หวัดดี วันนี้ต่อเลยไหม การเดินจงกรมนี้ มีคุณสูง เมื่อเราเริ่มก้าวเท้าขวาออ
สติเราระลึกตามการก้าวเท้าอ
เพราะมันมีระยะการวางจิตพอส
การเดินให้วางใจสบายๆ ทำความรู้สึกตัวอยู่กับการเ
เมื่อชินกับการมีสติระลึกใน
การเดินให้เดินหลังอาหาร ก็จะดี ปกติพระเรานี้เมื่อบวชมา หากเป็นพวกพระขี้เกียจ แดกเสร็จ
มันก็จะเข้าห้องจำวัด นอนดูทีวี ดูหนัง แถมชักว่าวอีกต่างหาก แล้วมักบอกว่า กำลังจำวัดไม่ว่างห้ามใครยุ
พวกโยมก็เข้าใจว่า พระต้องจำวัด ห้ามรบกวน นี่ พวกพระขี้เกียจ บวชเข้ามานอนอย่างหมูอย่างห
คอยแดกข้าวชาวบ้านเสร็จ ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เข้ากุฎินอนลูกเดียว
พึงจำไว้ท่านทั้งหลาย พระดี ท่านไม่จำวัด พวกจำวัด คือพวกแดกมากแล้วขี้เกียจ
ธรรมชาติของนักบวช เมื่อรับผ้ากาสาวพัสตร์ ก็เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
ไม่ใช่รับผ้ามาแล้ว แดกแล้วนอนจนตะวันแจ้ง แล้วลุกขึ้นมาแดกต่อเป็นวัด
หากเพลียจัดเหนื่อยจัดก็นอน
แต่พวกบวชเข้ามา จำวัดยันเต เพราะไม่รู้จะทำอะไร พวกนี้บวชมาส่วนใหญ่ ใจก็นึกแต่ จะสิ้นพรรษาเมื่อไหร่หนอๆๆ ใจเป็นพวกโจรติดคุก
ใจมันไม่ได้อยากบวช แต่เสือกบวชเข้ามา หลอกแดกอาหารชาวบ้าน นี่..พวกนรกถามหา นักบวช
เมื่อจบกิจจากทานข้าวแล้ว เก็บอะไรเรียบร้อย อย่าเอนหลังนอน
นอนเมื่อไหร่ กิเลสมันจะสร้างเป็นสันดาน แดกแล้วนอนแม่งทุกวัน ไอ้คนก็ชอบกันจัง
อยากให้ท่านพัก ให้ท่านจำวัด จำวัดเป็นกิจของพระ ไอ้พวกพระขี้เกียจ ไอ้สันดานพวกแดกแล้วนอน
ไอ้ชิ๊บหาย..!! บวชมาแล้วใจอัปปรีย์ กิน นอน ดูทีวี ล่อภาพลามกแล้วชักว่าว อัดตูดกันก็มี
แล้วให้คนเขาหาข้าวให้กิน ให้เขากราบไหว้ เป็นดั่งเทวดา บวชมาหานรกกันแท้ๆ ขอด่าแม่มันแทนพวกแก
เผื่อมันอ่าน ไอ้พวกพระสันดานดีมันเกียจข
นักบวช กินข้าวอิ่มก็นู่นเลย เข้าทางจงกรม ไปเดินย่อยซะ อย่าไปเอนหลังหลับ สร้างวิริยะขึ้นมาให้มันเคย
จะนั่งสมาธิก็ได้ แต่หากใจไม่ตั้งมั่น หลังกินเสร็จ เดี๋ยวมันก็จะหลับ เดินจงกรมไปเลย ดีที่สุด
พระบางท่าน ทั้งชีวิต ไม่เคยเดินจงกรมอะไรเลย กรรมฐานก็ไม่ทำ ถึงทำก็ทำอย่างงูๆ ปลาๆ แต่ทำตัวเป็นอาจารย์คน
ไปจำไปอ่านหนังสือมา แล้วอวดภูมิออกไป ดูว่าเป็นนักปฏิบัติ เพื่อให้คนชื่นชมกันเท่านั้
พวกเราจำไว้ พระกินข้าวอิ่มแล้ว ท่านเดินจงกรม หรือไม่ก็ทำงานของท่านไป ส่วนพระขี้เกียจ แดกแล้ว
นอนดูทีวี เล่นเกมส์ ดูหนังฟังเพลง แล้วนอน พวกพระเกย์พระตุ๊ด มันมีคู่เป็นพระผัวพระเมียแ
ดูดหำกันทุกราย และมีมากมายไม่ใช่น้อย
ยิ่งบ่ายๆ นี่ หากเป็นพระปฏิบัติ ท่านทำงาน บางท่านก็โน่นเลยขึ้นทางจงก
ไปยันมืดนู่น จึงขึ้นมาอาบน้ำล้างเท้า ทำสมาธิต่อ นี่ พวกนี้บวชมาเอามรรคผล ไม่ได้บวชมาเอามักมาก หรือบวชมาเอามักง่าย
แต่บางท่านถึงที่สุดแห่งธรร
การเดินจงกรม มันมีคุณใหญ่กับใจที่เกิดกา
รพิจารณาธรรม จิตและสติมันตื่นอยู่ตลอดเว ลา
ไม่เหมือนการนั่งสมาธิ มันอาจเข้าภวังค์ ตัดสติของเราออกไปได้
ในการเดินจงกรม มันก็มีปีติ และเข้าสู่ระดับฌานต่างๆ ได้เช่นเดียวกับการนั่ง การเดินเป็นเส้นทางแห่งวิริ
ส่วนการนั่งเป็นเส้นทางแห่ง
มันแยกออกเป็น วิริยะสอง คือ เดินกับยืน ส่วนสมถะฟากขี้เกียจ ก็นั่งกับนอน แต่ก็ใช้ทั้งสองวิธีสลับกัน
วิริยะมากไป ไม่เป็นสมาธิ เกียจคร้านมากไป ก็ไม่เป็นสมาธิ เมื่อไม่มีสมาธิกำลังทางปัญ
ข้าเองเคยเกิดอาการปีติในขณ
เดินกันที่นับสิบชั่วโมงทีเ
เดินกันเป็นบ้าเป็นหลัง เวลาวินิจฉัยธรรม หรือเดินเพื่อฝึกกำลังทางสต
เดินแล้วมานั่งสมาธิพัก แล้วถอยออกมาวินิจฉัยธรรมที
นี่.. ข้าเอากันขนาดนั้น บางช่วงไม่ต้องหลับต้องนอนก
ด้วยกำลังแห่งมหาสติมหาปัญญ
สมัยหนึ่งขณะที่เดินอยู่บนภ
ข้าไม่ได้หลับนอนมาสองวัน พอออกจากสมาธิก็เข้าทางจงกร
พอเดินมันก็สงบ เมื่อสงบ มันก็จับผัสสะแห่งเรือนกาย มันไม่สนใจและรำคาญในเรื่อง
ทีนี้ พอเดินๆ ไปมาซักพัก ก็มีความรู้สึกว่า ตัวมันพองขึ้น ยิ่งเดินก็ยิ่งพอง
มันมีความรู้สึกเหมือนเนื้อ
ข้าไม่ค่อยอะไรกับอาการเหล่
กลมไม่พอ ขณะที่เดิน มันเริ่มลอยขึ้นไปจากพื้น
แต่ข้าก็ยังเดิน ในขณะเดียวกันก็รู้ว่า ร่างมันกลมและกำลังลอย ยิ่งลอยมันก็ยิ่งขยายบวมเบ่
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกโ
ข้าลอยมาถึงยอดไม้ แต่ข้าก็ไม่รู้ไม่ชี้ ข้ามีหน้าที่เดิน ข้าก็เดินทั้งที่ลอยๆ นั่นแหละ
ซักพักร่างที่ลอยและบวมเป่ง
ข้าเห็นเศษเนื้อกระจัดกระจา
หล่นเรี่ยราดอยู่ตามพื้นดิน
มันกระเซ็นกระจาย ไม่มีชิ้นดี กลิ่นนี้เหม็นคาวคุ้ง
กระดูกก็แหลกละเอียด เครื่องในตับไตไส้พุง มันแตกพุ่ง ออกไปเป็นชิ้นเนื้อเละๆ
แต่ข้าก็หาได้สะดุ้งหวาดกลั
พวกเราคงถาม ว่าทำไมจึงเห็นได้ ในเมื่อไม่มีตัวให้เห็น ตัวมันระเบิดกระเซ็นกระจายอ
เราค่อยมาต่อคืนพรุ่งนี้ เพราะคืนนี้ ดึกแล้ว ข้าเริ่มง่วง พรุ่งนี้เจอกันใหม่ จะอธิบายให้ ว่าทำไม
จึงยังเดินอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีร่างให้เดิน คืนนี้ หวัดดี
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 18 กันยายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง