รับรู้เรื่องวิญญานก็ถือว่าโชคดี

รับรู้เรื่องวิญญานก็ถือว่าโชคดี

577
0
แบ่งปัน

****** “รับรู้เรื่องวิญญานก็ถือว่าโชคดี” ******

เรื่องวิญญานต่างๆ ที่เขมรนี่ ทุกคนร่วมร้อยกว่าชีวิตเป็นผู้ร่วมเผชิญ

ย่อมแสดงให้เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างเหนือธรรมชาตินั้นย่อมมี

เพียงแต่การมีนั้น มันก็มีของมันเช่นนั้นแหละ เป็นธรรมชาติของมัน

ข้านี่แค่ชี้ให้เห็นและถอดถอนความงมงายที่เราไม่รู้ ให้ทุกคนได้เห็นว่า

สรรพสิ่งอันหลากหลาย มันก็มีความซับซ้อนอันเป็นธรรมดา ธรรมชาติของมันอยู่

เรื่องพลังงานต่างๆ ก็เช่นกัน มันมีของมันอยู่

เป็นเพียงแต่ว่า เรามีกำลังพอให้เขาได้แสดงตน เพื่อให้เราได้รับทราบ

หรือมีกำลังมากพอที่จะช่วยพวกเขาได้แค่ไหนก็เท่านั้น

ความบริสุทธิ์แห่งเพศพรหมจรรย์ ที่มีกำลังแห่งศีล สมาธิ ปัญญา

หากบริสุทธิ์จริงและมีกำลังเพียงพอ

บุรุษนั้นย่อมเป็นที่ต้องการของเหล่าสัตว์เพื่อยังความช่วยเหลือให้เกิดแก่เขา

ความสว่างแห่งใจเรา เขาทั้งหลายย่อมต้องการที่จะพึ่งพิง เพื่อหาทางออกแห่งหนทาง

………..

วันศุกร์ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

พุทธสถานบุญญพลังเกาะกลางน้ำขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ผู้คนทั้งเมืองทั้งประเทศต่างนอบน้อมกราบไหว้ เจ้าเจ๊ะเจ้าจอมกันทั่วเมือง เพื่อให้ตัวเขาพ้นทุกข์

แต่ผู้ที่ดลบันดาลให้เขาพ้นทุกข์ กลับมีทุกข์ที่ผู้คนทั้งหลายต่างคาดไม่ถึงอยู่เช่นกัน

ทุกๆชีวิต ต่างมีความทุกข์ที่ไม่เสมอกัน แต่มีทุกข์เสมอกันเหมือนกันหมด

ขอให้มีดวงตาเห็นหนทางเดินออกไปเสียจากทางแห่งความทุกข์ทั้งปวง

วิญญาณที่โหยหิว เมื่อโดนปลดปล่อย มันก็แบ่งออกเป็นสองพวก

พวกแรกไปสู่สุคติ อีกพวกมุ่งหาอาหารตนตามสัญญาวิบากแห่งความโหยหิว

พวกเราหลายคนปวดท้องอาเจียน เมื่อกลับมาจากเขาพนมกุเลน

อันเขาพนมกุเลนนี่ เรียกตามภาษาเราก็คือเขาพระสุเมรุ

เป็นที่ตั้งของมิติฟ้าและดินที่เชื่อมโยงต่อกันระหว่างโลกมนุษย์กับชั้นเทพพรหมตามคติความเชื่อ

หลายคนเข้าใจว่า เกิดจากอาหารเป็นพิษ

จึงคาดเดาและคะเนจากการกินอะไรเข้าไปผิดสำแดง

เพราะมันไม่ได้เกิดกับทุกๆ คน

ข้าได้อาราธนาน้ำพระพุทธมนต์ อัญเชิญองค์พุทธคุณ ธรรมคุณ สงฆคุณจากพระพุทธชินสีห์เจ้า

ให้ขจัดสิ้นถึงเพทภัยทั้งหลายทั้งปวงให้มลายหายไป

จิตนั้น ต้องแก้ด้วยจิต ไม่ใช่แก้ด้วยยาที่พวกเราคิดและเข้าใจกัน

ยานั้น ไว้รักษาหลังจากที่พลังงานแห่งจิตนี้มันจากไป เช่นนี้ก็โอเค

ยามค่ำคืน หลายคนจะมีอาการหนักลุกแทบไม่ไหว

แต่ข้าก็เรียกให้เข้ามากินน้ำพุทธมนต์ครึ่งแก้ว ซึ่งทุกคนก็หาย

บางคนเบ้าตาคล้ำและมีกระแสพลังงานจนสัมผัสได้

แต่เมื่อได้น้ำเจริญพุทธมนต์ ดื่มไปซักครู่ อาการต่างๆ และสีหน้าจะเป็นปกติกลับมาเหมือนเดิม

คุณหมอของเราก็โดน รักษาอาการตัวเองไม่ได้

อ้วกออกมาเป็นน้ำสีดำ แถมมีเส้นผมติดออกมาด้วย

ทั้งป่วยตัวร้อนหนาวสั่นท้องร่วงอ้วกแล้วอ้วกอีก

ตาโรยปากซีดเขียวคล้ำแทบทรงกายไม่อยู่

เมื่อได้ดื่มน้ำพุทธมนต์เข้าไป คุณหมอของเราก็อ้วกออกมาเป็นน้ำสีดำกองใหญ่

จากนั้นอาการทั้งหลายก็ทุเลาลง จนมีอาการเป็นปกติ

และไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนอีกเลย

พลังงานที่อธิฐานจิตลงไปสู่น้ำนั้นบริสุทธิ์

ความบริสุทธิ์นั้นได้เข้าไปซะล้าง ความอัปมงคลต่างๆ ได้

เจตนาของผู้ส่งกระแสนี่เป็นสำคัญ

แต่ก็ใช่ว่า น้ำที่เจริญพุทธมนต์ จะมีความขลังและศักดิ์สิทธิ ดั่งที่คนทั้งหลายเข้าใจ

น้ำพุทธมนต์เป็นสื่อความบริสุทธิ์จากใจ เพื่อแสดงเจตนา ให้สัตว์ทั้งหลาย ได้พ้นทุกข์จากความแห้งแล้ง

ความบริสุทธิ์ที่ชะโลมไป

จะไปหลั่งไหลชะล้างเสนียญจัญไรออกไปจากกาย

ทำให้พวกเราทั้งหลาย มีแรงต้านและฟื้นกำลังกันขึ้นมา

…….

บทขยายธรรมเพิ่มเติม
จากเรื่อง …
*** ดวงวิญญาณแห่งเจ้าเจ๊ะเจ้าจอม ***

หวัดดีๆ

ใครยังท้องร่วงมั่ง
ท้องร่วงนี่ไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ
แต่เกิดจากพลังงานที่เรียกว่าผีมันเข้าไปเกาะ

ท้องร่วงนี่ จะเป็นอีกอาการหนึ่ง
ต้องถ่ายตลอดแบบหมดเรี่ยวแรง
แสบตูดทีเดียว
แต่พลังงานที่เข้าไปเกาะนั้น
มันทำให้ธาตุเราปั่นป่วน

ที่สำคัญ .. มันเกาะกระเพาะและลำไส้
สาเหตุที่เกาะกระเพาะและลำไส้
เพราะพวกเขาเพิ่งได้รับการปลดปล่อย
แหล่งอาหารตามลักษณะสัญญาภวังค์
ก็คือกระเพาะและลำไส้

ด้วยเหตุนี้
ภาวะการปั่นป่วนแห่งธาตุ
ทำให้ท้องเราร่วง
แก้ได้โดยการล้างด้วยน้ำพุทธมนต์
เรื่องเช่นนี้มันมองไม่เห็น
และกินยาก็ไม่หาย
จะเห็นว่าเมื่อทุกคนได้กินน้ำมนต์
อาการจะทุเลาลง
และไปไหนต่อไหนได้

แต่เมื่อกลับมาที่โรงแรม
อาการก็จะสำแดงอีก
มันผิดลักษณะธรรมชาติของคนท้องร่วง

ที่บางคนเป็นอีก
มันเป็นวิญญานที่ยังหลงเหลืออยู่
แก้ได้โดยการกินน้ำพุทธมนต์เข้าไป

เอื้อยเองมันเป็นหมอ
มันก็ยังโดน อาเจียนออกมาเป็นเส้นผม
และเป็นน้ำสีดำ กินยาก็ไม่หาย

แต่เมื่อกินน้ำพุทธมนต์
ก็เกิดอาเจียนอีกครั้ง เป็นสีดำ
ไม่นาน ก็หายปลิดทิ้ง ไม่เป็นอีกเลย

คนที่น่าเป็นห่วงคือเจ้าหยก
ที่เดินทางกลับก่อน
รายนี้พลังงานเกาะติดไปด้วย
ก็ค่อยว่ากันไป

ส่วนเจ้าเดี่ยว พอจิตตก
วิญญานที่ป่าช้า ก็ตามเข้าแทรก
ขี้แตกหมดแรงเหมือนกัน

ภาวะจิตใจนี่เป็นเหตุหลัก
บวกกับพันธะสัญญาวิบากในอดีตที่ต้องเผชิญ
เราก็แค่ชดใช้กันไป

แต่ไม่เป็นไร ข้ายังอยู่
ทุกคนยังคงมีที่เกาะไม่จมลงไปในกระแสหรอก

วัตถุต่างๆ ที่เรา มีกัน
มันเป็นตัวป้องกันชั้นแรกๆ อยู่แล้ว
อย่างมากก็แค่เกาะขออาหาร
เสร็จแล้วก็จบๆ กันไป
เราก็หาย

เรื่องพวกนี้ หลายคนก็มองว่าเพ้อเจ้อ และดูว่าเป็นไสยยะงมงาย

นี่..เข้าใจเช่นนี้ก็ไม่เป็นไร

ข้าเองก็ไม่ได้เดินทางไปเขมรเพื่ออะไรกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ไปโปรดใคร หรือยุ่งเกี่ยวกับเหล่าวิญญานหรือเรื่องพวกนี้

แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนของเรา ข้าก็ต้องแก้ไขเท่าที่ภูมิปัญญามี

เราไม่ต้องการให้เกิด แต่มันก็เกิด บังคับมันไม่ได้

เกิดแล้วก็ต้องแก้กันไปตามเหตุปัจจัย

สิ่งที่เกิดเราก็นำมาเล่าขานกันฟัง ไม่ได้ชี้นำให้เกิดความงมงายหรือยกตัวอะไร

เขมรนี่ มันยังมีอะไรที่ยังหลงเหลือความลึกลับอยู่

ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคุกรุ่นคุ่นแค้นฝังใจกับการกระทำของพวกชาติเดียวกัน

การผูกพันทางไสยเวทย์อะไรๆก็ยังมี

ส่วนที่ดีๆก็มีเยอะ เราก็เลือกๆและทิ้งมันไปตามเหตุและปัจจัยก็แล้วกัน

โอเค .. นอนได้แล้ว
หวัดดี
———-
พระธรรมเทศนาวันพุธที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
พุทธสถานบุญญพลังเกาะกลางน้ำ