โดนของและมนต์ตราจากเขมร

***** “โดนของและมนต์ตราจากเขมร” *****

เมื่อวานได้คุยถึงพิธีการอาบน้ำสรงน้ำที่เขาพนมกุเลนอันเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิของฝ่ายพราหมณ์เขา

ทีนี้ เหล่าพวกเราที่ได้ไปสถานที่นั้นกลับมา ต่างก็มีอาการ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ท้องร่วง อ้วกแตก ขี้แตกกันเป็นสิบ

ต่างก็นึกว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษ พระไม่ฉันอะไรก็เป็น จึงพากันโทษและหาสาเหตุกันให้ทั่ว

ข้านี่รู้แล้ว พวกนาคเขาบอกมาตั้งแต่ลงไปทำพิธีสรงน้ำที่ธารศักดิ์สิทธิ์ของเขาแล้ว

ว่าหลายคนต้องเผชิญวิบากที่ได้เคยกระทำไว้แต่ก่อนเก่า แต่ข้าไม่บอกใคร ข้าปล่อยให้เป็นไปตามวิถีวิบากของแต่ละคน

ข้าจะเอาไว้แก้ทีหลัง เพราะบางคนมันก็ทนง และตั้งมั่นไม่เชื่ออะไรในสิ่งที่เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

ที่ตรงนั้น หากเราขึ้นจากน้ำ ให้เอาน้ำจากขวดอาราธนาคุณพระพุทธ แล้วระลึกถึงบุญกุศลที่ได้สร้างสมมา เช่นการมาร่วมกันสร้างองค์พระพุทธะ

แล้วราดลงไปในลำธารหรือผืนแผ่นดินริมน้ำ อาการต่างๆจะไม่เกิดกับเราผู้ขอขมากรรมและแผ่เมตตา

นี่ทุกคนลั่นล้า แถมยังเยี่ยวลงไปขณะเล่นน้ำด้วยความมักง่าย และชวนคนอื่นเยี่ยวอีก นี่นาคเขาฟ้องข้า เขาขอให้ข้าขึ้นไปเหนือน้ำ

ความไม่พอใจและเครียดแค้นชิงชัง ในความมักง่ายล่วงเกินในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเขา มันก็เลยเกิด

อันที่จริง พระควอตซ์ พระทองคำ พระไหม กำไล และโกเมนอะไรต่างๆนี่ มันป้องกันมนต์ตราญานอะไรต่างๆได้ พวกเราพลาดที่ถอดออก

เล่นน้ำก็ถอดออก เข้าส้วมก็ถอด นอนก็ถอด ถอดเพราะกลัวมันหายมันเสื่อม

ไอ้เหี้ยเอ้ย..หากวัตถุใด รอดราวผ้าเอย เข้าส้วมเอย อาบน้ำเอย เอากันเอย ใส่แล้วเสื่อม

ทิ้งแม่งมันไปเหอะ อย่าไปใส่ให้มันหนักคออะไรเลย ของดีของขลังมันต้องไม่เสื่อมหรือพ่ายแพ้อะไรจากสิ่งเหล่านี้

ความเสื่อมนี่ไม่ได้เกิดจากวัตถุพวกนี้ ความเสื่อมนี่ มันเกิดจากใจเจ้าของที่เฮงซวยเสือกอ่อนแอคิดเอาเอง

ที่เขาพนมกุเลนนี่ มีคนไทยบางคน ไปมาแล้วเกิดอาการท้องเสียและอาเจียน เหมือนอย่างที่พวกเราเป็นกัน

ญาติทางป้ายีสคนทางใต้ ป้าเขาเล่าให้ฟังว่า

คนบ้านเขาไปเขมร นัยว่าไปเที่ยวนครวัด

แต่กลับมาไม่ถึงบ้านหรอก ตายซะก่อน

สาเหตุที่ตายนี่ ข้าคิดว่าไม่เกี่ยวกับนครวัด

แต่เป็นการลงน้ำเล่นน้ำที่เขาพนมกุเลนนี่แหละ

เขามีอาการคลื่นไส้มึนหน้ามืดท้องเสียก่อน จากนั้นจะอาเจียน ไร้เรี่ยวแรง

แน่นอน เราจะมองว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษ

อาการเช่นนี้ แพทย์ทางโน่นเขาจะรู้ว่า อย่างไรรักษาหาย อย่างไรรักษาไม่หายด้วยตัวยาที่เขามี

ป้ายีสบอกว่า เขาก็พักรักษาตัวเรื่อยมา จากที่เขมร มาถึงไทยก็ยังมีอาการ ก็เข้าโรงบาลต่อ

เข้าซะมาตลอดทางที่ละสองสามวัน ยังไม่ถึงบ้านเลย ตายซะก่อน

ความเป็นเขมร จึงเป็นเรื่องที่คร้ามเกรงแก่พวกญาติๆเขาในการที่จะไปเยือน

อาการที่เป็นเช่นนี้ หากรักษาแล้วไม่หาย มีแต่ทรงกับทรุด

มันคือโรคที่ติดต่อมาจากพลังงาน ต้องไปพึ่งคนมีกำลังทางจิตนู่น

พูดเช่นนี้ ดูออกจะโบราณ และเชื่อถือไม่ได้เป็นเรื่องไสยศาสตร์อีก

พวกมืดบอดทางนี้มันก็เยาะเย้ยถากถางด้วยหัววิทยาศาสตร์มันแกวของมัน

โบราณมันก็มีเรื่องเช่นนี้แหละ และแก้กันมา ไอ้ที่งมงายน่ะ คือการยึดเรื่องพวกนี้ยึดสิ่งเหล่านี้นู่น นั่นล่ะพวกงมงาย

สังคมอีกด้านมันยังมีอยู่เพื่อนเอ๋ย เปิดใจออกรับเราอาจได้รู้จักแบคทีเรียที่มองด้วยตาไม่เห็น

เราแค่เข้าไปไม่ถึงสังคมนั้น เพราะคิดว่ามันไม่มี จมอยู่แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยตาอย่างเดียว ส่วนทางอื่น โง่หมด

ด้วยเหตุแห่งความไม่รู้นี่แหละ มันจึงมีพ่อค้าคนกลางเกิดขึ้นมาหลอกลวงเอาลาภสักการะจากเรา

ในทีมเรา มีเภสัชที่เก่งเรื่องยาอยู่แล้ว

และเภสัชเรานี่แหละ โดนหนักกว่าเพื่อน

หน้าซีด คลื่นไส้ ถ่ายท้อง หมดเรี่ยวแรง อ้วกออกมาเป็นเมือกสีดำ

แถมในอ้วกยังเสือกมีเส้นผมติดออกมาอีก

กินยาก็แล้ว พักผ่อนก็แล้ว อาการร้อนตัวก็ไม่ทุเลา จนเริ่มเพ้อร้องไห้

ช่วยหนูทีๆๆ หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้

นี่แหละ คุณหมอเราจะรู้ว่า ยาทั้งหลายที่กินเข้าไป มันไม่มีผลและบรรเทาต่ออาการอะไรทั้งหลายที่เป็น

อาการเช่นนี้ มันจะเริ่มจ่อรุนแรงมากขึ้นๆๆ

ที่สุดก็จะเพ้อและดิ้นออกอาการแปลกๆ ที่เขาเรียกว่าผีเข้า

ที่จริงมันก็คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งนี่แหละ

แต่มันอยู่ในรูปของพลังงาน

เอายาที่เป็นสสารเข้าไประงับมันนี่ เอามันไม่ลง
หากไม่มีใครรู้เรื่องเหล่านี้

คุณหมอของเราก็จะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ตาขวาง และทุรนทุราย

ทางเขมรเรียกว่า โดนของ สิ่งเหล่านี้ มันมีวนเวียนอยู่ในอากาศ

ที่สำคัญ มันเวียนรอด้วยอำนาจแห่งเวทย์มนตราข้ามภพข้ามชาติด้วยพันธสัญญาได้ซะด้วย

จะเรียกว่าลมเพลมพัดก็ว่าได้ แค่โดนกระแสที่มันเวียนวนในสถานที่

เมื่อคู่พันธสัญญาที่ตรงรหัสแห่งมนต์ตราญาณผ่านมา

เชื้ออะมีบาแห่งพลังงานมันก็จะทำงานของมันตามโปรแกรม

คุณหมอเรา หากไม่มีผู้แก้ให้

ที่สุดก็จะต้องสิ้นชีวิตไป เหมือนอย่างคนทางใต้เพื่อนป้ายีสที่มาเที่ยวเขมรนี่

อาการของคุณหมอเรา ข้ามีวิธีกำจัดเชื้อไวรัสพลังงานเหล่านี้

ก็แค่เปลี่ยนรหัสน้ำธรรมดาให้เป็นน้ำนาโนไปซะ

เปลี่ยนผลึกน้ำมันใหม่ ให้เป็นผลึกที่มีคุณค่าในการชะล้างเชื้อแห่งพลังงาน

คุณหมอเราซัดเข้าไปขวดเดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

อ้วกแตกออกมาเป็นเมือกสีดำ และความร้อนทั้งหลายที่สุมกาย

มันก็ค่อยๆลดลงจนเป็นปกติ

และหลังจากนั้น เธอก็อยู่อย่างลั่นล้า ไร้เพทภัยจากพลังงานทั้งหลายมากล้ำกลายให้อ้วกแตกขี้แตกอีกเลย

มันยังมีคนอื่นเป็นอีกเพียบ แต่ขี้เกียจเล่าแล้ว ค่อยว่ากันอีกคราวหน้า

ข้าจะเล่าต่ออีกนิดดีไหม ถึงวิธีแก้อย่างง่ายๆ หากไม่มีครูบาอาจารย์ไปคลุมจิตเรา

ที่เขมรนี่ มันยังมีไสยเวทย์หลงเหลืออยู่เยอะ เขาเพิ่งผ่านความทุกข์เร่าร้อนของแผ่นดินที่แผดเผาไม่กี่สิบปี

พวกเขามันมีมนต์ปรากฏประจำตัวในการป้องกันตัวและอยู่อาศัย

เขาเป็นของเขาอย่างนั้นสำหรับผู้มีกำลังบารมีของเขามาแต่ก่อนเก่า

วิธีป้องด่านแรกเลย ใส่สร้อยทองคำ พระควอตซ์ อัญมณีอะไรก็ได้ซ่อนไว้ติดกับตัว

พวกมนต์ตราญาณอะไรต่างๆนี่ มันแทรกผู้มีวัตถุเหล่านี้ไม่ได้

มันจะกระทำและปรากฏได้ก็เฉพาะ ผู้ที่มีกำลังและบารมีน้อยกว่ามัน

หากเรามีฐานะดีกว่า รวยกว่า ด้วยการมีวัตถุที่สมมุติมีค่า

เช่นทองคำ ทับทิม ไพลิน อะไรก็ได้

มนต์มายาที่ต่ำกว่า เข้าไม่ถึงตัวเรา

นี่ชาวเขมรเขาเอาวิธีนี้มาป้องกันตัวพวกเขา

พวกทำของและเล่นไสยเวทย์ เขาบอกของเขามาอย่างนั้น

เขาบอกว่าวิชาอาคมของเขาใช้ไม่ได้กับคนที่มีสิ่งของเหล่านี้พกติดกับกาย

หากเขาจะทำ เขาต้องมีกำลังด้วยสิ่งของเหล่านี้ขึ้นมาซะก่อน

กำลังของอาคมเขาถึงจะมี

แต่ปัญหาคือ ถ้าเขามีวัตถุสิ่งของ มีเงินมีทอง

อาคมที่เขามีมันก็เสื่อมไปตามกระแสแห่งวัตถุอีก

นี่เขาว่าอย่างนั้น

อีกวิธีคือแขวนสิ่งที่เราเคารพและยึดมั่น

เอาวัตถุนั้น อาราธนาแช่น้ำ ระลึกถึงคุณด้วยใจตั้งมั่น ไม่หวาดหวั่นในผลที่กำลังกระทบแล้วดื่มเข้าไป

วิธีนี้ หากกำลังกระแสสิ่งที่เราเคารพมีกำลังบริสุทธิ์สูง

อาคมและกระแสต่างๆ ที่เราโดน มันจะทุเลาเบาบางเจือจางลง

หากเป็นชาวพุทธ ท่องอิติปิโส 9 จบ ทำน้ำพุทธมนต์เอง นี่ก็เอาไหว

ที่จริงสิ่งเหล่านี้ มันดูเหมือนปัญญาอ่อน เชื่อไม่ได้พิสูจน์ไม่ได้

แต่คนเข้าใจเขาก็แก้ง่ายๆหรอก ไม่มีอะไรมากพิธี

และวิธีแก้ มันก็ดูง่ายซะจนไม่น่าเชื่อว่าจะแก้อาการหนักๆอย่างนั้นได้

คนไม่รู้ก็คือไม่รู้นั่นแหละ

และความไม่รู้นั้นมันก็ยิ่งใหญ่ด้วยความโง่ ที่มันคิดว่า กูนั้นมันฉลาดเสียเหลือเกิน

พระควอตซ์ พระเสตังคมณี พระไหมทอง พระแก้วขนเหล็ก พระทริซิรีน ที่เป็นควอตซ์ทั้งหลาย

ที่หลายคนรับจากมือข้าที่บุญญพลัง เมื่อซื้อปูนมาถวายสร้าพระนั่นแหละ

ป้องกันมนตราลมเพลมพัดไม่ให้กระแสเหล่านี้ มายุ่งกับเรือนกายเรือนใจเราได้

พระมรกตสีเขียวๆนี่ หากมีไว้ติดตัว อาคมทางเขมรก็ทำอะไรเจ้าของไม่ได้

ข้าเคยนำมาประมูลสร้างองค์พระครั้งหนึ่ง พระมรกตนี่ คุณหมอเภสัชเขาได้ไป

มนต์ตราที่วัตถุพวกนี้ป้องกันไม่ได้ก็คือ มนต์ตราจากพิธิกรรมที่ทำการเปิดโลกธาตแห่งมนต์มายา

อันเกิดจากพิธีกรรมทางฝ่าย ราชนุกูล พิธีกรรมแห่งพราหมณ์ชั้นสูง กษัตริย์ อะไรเหล่านี้

มนต์พวกนี้เขาเหนือกว่าผู้สวมใส่วัตถุทุกประเภท กำลังและบารมีเขาสูงกว่า เราใส่อะไร มันก็ป้องกันไม่ได้

แต่มนต์ตราญานพิธีเหล่านี้ พ่ายแพ้ความบริสุทธิ์ที่เกิดจากพุทธิจิต

ความบริสุทธิ์ที่ไร้มนต์ตราอะไรใดๆคุ้มครอง เป็นตัวทำลายมนต์แห่งไสยเวทย์เหล่านี้ ให้เจือจางและเสื่อมสลายไป

ถ้าเรามั่นใจว่าบริสุทธิ์พอ สิ่งเหล่านี้ทำอะไรเราไม่ได้เลย

อีกบุคคลที่เป็นสุดยอดไซย่า ที่มนต์ตราเหล่านี้ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากจากใครขนาดไหนก็ทำอะไรไม่ได้

นั่นก็คือ #คนบ้า พวกบ้าๆขาดหุ้นนี่ ผีเซ็งโคตร

คนบ้านี่ ไม่ต้องอาศัยอะไร มนต์ตราผีห่าวิญญานอะไร ก็ไม่กร้ำกรายใจเขา

ดูว่าหลายคนในกลุ่มเราไม่เป็นอะไร

ผีมันเกาหัวและถอนหายใจพึมพัม ไอ้เหี้ยยย..นี่ มันบ้าแท้..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2559 โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง