****** “เปลือกที่รักษาเนื้อเยื่ออันเป็นสัจธรรม” ******
อาทิตย์นี้ เราเทฐานพระที่เพิ่มขึ้นมากัน ด้านขวาองค์พระน่ะ ตรงนั้นเสาขาดหาย
เพราะพระเราใหญ่ขึ้นมามากกว่าเดิมบานเลย
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่องค์พระเล็กหรือใหญ่ บางคนคิดว่า ข้านี่ทำเกินตัว มันคงมองไม่เห็นว่าข้านี่ทำได้ มันเอาความคิดมันมาใส่ให้ข้า
มันน่ะทำไม่ได้ มันจึงคิดว่า ข้านี่ก็ทำไม่ได้เหมือนกะมัน แต่ไอ้พวกเวรนี่ ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรหรอก
มันคอยจ้องแต่จะให้คนอื่นคล้อยตามความเห็นมันว่าข้าน่ะ หาเรื่องและทำอะไรที่เกินตัว
มันไม่เข้าใจว่า การรบสำหรับนักรบนั้น มันต้องการรบกับศึกที่มันยิ่งใหญ่ มันเป็นเกียรติภูมิใจ
ตายเรื่องเล็ก การได้รบนี่ซิเรื่องใหญ่ คนที่เป็นเพื่อนข้าน่ะ หากใจหำมดก็ถอยไป
เราทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่เห็นว่าจะเสียอะไรเลยนี่หว่า
ข้าก็ไม่เคยมีตังค์กะใครอยู่แล้ว ทำมาตั้งเท่านี้นี่ สุดยอดมากแล้ว
พอใจเป็นที่สุดที่ได้รบกะมันมา ตายไปก็ยังได้ชื่อว่า…ขุนทัพจอมนักรบ
และข้าจะทำไปจนสิ้นเรี่ยวแรงด้วยความภาคภูมิใจ
แต่คนที่ใจหำมด มันก็คอยแต่คิดวิตกแทนข้าเสมอ
งานเด็กๆแค่นี้ สบายมากไอ้น้อง ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว
เพื่อนข้ามันมาบอกว่า ท่านบวชเข้ามาควรจะอยู่เฉยๆไม่ดีกว่าหรือ
ข้าบอกว่า แกเห็นนกอินทรีนั่นไหม มันมีปีกเพื่อไว้บิน ไม่ได้มีปีกเพื่อไว้โชว์ใจตนเอง ว่ามันมีปีก
การได้บิน โผลม ร่อนอยู่กลางเวหา เป็นความสง่างามในชีวิตของมัน ที่มีปีกงาม
คนเรานั้น ความสบายไม่ใช่การอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไร
แม่ส่งแกเป็นอัมพาต แกอยู่เฉยๆทำอะไรแทบไม่ได้ นั่นคือความทุกข์ อยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลยนี่มันทุกข์
คนจนที่คับแคบและแร้นแค้น ความคิดของเขาคือ ความสบายที่ไม่ต้องทำอะไร
การอยู่เฉยๆ ในความคิดเขา เขาจึงเห็นว่า เป็นความสบายที่สุดที่ควรแสวงหา
คนรวย..การทำงานในสิ่งที่ตนรักหรือได้เสียสละนี่ซิ เป็นชีวิตที่มีคุณค่าและน่าแสวงหาเป็นที่สุด
คนใจคับแคบมักมีแต่ข้ออ้างและอคติในสิ่งที่เกินกำลังใจตน เอาความดีใส่ตน ระยำป้ายให้คนอื่น
การสร้างพระนี่ สำหรับชาวพุทธ มันเป็นคุณอย่างใหญ่หลวงทางใจ
การเกิดมาได้มาร่วมสร้างพระอย่างยิ่งใหญ่ ถ้ามันจัญไร ก็ควรไปอยู่ศาสนาอื่น
องค์พระนี่ เป็นเปลือกที่รักษาและห่อหุ้มเนื้อเยื่อแห่งสัจธรรม
เปลือกที่แข็งแรงย่อมรักษาเนื้อเยื่ออันเป็นสัจธรรมให้ยืนยาว
มนุษย์ใจแคบแม้เป็นชาวพุทธ มันไม่รู้ว่าการสร้างองค์พระพุทธนี่เป็นเปลือก
มันคิดว่าเปลือกเหล่านี้มันเป็นเนื้อเยื่อ และเป็นเนื้อเยื่อที่มันเองก็กินไม่ได้ เพราะมันมองไม่เห็นความเป็นเปลือก
เปลือกน่ะ มันไม่สำคัญอะไรต่อการเอามาเป็นเครื่องยังชีพ ยังชีวิตให้มันเติบใหญ่แก่ใจได้หรอก
แต่เปลือกมันห่อหุ้มเนื้อเยื่อที่หอมหวานและประกาศความหอมหวานแห่งความเป็นเนื้อเยื่อนี่ซิ รู้จักและเคยเห็นมันรึเปล่า
ผู้มีปัญญาเขาไม่ได้เอาเปลือกมาเป็นเครื่องบริโภค เขาเอาแต่เนื้อเยื่อที่ซ่อนอยู่ในเปลือก
คนโง่มันแกะเปลือกไม่ออกและแกะไม่เป็น แถมเข้าใจว่าเปลือกที่ห่อหุ้มนี่ มันเป็นเนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อของคนโง่ที่ไม่เข้าใจว่ามันเป็นเปลือก มันย่อมกินไม่ได้
เพราะความที่มันกินไม่ได้นี่แหละ มันจึงไม่ให้ความสำคัญในเนื้อเยื้อนั้น ด้วยความไม่รู้ว่ามันเป็นเปลือก
มันมักจะเชื้อเชิญใครๆว่า อย่าไปทำเลย อย่าไปยึดติดอะไรเลย อยู่กันเฉยๆสบายๆกันดีกว่า
คนโง่ที่ขาดปัญญา มันไม่เคยรู้ว่า ผู้มีปัญญาเขารู้จักว่าสิ่งเหล่านี้นั้นมันเป็นแค่เปลือก
และเปลือกเหล่านี้ มันมีคุณต่อการรักษาเนื้อเยื้อให้มันยืนยาวคงทน ส่งต่อไปถึงเหล่าลูกๆหลานๆในอนาคตกาลภายภาคหน้าได้
ผู้มีปัญญา ย่อมจะแกะปอกเปลือกออกมากินเนื้อเยื่อเป็น
ปัญหาคือผู้นำ มันมีปัญญาปอกเปลือกออกมาให้ผู้ตามได้เห็นเนื้อเยื่ออันหอมหวานแห่งสัจธรรมที่ซ่อมอยู่ภายในกันรึเปล่า
การจะข้ามไปอีกฝั่งของห้วงน้ำ จำเป็นต้องสร้างเรือเพื่ออาศัยมันข้ามฝั่งไป
เรือนี่เป็นเปลือก ที่เราต้องอาศัย ไม่มีเปลือก เราข้ามไปไม่ได้
เมื่ออาศัยเรือข้ามไปแล้ว เรือนั่นคงไม่มีใครโง่ที่จะแบกขึ้นฝั่งเพื่อเอาไปด้วยหรอก
แต่เราต้องอาศัยเรือมันมาเพื่อข้ามฝั่ง ขึ้นฝั่ง..ย่อมไม่มีใครจะไปสนใจเรือ
เราเอามะพร้าวมาแกงกะทิ เราต้องซื้อมะพร้ามมาทั้งลูก
เราเอาแต่กระทิที่ซ่อนอยู่แต่ในเนื้อ คั้นน้ำกระทิ ที่ซ่อนในเนื้อนั้นออกมา
เราไม่ได้เอาเปลือก เพราะเรารู้จักเปลือก
เราไม่ได้เอากาบ เอากระลา เอาเนื้อมะพร้าว เพราะเรารู้จักมัน
เราเอาแต่กระทิ สิ่งที่ห่อหุ้มมานั้นเป็นเปลือก เราทิ้งไป..
ไม่มีใครเอาเปลือกที่ห่อหุ้มเนื้อเยื่อไว้ มาแกงเพื่อเป็นแกงกระทิ
แต่เราก็ต้องซื้อเปลือก ซื้อกาบ ซื้อกระลา ซื้อเนื้อที่รักษากระทิเข้ามาด้วย
เปลือก..ทำให้เนื้อเยื่อคงทนไม่เน่าเหม็นเสียหายไปในกาลเร็วพลัน
การได้มาสร้างองค์พระเพื่อแผ่นดิน เป็นเสมือนหนึ่งในผู้สร้างเปลือก เพื่อรักษาเนื้อเยื่ออันเป็นสัจธรรมให้ยืนยาว
พวกแดกแต่เนื้อเยื่อ ที่คนโบราณได้สร้างเปลือกห่อหุ้มรักษาผลจนมาจนถึงมัน
มันกลับแดกแต่เนื้อเยื่อ และแกะเปลือกออก เอาแต่เนื้อเยื่อ
มันไม่คิดจะห่อหุ้มเปลือกเพื่อรักษาเนื่อเยื่อ ส่งทอดสืบไปให้ลูกหลานมันได้กินเนื้อเยื่อกันมั่ง
ไอ้เหี้ยย..แดกแต่เนื้อเยื่อ เอาแต่เนื้อเยื่อ ไม่ห่อเปลือกเพื่อเหลือไว้ให้ใคร
เนื้อเยื่อหมดไป เพราะไร้เปลือกรักษา ด้วยความเห็นแค่ว่า สิ่งเหล่านี้มันเป็นแค่เปลือก อย่าไปสนใจและไปห่อหุ้มมันกันให้ลำบากกันอีกเลย
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 20 กันยายน 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง