นึกว่าคนอื่นโง่เพราะเสือกดันไม่เชื่อกู

นึกว่าคนอื่นโง่เพราะเสือกดันไม่เชื่อกู

364
0
แบ่งปัน

**** “นึกว่าคนอื่นโง่เพราะเสือกดันไม่เชื่อกู” ****

มีคนถามมา..

เรียนพระอาจารย์ ธรรมกะ. ท่านเคยบอกว่า.คำสอนในพระไตรปิฎกมันคับแคบ.เป็นการแปลมาอีกทีแบบพจนานุกรม

ต้องตีความหมายให้ลึกโดยมีอิสระทางความคิดแล้วจะเกิดปัญญา.ประมาณนี้ใช่มั้ยครับ

ถ้าอย่างไรรบกวนแสดงอรรถกถาอธิบายต่อพระสูตรด้านล่างนี้.แก่ผู้โง่เขลาเบาปัญญาได้ไหมครับ…สาธุ…

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุ ผู้เป็นเถระ

อยู่ในอาวาสโน้น เป็นพหูสูต มีอาคมอันมาถึงแล้ว เป็นผู้ทรงธรรม ทรง วินัย ทรงมาติกา

ข้าพเจ้าได้ฟังมา ได้รับมาเฉพาะหน้าพระเถระนั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา

ดังนี้ พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นแล้ว พึง

เรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วสอบ สวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย

ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียง ในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ ลงในพระวินัยไม่ได้

พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า นี้มิใช่คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคแน่นอน และพระเถระนั้นจำมาผิดแล้ว

ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียงในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า

นี้เป็นคำของ พระผู้มีพระภาคแน่นอน และพระเถระนั้นจำมาถูกต้องแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหาประเทศข้อที่สี่นี้ไว้ ฯ

*** ตอบแล้วจะฟังรึเปล่า..

น้องๆที่นี่อ่านหนังสือพุทธวจนกันเยอะแยะ ไม่เห็นว่าจะไปมีปัญหากับผู้ใด

ทุกคนเข้าใจว่าตำรามันเป็นฉลากยาที่อ่านเพื่อให้รู้วิธีใช้

แต่มันไม่ใช่ตัวยาที่จะมารักษาอาการป่วยอะไรนี่ แต่เขาก็อ่านกัน

เขาอ่านธรรมเพื่อเป็นแนวทางชี้ให้เกิดปัญญา

ไม่ใช่อ่านเพื่อไปเป็นเจ้าของมันและเอาตัวตนเข้าไปเป็น

นี่มันเอาตัวตนเข้าไปเป็น และเอาอัตตาตนที่เป็นออกไปเพ่งโทษผู้อื่นที่ผิดไปจากตน

นี่..มันเป็นอาการเลวของใจแล้ว

แร้งมันจะแดกซากศพ มันไม่ต้องการโต๊ะจีนอาหารหรูหราอะไร มันก็พอมีชีวิตอย่างแร้งๆได้

ไม่ต้องไปเป็นห่วงหรือหวังดีกับพวกแร้งพวกกามันด้วยอัตตาเรา เอาตนเองให้ดีเหอะ

เราพึงมีปัญญาฟังตามความเป็นจริงซิ

การยึดโดยไม่ไตร่ตรอง อะไรมันก็ผิดทั้งนั้น

อย่าไปอ้างว่าเป็นคำของศาสดาเลย นี่มันภาษาไทย

มันแปลจากความรู้ของเหล่าบัณฑิตที่เขาเรียนตามพจนานุกรมมา

ผู้เป็นพหูสูต ไม่จำเป็นต้องว่ากล่าวตามอักษร หรืออักขระตามตำรานี่

มีแต่พวกยึดภาษาและอักขระเท่านั้น ที่มันว่าบิดเบือน เพราะไม่เรียบเรียงธรรมตามคำอักษร

ความหมายและเจตนาที่จะชี้เข้าไปให้เห็นและเกิดปัญญาต่างหาก จึงจะเรียกได้ว่าตรงตามความเป็นจริง

คนโง่มักเอาคำแปลที่ปุถุชนแปลธรรมของพระอริยเจ้ามาเป็นพระพุทธเจ้าพูด

แค่โวหารก็เข้าใจยากแก่คนทั้งหลาย มีแต่วลีโวหารสวยหรู ที่ทำความเข้าใจยาก

ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ ย่อมมีวิธีอุบายโดยแยบคาย เพื่อให้ศิษย์เข้าใจ

อุบายที่ทำให้เข้าใจ ไม่จำเป็นต้องไล่เรียงตามพระสูตรภาษาโวหาร ที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ที่สำคัญ พวกยึดตำรา มันไม่ฟังใครทั้งนั้น มันจะให้ฟังความคิดมัน

พุทธะ เป็นเรื่องของปัญญาสอดส่องหาความจริง

ไม่ใช่เป็นเรื่องเชื่อฟังอย่างงมงายเพราะเชื่อเขาแปลเขาว่ามาแต่เพียงส่วนเดียว

พุทธศาสนานั้น เป็นเรื่องปัญญาล้วนๆ ที่เกิดจากเจ้าของตรึกตรองหาความเป็นจริง

ศาสนาอื่น เขาอ้างตำรา อ้างพระผู้เป็นเจ้า อ้างผู้นำ อ้างลัทธิอะไรไปนู่น

ขึ้นชื่อว่าชาวพุทธ ย่อมมีอิสระในการขบคิด

ความอิสระนี่แหละ เรียกว่าคิดอย่างผู้มีปัญญา

มันจึงได้ชื่อว่าเกิดความเป็นพุทธะ

บ้าแต่ตำรา บ้าแต่พระสูตร นี่มันเด็กน้อยสอนเขียนอ่าน

ถ้ายึดกันแบบไม่วาง เพ่งโทษผู้อื่นว่าไม่ใช่แนวทางพุทธ

มันก็เด็กน้อยที่ไม่โต ตั้งแต่สาวกยันเจ้าสำนักเลยทีเดียว

ใครพูดผิดไปจากภาษาที่เรียบเรียง

ดันไปยัดเยียดว่าเก่งเกินพระพุทธเจ้า

ไอบ้า..มึงบ้าแล้ว..รู้ตัวซะบ้าง.!!

***************

ที่จริงหนังสือทางธรรม จะเป็นพระไตรปิฏก หรือจะแยกออกมาเป็นพุทธวจนะ

ชาวพุทธมันก็ศึกษาอ่านฟังกันทั้งนั้นแหละ

ไม่ได้มีใครรังเกียจใครอะไรหรอก

แต่พวกบ้าลัทธิพุทธวจนะนี่ มันเสือกไปเป็นเจ้าของพระพุทธเจ้าพูด

แล้วยังไปกล่าวตู่โจมตีผู้อื่นที่เป็นชาวพุทธด้วยกัน ว่าตนดีคนอื่นเลว

นี่..มันเหี้ยก็เหี้ยกันตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับธรรมคำแปลอะไรในหนังสือ

ศึกษาธรรมอันสวยหรู แต่ดูคนอื่นโง่ เพราะคิดว่าเขาไม่อ่านไม่ฟัง

เที่ยวบอกกล่าวผู้คน ด้วยความหวังดี แต่ใจตนก่นด่าว่าเหล่าครูบาอาจารย์ และอรรถกถาจารย์ ที่ตนเองไปลอกเขามา

บิดเบือนโกหกด้วยความเขลาแก่เหล่าสมุนว่า เอามาจากเสาหลักอโศก โดยไม่เคยรู้ความจริง

บิดเบือนพระไตรปิฏกว่าเอามาจากสยามรัฐฉบับภาษาไทย ซึ่งไม่มี

คนโง่นั้นมักเชิดชูในสิ่งที่ตนแสวงหาแต่ไม่มีปัญญาหาความจริงมาได้

ขโมยของเขามา แล้วยังมีหน้ากล่าวตู่ว่าเจ้าของคนแปลเขา

พวกอ่านพวกฟังตามๆกันมา พออ่านพอฟังตำราเข้าหน่อย ต่างก็ยกตนเลิศเลอว่าเป็นศิษย์ตถาคต

เป็นปุถุชนยังนอนเย๊ดกันนัวเนีย แต่พากันลอกแปะพระสูตรสอนพระสอนเจ้า

มองเห็นว่าคนอื่นมันโง่เพราะไม่ฟังคำแห่งพระพุทธเจ้า

นี่..มึงทั้งนั้น คิดเองเออเองด้วยความหวังดี

ยกธรรมมายัดเยียดให้ผู้อื่นอย่างสวยหรู แต่แค่มารยาททางสังคมเล็กน้อยยังไม่ค่อยมี

ชอบเข้าไปเสือกเรื่องของคนอื่น ด้วยการขโมยบอกเขามาตัดแปะๆ อวดตนว่าเป็นผู้สูงส่งทางธรรม

ไอ้เหี้ย..นี่มันพวกสมองกลวง ไร้ปัญญา ขี้ข้าอัตตาคิดเองทำเอง วินิจฉัยเองไม่เป็น

ยึดเอาแต่คำแปลของผู้แปลว่า นี่พระพุทธเจ้าพูดๆๆๆๆ โดยไม่แหกตาว่านี่ พ.ศ. อะไร

***************************
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วัน จันทร์ ที่ 30 มกราคม 2560
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี