ช้างตาย…เอาใบบัวปิดตรงไหนให้มันมิด

ช้างตาย…เอาใบบัวปิดตรงไหนให้มันมิด

661
0
แบ่งปัน

วันนี้เช้ามาไม่มีแบตเตอรี่ พวกเราก็เลยอดฟังธรรมกัน ฮ่าๆๆ ตอนนี้พอมีเล็กน้อย จึงนำธรรมที่น้องเขารวบรวมมาชดเชยให้ เป็นเรื่องถามตอบ สงสัยเครื่องจะใกล้เจ๊งแล้วมั้ง

>> ลูกศิษย์ 1 : ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวไปปิด…มันจะมิดได้ยังไง เราควรดูอยู่เฉยๆ ไม่ไปยุ่ง กับซากช้างที่ตายและ ไม่เข้าไปเสือก หากใครจะเอาใบบัวไปปิด ซากช้าง เพราะมันเป็นเรื่อง ของซากช้างกับใบบัว มันไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะเข้าไป….เสือก สาาาาธุ

>> ลูกศิษย์ 2 : ช้างตายทั้งตัวใครว่าเอาใบบัวปิดไม่มิด พี่ว่ามิด

>> ลูกศิษย์ 1 : มันยังไม่ถึงกับเน่า มันถึงปิดมิดได้ แต่เกิดเน่า ขึ้นมาส่งกลิ่นเหม็น นี่…ตัวใครตัวมันนะครับ ผมคงไปก่อน..หึหึหึ

<< พระอาจารย์ : ตลกๆๆๆ เอาใบบัวมาปิดที่ตา เราก็มองไม่เห็น แต่แกปิดกลิ่น ปิดเสียง ปิดความรู้สึกได้เร๊อะ ดอกสร้อย มันต้องเอาใบบัวมาปิดที่ ใจนี่ ว่าอย่าเอาใจ ส่งความรู้สึกผ่านช่องไหน เข้าไปเสือก…

>> ลูกศิษย์ 3 : ปิดที่ใจ อย่าว่าแต่ตัวเดียว..ตายสิบตัวก็ปิด มิดเลย……

<< พระอาจารย์ : เออๆๆๆๆ ปิดที่ใจนั้นเข้าท่าๆๆๆ ปัญหาคือ…ใจเรานั้น มันอยู่ตรงไหน นี่..จะได้เอาไปปิดถูก เรามักพูดว่า อะไรๆๆๆๆ ก็เกิดที่ใจ ดับก็ให้ดับที่ใจ เหมือนกองไฟ มันต้องมองเห็นกองไฟซิ เราจึงจะไปดับไฟได้

บอกให้ไปดับไฟ แล้วไฟ..มันอยู่ที่ตรงไหน ใจก็เหมือนกัน ให้เอาใบบัวมาปิดที่ใจ คุคุคุ แล้วใจ..มันอยู่ตรงไหน..!!!!

ที่อยู่ของใจน่ะ ก็กายนี้แหละ จะไปบอกว่า มันอยูตรงไหน ไม่ได้เลย เพราะใจ มันอาศัย เหตุปัจจัย ในการแสดง

ใจก็เหมือน บ้าน…

แต่จะบอกว่า เสาเป็นบ้าน ผนังเป็นบ้าน เพดานเป็นบ้าน หลังคาเป็นบ้าน พื้นเป็นบ้าน มันก็ไม่ถูก

แต่ทั้งหมดที่กล่าวๆ มานั่นแหละ มารวมกัน ประกอบกัน จึงเรียกว่าบ้าน

ใจก็เหมือนกัน อะไรทั้งหลายที่แสดงออกไป จะรับรู้หรือไม่รับรู้ ก็เป็นอาการของใจ ไม่ใช่ใจ

แต่ธรรมทั้งหลาย เราถือว่า ต่างออกมาจากใจ

ใจนี้ อาศัยเกิดจากเหตุปัจจัย หลายๆ ปัจจัย

สิ่งที่เป็นสมมุติแสดงออกแห่งใจ ก็คือ รูปนาม

รูปนามนี้ก็คือ ขันธ์ห้า

ขันธ์ห้า ไม่ใช่ใจ แต่ขันธ์ห้า เป็นอาการหนึ่งของใจ

ที่อวิชชาสร้างไว้ใช้ แสดงออก เพื่อการปรุง

เสียเวลา….เราอย่าไปหา อะไรคือใจ เพราะใจ มันเป็นอาการหนึ่งของจิต ที่อาศัยอวิชชา เป็นผู้ให้กำเนิด เรียกว่า จิตสังขาร

จิตสังขาร แสดงออกมา ปรุงทะลักอกมา กลายเป็นวิญญาณ

วิญญาณอาศัยการปรุงจาก จิตสังขาร ที่มาจากอวิชชา สร้างปรุงแต่งนามรูปขึ้นมา

นามรูปที่ปรุงแต่งแล้ว มีช่องทางรับรู้ เพื่อการผัสสะ

อะไรที่โดนผัสสะ จากช่องทาง ที่มาจากนามรูป เป็นอาการหนึ่ง ของใจ ที่เขาสมมุติใช้เรียกว่า เวทนา

กลายเป็นใจที่ออกลูกหลานมาเป็นตัณหา ที่เขากล่าวๆ มาในอริยสัจว่า

เหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายคือ สมุทัย สมุทัยนี้ เหตุของมันก็คือ ตัณหาที่ผุดขึ้นมาจากใจไม่รู้จบ นี่ละ…เป็นเหตุ

เหตุนี้ก็คือ ตัณหา ตัณหาก็คือ อาการหนึ่งของการแสดงออกของ เวทนา

เวทนา ก็คือ อาการหนึ่ง ที่แสดงออกของผัสสะ

ผัสสะ ก็คือ อาการหนึ่ง ที่แสดงออกของช่องต่อ ที่เรียกว่า อายตนะ

อายตนะ ก็คือ อาการหนึ่ง ที่เป็นช่องต่อ ของนามรูป

นามรูป ก็คือ อาการหนึ่ง ที่ใช้แสดงออก ของวิญญาณ

วิญญาณ ก็คือ อาการหนึ่ง ที่แสดงออกมาจากจิตสังขาร

จิตสังขาร ก็คือ อาการหนึ่ง ที่ปรุงแต่งมาจาก อวิชชา

อวิชชา ก็คือ อาการหนึ่ง ของธรรมธาตุที่ผัสสะ กับธาตุ ดินน้ำลมไฟ

การผัสสะกันระหว่างธาตุ ทำให้เกิด อวิชชา

อวิชชา เป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดจิตสังขาร

จิตสังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด วิญญาณ

วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิด นามรูป

อาการที่แสดงออกมาทางนามรูปทั้งหลาย ที่ได้อาศัย อายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ความเศร้าโศก ความสมหวัง ไม่สมหวัง สุขทุกข์ทั้งหลาย

ทั้งหมดนี้ เป็นอาการแสดงออกของใจ

รู้อย่างงี้ เราจะเอาใบบัวปิดที่ใจ เพื่อไม่ให้ รับรู้ช้างตาย

ก็คือ ทำใจยอมรับ ว่า มันเป็นของมัน เช่นนั้นเอง

กูอย่าพยายามไปเสือกอะไรใดๆ ให้มันทุกข์ ใจ เพื่อให้ได้ดั่งใจ เพื่อให้ได้ความแน่นอน

เพราะโลก มันเป็นของมันเช่นนั้น มันอาศัยเหตุปัจจัยกันเกิด

กู อย่าเสือกเข้าไป เสือกกกกกก กับอะไรมากมาย ที่คิดว่าสิ่ง ทั้งหลายนี้ กูเป็น..!!

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ความขัดข้องใจ….เขาทำ หรือกูเป็นเอง

ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง