บุญแห่งการไถ่ชีวิตสัตว์

บุญแห่งการไถ่ชีวิตสัตว์

450
0
แบ่งปัน

***** “บุญแห่งการไถ่ชีวิตสัตว์” ******

สวัสดี กับทุกคน ตอนนี้ ก็มืดตื๋ออยู่ วันนี้ เรามาคุยกันถึงเรื่อง อานิสงส์ แห่งการไถ่ชีวิตสัตว์

เราคงเคย ได้ยินมาบ้างแล้วว่า บางที่เขา ไถ่ชีวิตโคกระบือกัน เรานี่เสือกไถ่นกกระจอกเทศ

ที่จริงอานิสงส์แห่งการ ไถ่ชีวิตสัตว์นี้ มันมีสูง มันขึ้นกับเจตนา ที่จะไถ่ออกมา

บางครั้ง ไถ่ออกมาแล้ว ก็ไม่รู้จะนำไปไว้ที่ไหน ก็เลยคิดว่า เอาไปปล่อยวัด

อย่างนี้ เป็นบาปกับใจนะท่าน หากผู้อยู่ในวัด ไม่ยินดี และไม่รักสัตว์ บุญอันนี้ ก็จะไปเป็นวิบากกรรมให้กับเรา

เดี๋ยวนี้ บางวัด หรือบางคณะ หรือบางมูลนิธิ จัดพิธี ไถ่ชีวิตโคกระบือ เพื่อหวังเงินรายได้เข้าวัด

เขาจัดเอายอดเงิน และทำกันเป็นธุรกิจกันก็มี อานิสงส์ ของการไถ่ชีวิตนั้น มีสูง แต่ก็ขึ้นด้วยเงื่อนไขแห่งเหตุปัจจัยด้วย

เพราะในความเป็นจริง เราไม่สามารถไถ่ถอนได้ทุกชีวิต

การกระทำ ต้องมีเจตนา ในการกระทำ คือช่วยชีวิตจริงๆ ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อโปรโมทหาตังค์

นั้นคือ ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ได้เป็นไปเพื่อพวกพ้อง ไม่ได้เป็นไปเพื่อโลกธรรมแปด

จึงดูว่ามันก็ยากๆ อยู่ และยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและเหตุปัจจัยอย่างอื่นอีก

ทำไมจึงมีเงื่อนไขเหตุปัจจัยเยอะ แค่ทำๆ ไป โดยไม่ต้องคิดอะไร ก็ได้ไม่ใช่หรือ

ตรงนี้..มันก็ใช่ แต่มันขาดผลกำไรที่ได้ทำไปบานเลย หากไม่รู้

การรู้ผล และมีที่ตั้งแห่งใจ จะทำให้ทานนั้น ที่แค่ทำๆไป โดยไม่หวังอะไรก็พอแล้ว อานิสงส์มันน้อยทุกอย่างที่เราทำ

เราควรรู้ ว่าทำแล้วได้อะไร เรียกว่า เราทำอย่างมีปัญญา รึจะทำอย่างโง่ๆ ก็ไม่ว่านะ

การกระทำทานอันเป็นเครื่องไถ่ชีวิตมันเป็นวัตถุบุญอย่างหนึ่ง ต้องไปดูเจตนา ของผู้ริเริ่ม ว่าต้องการอะไร

นำสัตว์มาแล้ว เป็นภาระไหม มีคนดูแลและรักเอ็นดูแค่ไหน เข้าใจเรื่องชีวิตของสัตว์ที่มาเสวยภูมิอยู่แค่ไหน

ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่นี่ ที่ทำนี้ ทำเพื่อ พี่น้องอันเป็นที่รักทุกคน โม้อย่างนี้ ถ้าไม่ชอบใจกัน มันก็คงเขม่นกันอีก

เรื่องที่ทำนี้ ทำเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน กับที่ใครเขาทำกัน

เพราะที่ตรงนี้ ไม่ได้ต้องการ เลี้ยงสัตว์อะไรหรอก มันยุ่งยากและเป็นภาระ หากคิดอย่างโลกๆ

แต่ที่ทำกันนี้ เพื่อพวกเราทุกคน และลูกหลานในวันข้างหน้าด้วย อย่างอื่นคงไม่อธิบายแล้ว จะมุ่งถึงอนิสงส์ให้ฟัง

สัตว์พวกนี้ จะถูกฆ่าในอีกไม่กี่เดือน นี่กล่าวถึงนกกระจอกเทศที่นำมา เพื่อนำมาเป็นอาหาร

หากถามว่า ทำไมไม่เอาตัวที่กำลังจะโดนฆ่า จะได้ช่วยชีวิตในขณะนั้น

ขอตอบว่า หากนำเอาตัวใหญ่มา ความเชื่องและไม่คุ้นเคย มันถีบข้าตายแน่ เป็นกรรมกันอีก

การขนส่งลำบากควบคุมยากมีความไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง

ที่จริง มีคนแสดงเจตนา นำมาให้ แต่สัตว์มันโตแล้ว เขาขี้เกียจเลี้ยง แต่เราไม่เอา มันจะทำความลำบากให้เราและสัตว์ได้ จึงปฏิเสธไป

และนี่ เป็นที่มาของการคิดที่จะนำมาเลี้ยง การเลี้ยง มันควรอยู่กับคน อย่างคุ้นเคย และเป็นที่รักของผู้มาเยือน

การที่เราร่วมกันทำกุศลคนละเล็กละน้อย มันจะภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วม

ในบุญญพลัง รุ่นหลังๆ จะรัก และหวงแหนในสัตว์ ที่เราได้ช่วยชีวิตมันไว้

ผลก็คือ อายุขัย ของเรา เติมเต็มขึ้น โรคภัยเบียดเบียน เจือจางลง

ผู้ที่ปล่อยชีวิตสัตว์ โดยไม่คิดหวังผลตอบแทนจากสัตว์ ย่อมเป็นที่รัก และมีความเป็นอิสระแห่งชีวิตสูง

ยิ่งหากสัตว์นั้นมีชีวิตยืนยาว อานิสงส์ทั้งหลาย จะคืนสู่ผู้ที่ได้สละค่าใช้จ่าย ช่วยชีวิตมัน

วิบากกรรมอันเป็นผลที่จะต้องเผชิญ มันเจือจางลง และยังผลให้ร่างกาย คือรูปนี้ แข็งแรงขึ้น ตามผลแห่งเจตนาของวิบาก

ผู้ที่ติดขัด ทางการงานก็ดี เพื่อนฝูงก็ดี ทางการค้าก็ดี หรืออะไรที่ติดขัดอยู่ ลองอธิฐานดู มันจะคล่องขึ้น นี่เป็นผลแห่งวิบาก

อธิบายคงเข้าใจยาก เพราะมันเป็นเรื่องโปแกรมจิต แต่หากใครได้ญาณบุพเพนิวาสา เรื่องเหล่านี้ จะเข้าใจ และรู้เหตุ

เมื่อสาวผลที่แต่ละชาติ ลงไปหาเหตุ จะเห็นว่าเกิดจากการให้ทานโดยการมอบชีวิตให้ เป็นส่วนใหญ่

ทั้งการมอบชีวิตของเรา และ การให้ชีวิตคืนเขาไป เป็นกุศลใหญ่ ที่มีผลให้ผู้ที่กระทำ เป็นผู้ที่มี วรรณสูง

เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา เกิดอยู่ในภูมิ ที่ร่ำรวย มีปฏิภาณทางปัญญาสูง

ชีวิตไม่ตกต่ำ วรรณผ่องใส ไม่เป็นโรคภัยใข้เจ็บ อายุขัยเต็มบริบูรณ์ ไม่สูญเสียรูปกายก่อนกำหนดแห่งอายุขัย

เพราะเหตุแห่งวิบาก ได้ทำบุญ ที่เป็นเลือดเนื้อ แห่งกาย ให้ชีวิตแห่งสรรพสัตว์ ได้อาศัยอยู่

และที่สำคัญ ได้ช่วยให้สัตว์เหล่านั้นที่เลี้ยงดูด้วยความรัก พ้นภูมิอบาย ไปเกิดเป็นมนุษย์

ยังผลให้ผู้ที่ได้ร่วมกระทำ ได้ยกจิตเลื่อนภูมิที่สูงขึ้น เข้าสู่ความเป็นอริย ตามปัญญา และมุ่งหน้า เข้านิพพานได้

เพราะเหตุปัจจัยแห่งการกระทำ มามีผลเกื้อกูล

ทำไมถึงเกื้อกูล ก็เพราะตัวข้าเอง เป็นคนที่ยอมรับวิบากแห่งผลที่ทุกๆ คนได้กระทำไว้ ด้วยตัวข้าเอง

นี่คงเป็นเรื่องโม้ แต่ข้าพูดจริงๆ ทุกอย่างมันต้องอาศัยเหตุปัจจัย เหตุปัจจัยนี้ ข้ารับไว้ เพื่อให้ผู้ร่วมทำ ได้ผลยังกุศลให้เกิดชาตินี้

ยังไงก็ต้องจากกัน มันมีธรรมชาติ ที่ลึกล้ำซึ่งเราเข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจ อีกมาก

แต่ความรักที่ข้ามีต่อสัตว์ และไม่รู้สึกถึงความเป็นภาระ จะทำให้กุศลหนนี้ มีความแรงกล้า จึงขอโมทนามา กับผู้ที่ได้ร่วมบุญร่วมกุศลด้วย

ชีวิตของท่าน จะดีขึ้นอย่างแน่นอน และตลอดไป ตราบใดที่ข้า ยังมีชีวิตและยังรักสัตว์เหล่านี้เสมือนลูกที่ใกล้ชิด

ที่เลี้ยงดูนี้ ข้าได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ เป็นพี่เป็นน้องเป็นพ่อเป็นแม่ ของพวกเราทั้งนั้น ในอดีต

ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อ อนุเคราะห์ พวกเราและท่านทั้งหลายที่อยู่ในอบาย

ยังมีเรื่องมากมาย ที่แทบไม่น่าเชื่อ แต่โม้ไป มันทำให้ใครๆ คิดไปในทางลบได้แต่ข้าเข้าใจ ว่ามันเป็นธรรมดาของสัตว์โลก

มันเป็นเรื่องของสมมุติแห่งโปรแกรมจิตทั้งนั้น เพียงแต่เรามองไม่เห็น ทั้งๆ ที่อยู่ตรงหน้า นี่ อยู่กับความหนาวเย็นอันมืดมิด แต่มีความสุขที่ได้แสดงธรรมในบางเรื่อง

>> ลูกศิษย์ : สาธุ คะภูมิใจ ที่วันนี้ได้ทำขนมแล้วเอากำไร จากการขายไปไถ่นก มีกุสโลบายดี ตัดกำลังใจได้เยอะเลย

<< พระอาจารย์ : ฮ่าๆๆ เราทำไป เพื่อเด็กน้อยๆ ที่เกิดมาแล้ว กำลังจะเกิด และรอคอยที่จะมาเกิด

เขาเหล่านั้น ได้อานิสงส์จากเราเต็มเปี่ยมเหล่าพรหมเทวา ยิ้มแฉ่ง กับเหล่าลูกๆ หลานๆ

การไถ่ชีวิตครั้งนี้ มันเป็นเหตุและปัจจัยแห่งกุโลบาย ในการสร้างบุญกุศลต่อชีวิตเราเองที่มันแย่ๆ

เงินส่วนกลางที่ใครๆ ต่างร่วมโมทนามามอบให้ข้า ในการไปอินเดีย ร่วมสร้างเศียรองค์พระนะจ๊ะ เป็นมหาทานจ้า ข้านั้นไม่เอา

เป็นเงินตอบแทนคุณแผ่นดิน สำหรับพวกเรา ทุกบุญที่ข้าทำ ข้าไม่เอา ขอยกให้แก่ทุกๆ คนทั้งหมดเลย

เพื่อเป็นเสบียงตามข้ามา ขอเป็นกำลังใจ บุญทั้งหลายนี้ ข้าไม่ปรารถนา แต่จะทำให้เพื่อเหล่าน้องพี่เต็มที่ เท่าที่ชีวิตนี้ครองสังขารอยู่

ข้าไม่จำเป็นต้องใช้บุญกุศลแล้ว ยกให้ทุกๆ คนเลย เป็นเสบียงบุญในการที่ได้ร่วมเกิดกันมา

นี่แหละ ทำเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน อันเป็นพ่อแม่ที่ให้อาศัยกินอยู่ตลอดมา หลายๆ อสงไขย

ทำตอบแทนแค่นี้ น้อยนิดเดียว ทำไมข้าจะทำคุณเพื่อตอบแทนไม่ได้ เต็มใจ ขอส้าาาธุคุณ หวัดดีๆ

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 29 มกราคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง