความถูกใจและไม่ถูกใจเป็นเครื่องอยู่อาศัย

ยามถูกใจ อะไรก็แสนปลื้ม
ยามไม่ถูกใจ อะไรกูก็ไม่ปลื้ม

ยังเป็นปุถุชนผู้ยังไร้ปัญญา
ยังไม่เรียกว่าชาวพุทธ

เป็นแค่คนอยากเป็นชาวพุทธ
เป็นแค่ชาวพุทธในทะเบียนบ้านก็แค่นั้น

ถูกใจนี่ ท่านเรียกว่า กามสุขัลลิกานุโยค
ไม่ถูกใจนี่ ท่านเรียกว่า อัตถกิลมถานุโยค

ธรรมเช่นนี้ เป็นธรรมของชาวบ้าน
เป็นธรรมดาของชาวบ้าน
ที่ภิกษุทั้งหลาย ไม่ควรจะเข้าไปเสพส้อง
นี่..น้องๆทั้งหลายพึงรู้

เราอันเป็นชาวบ้านที่ไม่บวช
เราเองก็พึงตรึกด้วยสติและสัมปชัญญะให้ดีๆ เสียก่อน

การแสดงออกอย่างปุถุชนคนทั้งหลาย
มันมีทุกข์คติเป็นที่ไป

แม้เราจะทำบุญมาก ถวายทานมาก
มันก็ไปเกิดในภูมิเดรัจฉานได้
มันยังมีคติที่ไม่แน่นอน

ผู้ที่ไม่เสพส้องในกามทั้งสองฟากนี้
คือผู้ที่มีสติและปัญญา
คิดใคร่ครวญก่อนที่จะสื่อแสดงออกมา

เมื่อสื่อออกมา ภพแห่งวาจาและใจมันก็เกิด
เมื่อกระทำมันขึ้นมา ภพแห่งวิบากจิต
ที่จะต้องเสวยต่อเนื่องมันก็จะเวียนต่อไปในวัฏฏะ

ทานเป็นสิ่งสำคัญ
ทานที่ยิ่งใหญ่ต่อใจดวงนี้

คืออภัยทานที่มีต่อตนเองและผู้อื่นด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทานแห่งความถูกใจหรือไม่ถูกใจ

ทานที่ยิ่งใหญ่ที่จะปิดอบายภูมิ
คือทานที่ให้ความไม่ถูกใจของเรา
ต่อเขาที่กระทำความไม่ถูกใจให้เรา

แต่ต้องยืนบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง

ทานเช่นนี้ เป็นทานที่กระทำได้แสนยากยิ่ง
นั่นก็คือ เราต้องชนะสงครามกับใจตนเอง

ผู้ชนะสงครามกับใจตนเอง
ยอมให้แม้แต่สิ่งที่ไม่ถูกใจเราต่อน้องๆ เพื่อนๆ
และคนทั้งหลายได้

เขาผู้นั้น คืออริยชน อันได้ชื่อว่ามีใจเป็นพระ
พระเช่นนี้ แม้ไม่บวช
ก็เรียกได้ว่าเป็นพระโสดาบัน

สำหรับปุถุชน แม้จะใจดีแค่ไหน
ทำทานเท่าไหร่ มากมายแค่ไหน
แต่ยังขาดการให้อภัย
ด้วยภูมิปัญญาที่มีเกิดในสันดาน
ชนผู้นั้น ยังมีคติที่ไม่แน่นอน

คนที่มีคติทีไม่แน่นอน
ก็คือคนที่ยังขาดศีลธรรมประจำใจอยู่นั่นเอง

ก็ขอให้พวกเรา พึงสร้างกำลังใจ
ย้อมใจของเรานี้ ให้ตั้งมั่นและมั่งคงต่อความดี

เรายังมองตากันได้อีกไม่กี่ปี
ไม่นาน
ไม่นาน..
เราก็ถึงกาลต้องจรลีจาก พรากกันไป

เหลือเวลาแค่เล็กน้อย
ในแสงสว่างแห่งเทียนชีวิตที่ทอประกายทาง

พึงเอาความสว่างแห่งแสงเทียนอันเหลืออยู่น้อยนิดนั้น

ส่องหาหนทางที่ยังมืดมิด
ให้สว่างพอมองเห็นทางเดิน
ขอให้เดินให้ถูกทาง

ตามแสงสว่างแห่งแสงเปลวเทียน
ข้าจะไปรอที่แสงสุดท้าย
ปลายอุโมงค์ด้วยโอบกอด ที่ตราตรึงใจ
หวัดดียามค่ำ

พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 13 สิงหาคม 2560