**** “เมื่ออกุศลวิบากมาให้ผล” ****
อกุศลกรรม.. คำๆ นี้ ช่างน่ากลัวต่อผู้ที่ต้องเผชิญ
พี่สาวคนหนึ่ง ที่รักและนับถือข้า กำลังเผชิญวิบากกรรมแห่ง อกุศลอย่างหนัก
ที่จริง พี่สาวแกเริ่มเผชิญมาร่วม สองปีแล้ว วิบากมาเป็นระลอกๆ ตกต่ำลงมาถึงจุดหนึ่ง กุศลก็เข้ามาหยุดยั้ง
แต่ใจที่ตกในกระแสแห่งอกุศล มันปกปิดความจริงที่เป็นปัญญา พิจารณาให้เห็นตรงไม่ได้
วิบากแห่งอกุศล ก็โถมน้ำหนักแรงขึ้น ๆๆ ที่สุด เกิดความแตกร้าวฉานในหมู่คณะ อันเป็นที่รัก
แตกแยกกันออกไปหมด แทบไม่เหลือหรอ คนที่เคยรัก คนที่เคยช่วยกัน
แตกคอผิดใจกันออกไป ด้วยเหตุแห่งความหวังดี หนึ่งในกลุ่มนั้น น้องสาวกระแต ก็อยู่ร่วมเหตุการณ์
อกุศลที่เป็นวิบากกรรม ล่วงเกินต่อผู้บริสุทธิ์ มันรุนแรงมาก หากท่านผู้นั้น เป็นผู้ทรงคุณธรรมจริงๆ
เราจะเอา ความคิดความรู้สึกของเราเข้าไปตัดสินท่าน…ไม่ได้เลย
ที่สุด รีสอร์ท ที่ยืนยาวมากว่า 10 ปี ก็มีอันต้องเปลี่ยนมือไป พร้อมๆ กับความเจ็บปวดของคนที่เคยเคียงใกล้
ไม่นานต่อจากนั้น ธุรกิจในส่วนที่ทำเงิน ก็เริ่มแตกแยกออกไป
เพื่อนที่รัก ที่ไว้ใจ กลับมาทำลายและฟ้องร้องกัน
ห้องพัก ที่เพิ่งลงทุนไปกว่า 40 ห้อง จากการกู้เงินธนาคารมาลงทุน ก็โดนยึดคืนไป
หลังจากที่ไม่หยุดคิด ว่าอะไรทำไมมันถึงได้เกิดขึ้นไวอะไรขนาดนั้น
เมื่อหันไปพึ่งทางไสยศาสตร์ มันก็ยิ่งลงเหวลึกลงไปเรื่อย
ที่สุด ร้านอันเป็นที่ตั้งเริ่มแรกที่ทำเงิน และสร้างชีวิตให้เติบใหญ่
จนมีเงินนับสิบล้าน ก็สลายไป กลายไปเป็นของคนอื่น โดยไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้เลย
และมันก็แย่ลงเรื่อยๆ เพราะใจที่มีแต่มานะ ด้วยจิตที่เป็นอกุศลต่อครูบาอาจารย์ที่พี่สาวเขานับถือ
อกุศลมันจะกินลามลึกลงไปเรื่อยๆ ที่สุด…ความเป็นครอบครัวที่แน่นแฟ้น ก็จะขาดสะบั้นลง…..นี่ น่าเศร้า
เดียวนี้…พี่สาวเขาแย่มากๆ และจะสิ้นชีวิตลงได้ในไม่ช้าหากใจยังมืดมน……ทำใจเหอะ
ส่วนลูกสาว ที่สุดก็จะต้านแรงอกุศลไม่ไหว อาจต้อง ฆ่าตัวตาย ทั้งๆ ที่รอดวิบากมาแล้ว
แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็ยังมีกุศลแห่งความดีเหลืออยู่ ที่พอจะรองรับ
แต่นั่นแหละ มันจะทำให้ชีวิตนี้ ต้องเผชิญความลำบาก ที่ไม่น่าเกิด
นี่คือ อกุศลกรรมที่มันมาให้ผล ในขณะที่ยังมีชีวิต
ที่จริงข้านี่ได้เตือนไปแล้ว ก่อนจะเกิดว่า สิ่งที่เราคิด ที่เราทำ ที่เราพูดต่อครูบาอาจารย์ หากมันไม่จริง
วิบากกรรมมันจะส่งผลหนักนะ มันจะคว่ำเราทั้งชีวิตและครอบครัวเลยทีเดียว
แต่พี่สาวเราเขาไม่กลัว เขาคิดว่า สิ่งที่เขาคิดนี่ มันเป็นเรื่องจริง และเขายอมรับได้หากมันเกิด เพราะความเข้าใจผิดของเขา
พระอาจารย์เอง ก็สอนให้ยอมรับผลของวิบาก ด้วยความเต็มใจไม่ใช่หรือ
ข้าเองได้เตือนไปหลายครั้ง ที่สุดก็ไม่เกิดประโยชน์
หลายคนจึงเกิดการเฝ้ามองผล
มนุษย์เรา เมื่อทำเลว คิดเลว พูดเลว ตราบใดที่อกุศลยังไม่มาให้ผล
ย่อมคิดว่า สิ่งเหล่านี้ มันไม่มีผล ไม่มีจริง ถึงมีก็พร้อมที่จะรับ
ต่อเมื่อใด ที่อกุศลกรรมมาให้ผล หากไม่มีปัญญา
วิบากแห่งอกุศล ก็จะให้ผลตลอดไป แก้ไม่หาย
แต่หาก สะดุดใจ ใคร่ครวญ และน้อมรับคำชี้แนะจากผู้ทรงคุณ
อกุศลนั้น จะค่อยๆ จางคลาย และกลับมายืนหยัดใหม่ด้วยกุศล ที่เคยกระทำไว้ ซึมแทรกออกมาให้ผล
สำคัญ…อยู่ที่ใจเขา หากใจยังแข็งกร้าว และดื้อดึง ใครก็ช่วยไม่ได้
ทำบุญมามากแค่ไหน ก็ช่วยไม่ได้ กุศลและอกุศล มันหักล้าง เลิกลบกลบหนี้กันไม่ได้
มันอยู่ที่ใจท่านจะต้านไหวไหม
นี่..เป็นอกุศลที่ลบหลู่ ครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณ ด้วยใจแห่งตัวตนที่ตัดสินเอา
ขึ้นชื่อว่า ครูบาอาจารย์ หากท่านไม่ได้เป็นผู้ทรงคุณ วิบากผล มีน้อย
และหากท่านเลวจริง ตามที่เราเห็น วิบากกรรมต่อกัน มันก็แค่ตัวต่อตัว คือไม่ดีต่อกันระหว่างกัน
แต่หากท่านเป็นผู้ทรงคุณ มีจิตเป็นอริยเจ้า วิบากนั้น เหมือนกับเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก
เพราะใจท่าน เป็นธรรมชาติแห่งความเป็น ธรรมดา
ของเรา มันไม่เป็นธรรมดา ของเรามันเป็นตัวตน ของเรามันคิดเอา นึกเอา ทึกทักเอาด้วยอารมณ์
ธรรมนี้พูดไปมันก็ลึกเกินไปอีก ดูเป็นเรื่องเพ้อเจ้างมงายข่มขู่
นี่เป็นเรื่อง วิบากแห่งอกุศลกรรม ที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว และพังลงด้วยความรวดเร็ว
เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ ไม่เกิดกับเรา เราก็คงเฉยๆ กับวิบากที่มันยังไม่เกิด และที่วิบากมันยังมาไม่ถึง
เราจึง…ไม่ค่อยจะเดือดร้อน และคิดเข้าข้างตนเองว่า ตัวเรายังคงถูกอยู่..!!
เดี๋ยวนี้พี่สาวเขา ลูกสาวไม่ต้องการเลี้ยงดู อ้างสาเหตุหลากหลาย
ขี้เยี่ยวออกมาไม่รู้ตัว เลอะเทอะคุ้งไปทั่วห้อง ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนคอยพยุง
ที่น่าสงสารก็คือ วิบากผล ทำให้ไม่มีใครมาช่วยดูแลเลย ไม่มีเลย..!!
นี่…เพียงแค่คำพูดชักชวนใครๆ ที่รู้จักคนที่ตัวเองนับถือว่า อย่าเข้าไปหา อย่าเข้าไปยุ่ง อย่าเข้าไปช่วยอะไร
ปล่อยให้ท่านอันเป็นครูบาอาจารย์ อยู่ของท่านไป ด้วยความคิดว่า
หากไม่มีใคร ครูบาอาจารย์ก็คงสำนึกได้ ว่าตัวเขานั้นสำคัญ
การชักจูงคน ไม่ให้ศรัทธา ด้วยคำแห่งข้อกล่าวหา เป็นกรรมที่มหันต์
เพราะครูบาอาจารย์ท่าน เขาทำเพื่อแผ่นดิน พี่สาวไม่เข้าใจว่า
กำลังทำลายแผ่นดิน ทำลายทุกสิ่งที่ท่านปรารถนาทำให้แผ่นดิน อย่างไม่หวังผลตอบแทน
กรรมนี้จึงหนัก มันจะขัดชีวิตให้มีแต่ความล่มจม หากเหตุไม่เกิด คำอธิบายนี้ก็เหมือนขู่
แต่เหตุมันเกิด และเกิดกันต่อๆ เป็นลูกโซ่ เราก็แค่นำมาเตือนใจเราไว้ ว่า อกุศลมันมีและให้ผลเร็ว
>> ลูกศิษย์ : พอจ. คับ แล้วหากเรานับถือครูบาอาจารย์ที่บริสุทธิ์จริงๆ แล้วมีคนมาต่อว่าเราว่าเรางมงาย เชื่อมากไป เค้าจะบาปมั้ยคับ
<< พระอาจารย์ : คนมาต่อว่า เขาก็ตัดสินตามความรู้สึกเขา เป็นกรรมอันเล็กน้อย ไม่มากมาย
แต่หากเราเป็นผู้บริสุทธิ์ และน้อมยอมรับว่าเรางมงาย ต่อครูบาอาจารย์ที่เราลงใจ และหากเขาไม่กล่าวขยายออกไป กรรมไม่หนัก
แต่หากขยายออกไป กรรมก็หนักตามกระแสแห่งความมีคุณธรรมของครูบาอาจารย์นั้นๆ
มันมีรายละเอียดแยกลงไปอีก ในเรื่องผลแห่งวิบาก
>> ลูกศิษย์ : กรรมที่มาให้ผล มันจะจบสิ้นลงไปไม๊คะ เมื่อเราได้เผชิญกับวิบากอกุศลแล้ว
<< พระอาจารย์ : ตราบใดที่ยังไม่เกิดปัญญา ยอมรับว่า นี่เป็นวิบากผลอันเกิดจากเรา
เมื่อถึงคราวใจเราเริ่มต้านวิบากอกุศลได้ อยู่กับมันได้ รอบแห่งวิบากจะเกิดขึ้นใหม่
ด้วยเหตุอันใดอันหนึ่งเพื่อให้เรานี้ต้องเผชิญและแก้ปัญหากับมันอีก
และมันจะเกิดซ้ำๆเช่นนี้ไม่รู้จบ จนกว่ากุศลและปัญญาจะเข้ามาเจือจางมันด้วยความหนาแน่น ให้จางคลาย
อาจใช้เวลามากชาติที่ต้องเผชิญ เพื่อแก้ไขอันเป็นธรรมชาติแห่งวิบากที่ให้ผล
เราจึงไม่ควรสร้างอกุศลกรรม กับผู้ทรงคุณ
การด่าว่าผู้ทรงคุณ เพราะเราเห็นว่า มันไม่ควรอันเกิดจากความคิดเรานี่ กรรมเล็กน้อย ไม่เป็นไร
แต่หากมีการขยายเพราะความไม่ชอบใจเพราะเราเป็นเหตุ
ใส่ไฟ หาเรื่อง ให้ร้ายลามไปด้วยความที่ไม่เป็นความจริง อันเกิดจากสันดานเราพล่าม
ตรงนี้อกุศลวิบากให้ผลแรง เร็ว และต่อเนื่อง ยากที่จะคืนมาดีได้ในอัตภาพ
ที่สำคัญ มันอาจต่อเนื่องให้สู่ภูมิแห่งอบาย อันมีทุกคติเป็นที่ไป ด้วยใจที่มีแต่ความเครียดแค้น เพราะเหตุแห่งความไม่ชอบใจ
วันนี้ ขอลาแค่นี้ เพราะสะท้อนใจที่พี่สาวเรา ต้องรับผลแห่งอกุศลในขณะยังมีชีวิตอยู่ และวิบากนี้ ยังมีผลส่งต่อไปหลังกายแตก
สวัสดียามเย็นพระธรรมเทศนา ณ วันที่ 28 มกราคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
