พระพุทธะบุญญพลัง ปาฏิหาริย์แห่งงานปั้น

พระพุทธะบุญญพลัง ปาฏิหาริย์แห่งงานปั้น

378
0
แบ่งปัน

***** “พระพุทธะบุญญพลัง ปาฏิหาริย์แห่งงานปั้น” *****

พระพุทธบุญญพลัง เป็นพระพุทธรูปที่ข้าปั้นขึ้นมากับมือของข้าเองตั้งแต่ขึ้นรูป

ข้าปั้นขึ้นมาโดยไม่มีรูปแบบใดๆทั้งสิ้น

#ปั้นด้วยจิตสำนึกถึงพระพุทธองค์เจ้าบวรสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น..

ก่อนจะทำการปั้นขึ้นมาเอง เราก็ได้ว่าจ้างให้ช่างปฏิมามาปั้นให้ องค์แรกก็ไม่ถูกใจ เปลี่ยนช่างใหม่

ช่างคนที่สองก็ไม่ถูกใจ แม้เป็นอาจารย์ทางการปั้นก็ตามเหอะ

เหตุเพราะท่านเหล่านี้ หนีรูปลักษณ์งานตนเองไม่ออก ปั้นออกมาเป็นพระพุทธตามยุคสมัยที่ตนดูเหมือนจะชำนาญ

แต่ข้าเห็นว่า มันตอบโจทย์ไม่ตรงความต้องการกับจิตสำนึกภายใน

พระพุทธองค์เจ้าเป็นชาวอินเดีย ลักษณะควรมาทางกลิ่นอายชาวเทพแห่งอินเดีย

ไม่ใช่แบบเชียงแสน แบบสุโขทัย อู่ทอง อะไรอย่างที่ปั้นๆกันด้วยการลอกเขามา

กลิ่นอายแห่งศิลปที่ปั้นลอกแบบ มันมือไม่ถึง หน้าตามันเข้าไม่ถึงยุค

ปั้นเชียงแสน ก็เป็นเชียงแสนแบบรูปลักษณ์ ไม่ออกศิลปแบบยุคเชียงแสน

ปั้นสุโขทัย ก็เป็นแบบรูปลักษณ์ แต่ศิลปไม่ออกมาเป็นสุโขทัย

สรุป..มือไม่ถึงศิลปในแต่ละยุค แต่อยากปั้นในแต่ละยุคเพื่อขายงานออกมา

ทักมันก็ไม่ได้ มันด่ากันชิบหาย หาว่าเข้าไม่ถึงศิลปะ..!!

ไอ้เหี้ยยย..!! ปั้นศิลปยุคนี้เลย เอาให้มันระบือด้วยคนยุคนี้ปั้นซิ

ว่าคนยุคนี้ มีศิลปินปั้นงานร่วมสมัย ออกมาเป็นอย่างนี้ สวยงามอย่างนี้

คนยุคนี้คนเก่งๆมีตั้งเยอะ.. แต่ไอ้ส้นตีนเอ้ยย..!! เสือกเล่นตัวมากเรื่องมากความไปซะนี่

ขอให้ผลงานมันออกมายอดเยี่ยมกระเทียมเจียวเหอะ กูจะไปง้อ..

ที่จริงไอ้คนที่ปั้นนี่ มันก็มีฝีมือเยี่ยมแหละนะ แต่ปั้นงานออกมาให้ข้า ห่วยแตก..!!

เห็นก็รู้ว่าห่วยแตก ใจมันไม่มีในงานที่แสดงออกมา

มันแห้งแล้ง จืดชืดไร้ชีวิต พระพุทธหน้ายังกะซาลาเปาผสมโดเรม่อน

ไอ้เหี้ย..กูไม่รับหรอก..!! มันก็บอกว่า ไอ้บ้านี่เรื่องมาก

เรื่องมากเพราะไม่รับผลงานมัน..

ขอพระพักต์แบบเทพอินเดีย กลิ่นอายแบบคุปตะอะไรราวๆนั้น

เห็นแล้วสวยเลยน่ะ ไม่ต้องสนใจยุคห่าเหวอะไรก็ได้ เค้นตัวตนออกมาให้งานมันมีชีวิต

เอาแค่นั้น แล้วเอาตังค์ไปกินหนมซะ..!!

ปรากฏว่า งานออกมาก็ไม่ได้เรื่องอีก

ไอ้ยอดฝีมือที่รู้จักกัน มันก็มีงานยาวไปตลอดชีวิตโคตรพ่อโคตรแม่มันโน่น

เห็นแดกแต่เบียร์ ชิวๆ วันๆไม่ค่อยได้ทำเหี้ยอะไร แต่งานมันเยอะ มันให้เรารอ..!!

นี่..เพื่อนกัน มันรู้สันดานอยู่ พวกโคตรฝีมือ แต่วิถีความคิดแห่งการดำเนินโคตรห่วย

เพ้อวลี วาทะ ลึกซึ้งเข้าใจโลกเข้าถึงความเป็นจริง แบบจิตวิญญาน เหนือโลกแบบเมากัญชา

เหมือนพวกมีธรรม แต่เป็นธรรมแบบกิเลสอัตตาตนเองทั้งดุ้นไอ้เหี้ย..นี่เพื่อนนะ ด่าแม่มันได้..!!

ที่สุด..เรื่องมากนักก็ต้องมาปั้นเอง..!!

เกิดมาไม่เคยปั้นอะไร นี่มาปั้นพระ ที่ใจตนเองต้องการ ดูมันจะเป็นเรื่องเหลวใหลปาฏิหาริย์แล้ว

แต่ก็ปั้นๆๆๆๆ ปั้นทิ้งๆๆๆ อยู่ราวๆสามเดือน

เพราะปั้นๆไป หลวงพ่อมักจะกระโดดลงมาคอหักบ้าง หัวยุบบ้าง ตัวเอียงบ้าง

ข้ามีหน้าที่ปั้น ข้าก็ปั้นเข้าไปใหม่ ไม่มีหน้าที่เสียใจที่ท่านกระโดดลงมาเสียหาย

เรื่องทั้งเรื่อง ข้าปั้นไม่เป็น ไม่รู้ว่าต้องดามโครงสร้างด้วยเหล็ก

พอพอกดินเข้าไปหนาๆ น้ำหนักเยอะ มันก็เอียง

ปั้นๆอยู่ดีๆ คอหักเฉย ด่าแม่กันชิบหาย

ปั้นไปปั้นมา ดินแห้งยุบตัวอีก แตกเป็นทางยาว

ทีสุดก็หันมาพอกทับด้วยขี้ผึ้ง และแต่งออกมาอย่างหยาบๆตามมีตามเกิด

กลิ่นอายแห่งความรู้สึกถึงความเป็นพระพุทธองค์เจ้า ในส่วนลึกๆ ถูกถ่ายทอดผ่านมือออกมา

ความมีชีวิตในรูปปฏิมาก็เลยเกิด

ยามจ้องพระพักต์ ดูราวกับว่ารูปปั้นจะลืมตาขึ้นมาทักทาย

หากลืมตาขึ้นมาจริง…ข้าคงแหกปากวิ่งกันน้ำบาน

เพื่อนที่เป็นศิลปินมันมาเยี่ยม

มันบอกว่าปั้นได้ก็ไม่บอก.. ข้าบอกว่า กูมันแค่ได้ปั้น..ไม่ใช่ปั้นได้..!!

งานที่มันออกมาจากหัวใจ แม้ไม่เคยปั้น มันก็ปั้นได้

ข้าเอาแค่..คนทั้งหลายมองว่าสวย และดูมีกลิ่นอายแบบเทพอินเดีย ไม่ใช่มนุษย์

มนุษย์เรา..ขอให้มั่นใจเหอะ จะทำสิ่งใด มันก็ทำได้ด้วยกันทั้งนั้น

ใจเรามันมีคุณภาพพอไหม ที่จะกลั่นกรองสร้างสรรอะไรออกมาจากหัวใจ

พระพุทธะบุญญพลัง เป็นกำลังแห่งบุญที่เกิดจากจิตก้นบึ้งของจิตใจ ที่อยากให้ผืนแผ่นดินนี้ เป็นที่ตั้งแห่งความเป็นพุทธะ

เป็นองค์พระเพื่อแผ่นดิน เป็นที่รวมเหล่าพุทธศาสนิกชนผู้มีปัญญาตรงต่อสัจธรรม ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงแจ้งโลก

พุทธะคือปัญญา เราลูกหลานพุทธะ

ไสยยะคืองมงาย เรารู้จักไสยยะ

ผู้ที่ดำเนินไปด้วยความรู้จักทั้งสองฟาก

ย่อมดำเนินไปทางสายกลางที่มุ่งไปสู่แสงสว่างยังปลายอุโมงค์

เรา…ลูกหลานแห่งพระพุทธะ จะไปพักรอที่แสงแห่งปลายอุโมงค์ เพื่อรอเจอพวกท่าน..เดินทางไป..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง