***** “กระดูกเป็นพระธาตุรึเปล่า” *****
หวัดดี
มีคำถามมาหาข้า
ข้าจะก๊อปส่งมาให้อ่าน
เกี่ยวกะเรื่องพระธาตุ
ของหลวงปู่ท่านนึง
ซึ่งข้าคิดว่า
นี่เป็นการอ้างชื่อหลวงปู่ท่านนี้เพื่ออะไรซักอย่าง
ถ้าเป็นเรื่องของทางวัดส่งออกมา
ก็แสดงว่า
วัดนี้อาศัยศรัทธาของความงมงาย เพื่อประโยชน์ของวัด
และเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่หลวงปู่ท่านนั้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เพราะพระธาตุที่เป็นกระดูกนั้น
มันมีลักษณะผิดธรรมชาติ
คือเหมือนกับเอาเซลิก้าเจล ยัดใส่ลงไปภายในของกระดูก
พอดีรูปที่เขาส่งมามันอัฟไม่ขึ้น
มีน้องเขาถามมาอย่างนี้
” ขออนุญาติพระอาจารย์ค่ะ
หนูขอถามเรื่องพระอัฐิธาตุที่ส่งมาให้ดูนี่
พระอาจารย์คิดว่ายังไง
หนูดูว่ามหัศจรรย์มากๆเลย
” รูปที่ส่งมานี่น่ะเหรอ ”
” ใช่ค่ะ หรือว่าพระอาจารย์ว่ายังไง ”
” ข้าว่ามันผิดปกติ ผิดธรรมชาติอยู่นะ ”
” ผิดยังไงเจ้าคะพระอาจารย์ ”
” กระดูกนี่มันเป็นกระดูกทั่วๆไป แต่ไอ้เม็ดๆนี่ มันไม่น่าใช่ ”
” แกได้มาจากไหนรึ ”
” เพื่อนเขาส่งมาให้ค่ะว่าเป็นของหลวงปู่ท่านหนึ่งทางอีสาน แม่ชีท่านส่งมาให้อีกที ”
” แกอย่าไปสนใจเลย ข้าว่านี่มันหลอกลวงกันน่ะ
เม็ดๆนี่มันน่าจะเป็นพวกเซลิก้าเจล หรือสารกันชื้นเม็ดเล็ก
คงมีคนเอามาโปรยและอัดใส่ลงไปในกระดูกน่ะ
คือจากรูปนี่มันผิดธรรมชาติ
ข้าเองก็เคยเจอกระดูกที่เป็นพระธาตุอะไรนี่
เฉพาะกระดูกน่ะ บางส่วนจะตกผลึกเป็นธาตุขุ่นๆหรือเกิดความแวววาว
ในภาพนี่ มันกระดูกธรรมดาๆนี่แหละ
ส่วนไอ้เม็ดๆนั่น น่าจะเอามาใส่ทีหลัง ”
” อ้าวว..นี่เขาหลอกเราหรือค่ะ ”
” ข้าคิดว่าไม่ได้หลอกอะไรหรอก
คงทำไปเพื่อให้ผู้คนเกิดความศรัทธาซะมากกว่า
แต่การทำเช่นนี้
มันจะเป็นการทำลายชื่อเสียงหลวงปู่ท่านนั้นอย่างไม่รู้ตัว
ซึ่งถ้าออกมาจากวัดที่เอาภาพนี้ออกมาหาชื่อเสียง
วัดก็จะเสื่อมเสีย หากมีคนตรวจเช็คว่าธาตุเหล่านี้เป็นสารกันชื้นธรรมดา
แต่ข้าว่า แกอย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรในโลกโซเชียลอะไรนี่มากนัก
มันอาจเอามาแปะๆตัดๆแล้วกล่าวอ้างว่าเป็นหลวงปู่นั่น นู่ นี่ โน่นได้
เรื่องพระธาตุนี่ คนมันงมงายกันมาก
กระดูกใครจะเป็นพระธาตุหรือไม่เป็นพระธาตุ มันก็ไม่ได้ช่วยให้ใครพ้นทุกข์ได้หรอก
งมงายกันเสียเปล่าๆในเรื่องเหล่านี้
ให้ไปดูที่ธรรม ที่ท่านแสดงออกมาโน่น ไม่ใช่ให้ไปดูที่กระดูกว่าใครเป็นพระธาตุหรือไม่เป็นพระธาตุ
เพราะความงมงายที่ไร้ขีดจำกัดของปัญญานี่แหละ
ทำให้เราโดนหลอกเรื่อย
พระบางพวกก็เอาเรื่องพระธาตุนี่แหละเป็นเหยื่อล่อหาลาภสักการะสรรเสริญ
มีแม่ชีทางขอนแก่นท่านหนึ่ง ก็ใช้วิธีพระธาตุเสด็จนี่แหละหลอกลวงผู้คน จนสร้างวัดขึ้นมาใหญ่โต
คนมันเชื่อและงมงายเรื่องเหล่านี้
แต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อและเอาธรรมที่ตรงตามความเป็นจริง
เราจึงต้องโดนพ่อค้าคนกลาง ที่อ้างตัวตนว่าเป็นผู้รู้นั่นรู้นี่ หลอกลวงค้าขายสินค้าแห่งความเชื่อกัน
ขอให้แกโชคดี
อย่าไปงมงายหรือค้าขายกับความเชื่อที่จับต้องไม่ได้ มากมายเกินเหตุจนงมงายก็แล้วกัน
ขอให้เราอยู่กับความจริง
วัตถุสิ่งของใดๆก็ตาม มันก็คือวัตถุนั่นแหละ
มันไม่ได้ช่วยให้ใครพ้นทุกข์ได้
หากเป็นพระธาตุจริง ตามที่เขากล่าวอ้าง
นั่นเราก็แค่นอบน้อมในคุณที่ท่านได้บำเพ็ญเพียรมา
ดูเนื้อหาในธรรมที่ท่านแสดงซิ
ธรรมที่แสดงจะเป็นตัวบ่งชี้ความดีแห่งการทรงคุณ
เดี๋ยวนี้ต่างประเทศก็สามมารถเผากระดูกให้ตกผลึกออกมาเป็นคาร์บอนใสเป็นสีๆได้
กรรมวิธีก็มี
ฉนั้น..เราจึงไม่ควรยึดวัตถุเป็นความดี เพื่อให้เราพ้นทุกข์
แต่ควรยึดปัญญาที่แสดงออกมา นำออกไปสู่ความพ้นทุกข์
ธรรมนั้นเราพิสูจน์ได้ ยืนยันได้ ลูบคลำได้
พระธาตุนั้น ยืนยันอะไรไม่ได้ ไร้ธรรม แถมทำเก๊ขึ้นมาหลอกลวงกันอีก
เอาธรรมดีกว่าเอาพระธาตุน่ะอีหนู ”
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 21 พฤษภาคม 2560
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี