ดับรูป – นาม ตอน 3

ดับรูป – นาม ตอน 3

1176
0
แบ่งปัน

>> ลูกศิษย์ : สาธุธรรมครับ งดงามแท้

<< พระอาจารย์ : ฉะนั้น การพิจารณาอันลุ่มลึกนี้ เป็นการยากมากที่ปุถุชน จะเข้าไปรู้ ตามยากรู้ยาก แต่ก็สามารถเข้าถึงการดับได้เช่นกัน มันต้องพิจารณาละเอียดลงไปอีกรอบหนึ่ง โดยโยงนามแต่ละตัวเข้าไปแยกกาล แยกลงไปเรื่อยๆ เครื่องมือที่ใช้แยกในขั้นนี้ ก็คือ มหาสติ มหาปัญญา ดูแล้วมันสุดวิสัยคนทั้งหลายที่จะตามรู้ได้ เพื่อนเอ๋ย มันคงยากจะตามรู้ เพราะมันซ้อนลงไป ซ้อนลงไปๆๆๆๆๆๆๆๆ

>> ลูกศิษย์ : เอาน่า อย่างน้อยวันนี้ ก็เข้าได้ถึงรอบนอกแล้ว ค่ะ…!
>> ลูกศิษย์ : นี่รอบเดียวยังขนาดนี้ ถ้าซ้อนกาลอ้วกแน่ค้า
>> ลูกศิษย์ : ค่อยๆๆๆเจาะลงไปๆๆๆๆ

<< พระอาจารย์ : ไม่ใช่วิสัยเราจะไปรับรู้ซะแล้ว ไม่ใช่ข้าไม่บอก แต่บอกไปเราก็หูหนวก มันไม่ได้ยิน

>> ลูกศิษย์ : สาธุครับ
>> ลูกศิษย์ : บอกไปก็เอ๋อ รับประทาน
>> ลูกศิษย์ : งดงามแร้ว

<< พระอาจารย์ : แต่จริงแล้วมันง่ายๆดอก ไม่ได้ยุ่งยากกันอย่างนี้

>> ลูกศิษย์ : ค่ะ
>> ลูกศิษย์ : ง่ายยังไงค่ะลต.
>> ลูกศิษย์ : เอาไว้พิจารนา บ่อยๆค่อยๆลอกออกที่ละชั้น
>> ลูกศิษย์ : สุดท้ายแล้ว ก็ช่างมัน

<< พระอาจารย์ : ที่ยาก เพราะเรามันอยากรู้เยอะๆ ถ้าไม่เสือกอยากรู้เรื่องพวกนี้นะ ฝึกด้วยใจที่เอาจริงเอาจัง ตายเป็นตายตามสัจธรรม ไม่นานก็บรรลุ

>> ลูกศิษย์ : งั้นไม่อยากรู้ มันก็ผิดวิสัย คนฉลาดๆ(น้อย)อย่างปอค่ะลต.
>> ลูกศิษย์ : นู๋ก็ว่างั้นแหละ

<< พระอาจารย์ : รู้เรื่องพวกนี้ไม่บรรลุ เป็นแค่ความรู้ แต่ไม่รู้ก็ไม่บรรลุ

>> ลูกศิษย์ : เห็นไหมลต.มันก็ต้องรู้
>> ลูกศิษย์ : รู้ไปไม่ได้เอามา ใช้จิงก็ เปล่าประโยชน์

<< พระอาจารย์ : เพราะผู้ที่จะรู้เรื่องพวกนี้ มันบรรลุก่อนที่จะรู้ พอบรรลุแล้ว มันเข้าใจ
พอเข้าใจมันก็สาธยายได้ คนฟังการสาธยายแล้วเอาไปทำ มันจะบรรลุได้ไง มันเป็นความรู้ ไม่ใช่ความจริง เพราะมันต้องบรรลุก่อนที่จะรู้ นี่เสือกรู้ก่อนที่จะบรรลุ

>> ลูกศิษย์ : ใช่ๆลต.อธิบายปอ เรื่องนั้นมาหลายรอบมาก ไม่เคยผิดเพี้ยนจากเดิม
>> ลูกศิษย์ : 55555 เห็นเขา คุยอวด กันจัง เรื่องธรรมในเฟส เลยสงสัย 555
>> ลูกศิษย์ : ลต. งั้นแสดงว่าคนที่เอาแต่ผลไปทำ ก็บรรลุยาก

<< พระอาจารย์ : พุทธเรา ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น และไม่ได้ยากอย่างนี้ รอบแรกๆ เข้าใจ ใช่ๆๆๆ พอรอบลึกๆเข้า ชักมึน ธรรมพวกนี้ ต้องมาฟังการอธิบายจากปาก ชี้เหตุ ชี้ผล เพื่อความเข้าใจ ไม่ใช่ เพื่อความจำ ท่านบรรลุธรรมแห่งความหลุดพ้นแล้ว ท่านถึงเข้าใจ และนำธรรมที่เข้าถึงได้นั้น มาอธิบายแยกย่อยให้ฟัง ถึงความเป็นจริง ธรรมมันมีกาลถึงกันหมด สำหรับผู้เข้าถึง จึงเป็นใจที่ไร้กาล อยู่เหนือภาวะแห่งกาล พวกเรา นำธรรมที่อยู่เหนือภาวะภาชนะรองรับของเรา รับเท่าไหร่ ก็ล้นออกหมด เรานำธรรมแห่งพระอริยเจ้า มาเป็นเจ้าของผู้รู้ รู้ยังไง ก็รู้แค่ปุถุชนรู้ จึงกลายเป็นรู้อย่างมานะ รู้อย่างตัวตนไว้ฟาดฟันผู้รู้ที่ไม่เห็นด้วย

ธรรมละเอียดเช่นนี้ ท่านบรรลุแล้วรู้ ไม่ใช่รู้ แล้วไปบรรลุ

หุหุหุ ตลกดี ชาวพุทธเรา คงไม่มีใครบ้าอธิบายสดๆอย่างข้า
แต่ข้าอธิบายได้ เพราะพระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมจากพระโอษฐ์ ให้ข้าฟังทุกวัน ข้าจึงมีเรื่องมาโม้ได้ หุหุหุ.. พอแค่นี้.!!