ชี้ธรรมให้ผี ท่อนที่ 11

ชี้ธรรมให้ผี ท่อนที่ 11

308
0
แบ่งปัน

**** “ชี้ธรรมให้ผี ท่อนที่ 11” ****

ก๊อกๆๆๆๆ อาหารมาแล้ว ก๊อกๆๆๆๆๆ

อาหารเก่ายังไม่หมดถุงเลย มา..มากินกันต่อ

มีคนรอเรื่องผีท่านอั๋น ตั๋วไม่พอขาย คงต้องเพิ่มรอบ

วันรุ่งขึ้น ข้าต้องไปกิจนิมนต์ ที่อยุธยา ปรากฏว่า ผีท่านอั๋นตามไปด้วย

นี่..ผีท่านอั๋นเลิกตามเจ้าแก้ว แล้วมาตามข้าแทน

คนที่ผีตาม มีอยู่ สองกรณี

กรณีแรก ตามด้วยอำนาจแห่ง อกุศลจิต

กรณีที่สอง ตามด้วย กุศลจิต

หากตามด้วยกรณีแรก มันก็ซวยหน่อย และทุกคน มีสิทธิ์โดนผีตาม โดยเฉพาะ พวกปากพล่อยๆ

ของข้านี้ เวลาไปไหน ผีตามกันเป็นโขยง เพราะข้าชอบปากพล่อยไปชวน

ฉะนั้น คนที่มีเซ้นส์ด้านนี้ เวลาเจอข้า มักขนลุกขนพอง

มันขนลุกขนพอง ไม่ใช่เพราะข้าเจ๋ง

แต่เป็นเพราะพลังงานแห่งผีที่ตามข้าเป็นเหมือนแสงไฟ

ส่วนพวกเขาเป็นเหมือนแมลง แมลงมักมาตอมแสงไฟเป็นธรรมดา

เมื่อกลับมาจากอยุธยา พอขึ้นศาลา เห็นเจ้าแก้วกำลังนั่งโยก และเริ่มอ้วก

จึงกำหนดจิต บอกว่า หยุด…ๆๆๆ อย่าไปยุ่งเขา ให้เขานั่งสมาธิให้เสร็จก่อน

ซักพัก เจ้าแก้วก็คลายเป็นปกติ นี่..ตรงนี้ ข้าก็เข้าใจได้เลยว่า

คนที่เลี้ยงผี มันสั่งให้ผีทำอะไรให้ก็ได้ มันสั่งได้ ไม่ต้องพูด

แค่กำหนดจิต สั่งการลงไป ผลก็จะไปปรากฏตามที่เราต้องการ

และเหล่าผีที่มีกำลังทางจิตสูงๆ มันสามารถ สื่อกับเราทางมโนจิตได้

ทั้งเสียงและภาพ ตามกำลังและเหตุปัจจัยในวิบาก ของแต่ละคน

เรื่องพวกนี้ ทำกันได้ ข้าพิสูจน์แล้วกับตัวข้าเอง การเลี้ยงผีและนับถือผี

มันมีเหตุเป็นความจริงของมันอยู่ ไม่ใช่เป็นเรื่องทึกทักหรือคิดเอาเอง

แต่สิ่งเหล่านี้ มันขวางมรรคผลที่จะเข้าสู่ปัญญาญานแห่งการหลุดพ้น

ผีที่อยู่ในภาวะจิต เขาจะรู้อดีต และผลที่จะเป็นอนาคต ในระยะ หน้าหลัง 7 วันค่อนข้างแจ่มใส

บางครั้งที่ข้าทายใจเล่นๆ ไม่ได้รู้วาระจิตหรอก ผีเขาบอก

ข้าเองจนปัญญา ถ้าไม่ได้ผีมาช่วย มันก็ทายใจใครไม่ได้

อย่างท่านอั๋น เมื่อข้ากำหนดจิต ท่านก็หยุดเลย ท่านเชื่อฟัง

หากเรา เรามีกำลังแห่งจิตที่ละเอียด พอๆ กับอากาศวิญญาณ

เราก็สามารถ รู้เรื่องได้ทางจิตมโน ที่เขาส่งและเรากำหนดถามออกไป

นี่..เป็นอำนาจแห่งจิต ระหว่างจิต เมื่อมี เมื่อเป็นแล้ว จะทำให้เราหลงยึดกับสิ่งเหล่านี้

มันก็จะกลายเป็น อุปกิเลสทันที มันเป็นตัวขวางกั้นมรรคผล

มันไหลออกมาทางโลกธรรมแปด แต่เป็นสิ่งที่พวกเรา ชื่นชอบกัน โหยหากัน

เพราะมันทำให้เกิด สรรเสริญและลาภสักการะ

ทีนี้ สำหรับผู้ที่มีความชำนาญทางจิต เมื่อไปในสถานที่ใด มันก็มีอยู่สองนัยอีก

นัยแรก กำหนดจิต ถามจิต ก็จะได้คำตอบ

พวกนี้เรียกว่าได้ เจโตปริยญาณ

อีกนัยหนึ่งก็คือ กำหนดจิต ถามผีที่เป็นใหญ่ อยู่ที่นั้นเลย ก็จะรู้คำตอบ ที่เราต้องการ

อย่างข้านี้ เขาไม่เรียกว่าได้เจโตปริยญาณ

แต่ได้เพราะ ผีมันส่งสัญญาณให้ ข้าจึงได้รู้อะไรต่อมิอะไร เพราะมีผีช่วย

ข้อเสียก็คือ เรื่องที่ผีบอก มันไม่เป็นความจริงอะไรเลย

ถ้าถามคำถามที่กินช่วงเวลาลึกเกินกว่า ที่เขาเคยมีชีวิต

เพราะผีเอง ก็จำเขามา มันได้บันทึกการจำนั้นไว้ ก่อนเสียชีวิต

ถ้าข้อมูลเดิมๆ มาผิด เขาก็บันทึกมาผิดๆ เหมือนกัน

ฉะนั้น ผีส่งสัญญาณ จึงไม่ชัวร์ เท่าผู้ที่ได้เจโตปริยญาณ

มีคนเล่าให้ข้าฟังว่า วันที่เผาศพท่านอั๋น

พวกญาติๆ ได้นำปลามังกรที่เขารักและหวง มาใส่ตู้ไว้ข้างๆ ศพ ในวันเผา

นัยว่า จะมอบให้วัดไปเลี้ยงต่อ เพื่อเป็นการส่งมอบให้เขา

ปรากฏว่า ขณะที่จะเผาศพ จู่ๆ ตู้ปลา ก็เกิดการระเบิดแตกกระจาย ปลาตกลงมา

ทุกคนตกใจและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เรื่องนี้ ข้าจึงถามผีท่านอั๋น ว่าท่านรู้ไหม ว่าวันเผาศพร่างท่าน

ตู้ปลาที่ใส่ปลาของท่าน จู่ๆ มันก็ระเบิดแตกกระจาย

ผีท่านอั๋นบอกว่า เขารู้ซิ เพราะเขาเองนี่แหละ เป็นผู้ทำให้แตก

ข้าถามว่า ทำ ทำไม ในเมื่อเราก็จากรูปเหล่านี้ไปแล้ว

ผีท่านอั๋นบอกว่า เขาหวงของเขา เขาไม่ต้องการให้ใคร เขาจะเอาปลามาอยู่กับเขาด้วย

นี่..ผีเขาว่าอย่างนี้ แสดงว่า คนที่ตายไป เขาก็รู้ก็เห็นกิจกรรมทุกอย่าง ที่คนเราได้กระทำ

เพียงแต่เขา ไม่มีรูป เพื่อบันทึกสิ่งเหล่านั้นได้ เหมือนอย่างกับเรา

ที่สำคัญ เขามีพลังทางจิต สามารถทำให้ตู้ปลาแตก โดยไม่มีรูปไปกระแทกทำลายได้

นี่…เป็นแค่พลังแห่งจิตล้วนๆ

ปัญหาคือผีมันรู้ได้ไง ในเมื่อไม่มีอายตนะทางจักษุ

ผีบอกว่า เขาใช้จักษุผ่านทางร่างผู้มาในงานที่เคยมีสัญญาต่อกันได้

นี่แสดงว่า คนเราผีสามารถใช้ร่างได้ตลอด หากมีสัญญาต่อกัน และที่นั่น มีกระแสวิญญาน

การทำให้กระจกแตกระเบิดด้วยอำนาจจิต เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

ข้าถามว่า เขาทำได้ไง สอนข้ามั่ง

เขาบอกว่า ก็แค่ใช้อารมณ์ไม่ชอบ ไม่อยากให้มันเป็นของใคร ทำลายมันไปซะ

ใครๆ จะได้ไม่ต้องเอาของรักของหวงของเขาไป

นี่..ทำง่ายๆ แค่นี่เอง ผีเขาว่า

นี่แสดงว่า พลังเหล่านี้ มันมีอยู่ในตัวเราทุกคน เพียงแต่ เราดึงมันมาใช้ได้เป็นหรือเปล่า

การที่ผีท่านอั๋นทำได้ นั่นเพราะเขาไม่มีรูป เขามีแต่จิตล้วนๆ

แต่พวกเรามันติดรูป คือเอารูปเป็นตัวตน รูปมันขวางการทำงานแห่งพลังจิต

หากอยากมีกำลังแบบผีท่านอั๋น ท่านก็ต้องถอดถอนตัวตนออกจากรูปก่อน

ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะตัวกูมีกูกันทั้งนั้น

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เจ้าแก้วมันบอกว่า ผัวมันตายมาแล้ว 7 ปี มันไม่เคยฝันเห็นเลย

แต่เมื่อคืน เจ้าแก้ว มันฝันว่า ท่านอั๋นได้มาหาในฝัน ไม่รู้ฝันเองหรือเป็นเรื่องจริง

เพราะไม่เคยฝันถึงเลย ข้าก็เลยถามผีท่านอั๋น

เขาบอกว่า เขาไปหาเจ้าแก้วเอง ช่วงตี สอง

เขามีความสุขมาก ที่ได้อยู่ใกล้ และได้พูดคุยกับแก้ว

และเขาเอง ก็ไปหาลูกสาวด้วย แต่แทรกเข้าไปในภวังค์จิตไม่ได้

เพราะลูกสาว มีจิตที่สับสนและวุ่นวายแทรกตัวได้ยาก

ที่เข้าไม่ได้ เพราะภาวะจิต ไม่นิ่งเลย กระจายตลอด

นี่..นี่แสดงว่า บางคนที่เคยถามข้า ว่าได้นอนฝันถึงคนที่ตายไปแล้ว จะเป็นจริงไหมหนอ

มันเป็นได้ทั้งผีแทรกภวังค์เข้ามา กับเราปรุงแต่งขึ้นมาเอง

มันมีได้หลายๆ ปัจจัย แต่ยังไงก็แค่ฝัน มันไร้ภาวการณ์เป็นเจ้าของอาการในภวังค์

จริงไม่จริง ก็..ช่างแม่งมันเหอะ

ตื่นมามันก็ลืมสลายไปหมดแล้ว

อีกเรื่อง เมื่อท่านอั๋นเสียไปแล้ว มันมีนายร้อยตำรวจมาชอบเจ้าแก้ว

ปรากฏว่า เขานัดหมายที่จะมาหมั้นหมายกัน

แต่ก่อนถึงเวลาเพียงหนึ่งวัน ดันป่วยตายไม่ได้มาหมั้นหมาย ดั่งใจต้องการ

ข้าถามผีท่านอั๋น เขาบอกว่า ตัวเขานี่แหละ กระโดดขี่คอนายตำรวจผู้นั้นเอง

เพราะเขาไม่ต้องการ ให้ใครมาแย่งเจ้าแก้ว ออกไปจากใจเขา

เขาไม่ต้องการให้สิ่งที่เขารักเขาหวง ตกไปเป็นของๆ ใคร นี่..เขาบอกข้าอย่างนี้

นี่แสดงว่า ผีนี่ ทำอะไรได้หลายอย่างแท้

มิน่า..พวกบ้าอาคมมันถึงได้เลี้ยงผีกัน

เพราะอำนาจแห่งผี มันสามารถ ทำอะไรให้เกิดอะไรได้หลายอย่าง

แต่นี่..เป็นบาปอย่างมหันต์ ทั้งผีและผู้ต้องการ

ผู้ที่ทำและประพฤติเช่นนี้ ข้าจะบอกให้เลยว่า

เมื่อสิ้นชีพกายแตก ดวงจิตมีที่พักพิงอยู่ในนรกทันที

และเป็นมหานรกด้วย เรื่องเช่นนี้ พวกเราคงยากจะหยั่งถึง

ท่านอั๋น เข้ามาถามข้าในเช้าวันหนึ่งว่า วันที่ข้าแสดงธรรมเรื่องใบไม้แห่งความพรากนั้น

ใบโพธิ์เหล่านั้น ข้าเก็บมาจากพื้นที่หล่นร่วงลงมา หรือข้าขึ้นไปเด็ดเอา

ข้าบอกว่า ข้าก็เก็บเอาตามพื้น ขณะกวาดใบไม้ร่วง

เขาฟังได้แค่นั้น น้ำตาเขาก็ร่วงผลอย เจิ่งนองอาบเต็มหน้า

เขาหยิบใบโพธิ์ใบนั้น ที่ข้าเคยแสดงให้เขาออกมา เขาเก็บมันไว้ ผีเก็บใบโพธิ์ไว้

เขาจ้องมองใบโพธิ์ นัยตาเศร้า เจิ่งนองไปด้วยน้ำตา ลมหายใจอันเป็นรูปของเจ้าแก้ว ร้อนผ่าว

เขาจ้องใบโพธิ์ แล้วส่ายหน้า กัดฟันพร้อมหลับตา

เมื่อลืมตาขึ้นมาน้ำตาคลอ เขาถามว่า

นี่เป็นความจริงใช่ไหม ชีวิตเขา เปรียบเหมือนใบโพธิ์ใบนี้ใช่ไหม

เขาร้องให้โฮๆๆๆ ออกมา แทบผวามากอดข้า

แหม..ถ้าไม่ติดว่า เป็นร่างเจ้าแก้ว ข้าก็คงอนุเคราะห์

ข้ากระโดดถอยมาเมตรหนึ่ง พอเอาตีนยันไว้ได้

เขาบอกว่า มันเป็นธรรมที่แทงลงไปถึงก้นบึ้ง แห่งหัวใจ

มันเป็นธรรมที่ไม่มีใครสาธยายได้ตรงใจและความเป็นจริงได้เช่นนี้

เขาไม่เคยได้ยินได้ฟังธรรมเช่นนี้มาก่อนเลย ในหลายๆ พันชาติ ที่เขาได้มาเกิดมีรูป

นี่..เขาได้มาฟังในขณะที่ไร้รูป เขาเสียดาย….

เขาเอาใบโพธิ์ใบนั้น มาแนบอก และเขาบอกว่า เขาจะเก็บปกปักรักษามันไว้

มันคือสายใยแห่งธารธรรมที่หล่อเลี้ยง ภวังค์เขา

เขาก้มลงกราบข้า อย่างสวยงาม แต่ข้าไม่เห็นหรอก

เพราะตัวข้าลอยหายไปแล้วกับคำชมของผี

ผีท่านอั๋นได้เล่าอดีตชาติ ที่เคยมีมาต่อกัน และบอกกับข้าว่า

อาร์มี่ ลูกสาวข้า นั้นเป็นลูกของเขาเอง

อ้าว…นี่แกไปเป็นชู้กะเมียกูเมื่อไหร่ งะ ไอ้ผี อืม….ชักมีโกรธ..

วันนี้มีแวว ได้เตะปากผี เพราะมาอ้างว่า ลูกสาวอาร์มี่ เป็นลูกเขา

กำลังขยับตีนจะดีดปากผีหน่อย ผีบอกว่า

สมัยที่เขายังรุ่นๆ อยู่ เขาได้เสียกับเจ้าแก้ว

และได้ตั้งท้องขึ้นมา เพราะความกลัวพ่อ และความไม่พร้อม เขาและเจ้าแก้ว จึงพาไปทำแท้ง..

นี่…ลูกสาวของเขา ได้มาเกิดใหม่ เป็นลูกสาวที่น่ารัก ของหลวงพี่ เขาดีใจมากๆ

เขาบอกว่า ข้าเป็นดวงจิตที่มีบุญหนัก สว่างไสวมากๆ

เขาดีใจ ที่ลูกสาวเขา ได้มากำเนิดเกิดมา อยู่กับคนมีบุญ

ยังไม่ทันจะดีดปากผี ข้อหาเป็นชู้กะเมียข้า ข้าก็ลอยไปกับคำชมซะก่อนแล้ว

นี่แหละ…วัฏฏะ มันพัวพันโยงใยกันมา มันมีวิบากร่วมกันมา

คนที่ใกล้ชิด คนที่รู้จัก คนที่พบหา ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่เคยใกล้ชิดกับเราทั้งนั้น

เราอย่าได้ถือโกรธ ถือโทษด้วยทิฏฐิและมานะ ในอารมณ์ที่ไม่เข้าท่ากันเลย

วันหนึ่ง เราต้องจากกัน และต้องจากกันไปอย่างถาวร

แม้จะมีสายวิบากแห่งสัญญาโยงใยกัน แต่มันก็จำกันไม่ได้ซะแล้ว

มันเป็นใครกันก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เคยอยู่ใกล้ชิด และโหยหากัน

รักษาวันนี้ไว้ให้ดี ก่อนที่เราจะจากกันไปอย่างจริงๆ

พรุ่งนี้ ข้าจะโม้เรื่องที่ผีท่านอั๋น ให้ข้าช่วยไล่ อสูรกาย

ซึ่งก็คือ ผีนายร้อยตำรวจผู้นั้น ที่เขากระโดดขี่คอฆ่าด้วยตัวเขาเองวันนี้ คงพอแค่นี้ หวัดดี ทุกๆคน

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 5 มีนาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง