อีกสองวันร่วมกันสะดึงผ้าวันกฐิน

อีกสองวันร่วมกันสะดึงผ้าวันกฐิน

600
0
แบ่งปัน

***** “อีกสองวันร่วมกันสะดึงผ้าวันกฐิน” *****

ทุกปีหลังออกพรรษา ที่บุญญพลังจะนำผ้าจีวรที่เก่าคร่ำ มาทำการปะ เย็บ และย้อมขึ้นมาใหม่

นี่เป็นการร่วมทำกฐินโดยตรงตามโบราณกาล ตั้งแต่สมัยพุทธกาล

ความภูมิใจ ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนได้นำผ้ามาเย็บมาปัก ด้วยมือของเขาเอง ย้อมและตากแห้งพับอย่างดี

เพื่อเป็นจีวรมอบถวายให้แก่ครูบาอาจารย์อันเป็นภิกษุ นี่เป็นบุญโดยตรงที่พระพุทธองค์ได้ทางสรรเสริญ

การทำกฐินนี้ พุทธเราลืมเลือนกันไปหมดแล้ว ทั้งๆที่พุทธเราถือว่าการได้ทำกฐินซักครั้ง เป็นบุญอันสูงสุด

นี่..เป็นเพราะชาวเราไม่เข้าใจคำว่ากฐิน เราไม่รู้ว่ากฐินคืออะไร

กฐินในความหมายของชาวเราที่ว่าตามๆกันมา คือฤดูแจกซองเพื่อหาเงินเข้าวัด

วัดต่างๆชอบกฐิน เพราะผู้คนมาร่วมใส่ตังค์ลงซองคนละหนับสองหนับ ยอดตัวเลขมันเยอะดี

คำถามที่เป็นวลีระหว่างพระภิกษุด้วยกันคือ ปีนี้วัดท่านได้ยอดเท่าไหร่

หากยอดกระจอกหน่อย เจ้าของก็จะหน้าเสียที่สู้ยอดวัดอื่นไม่ได้

วัดแจกซองเรี่ยไรหาเงินทำกฐินเองนี่ มันผิดพระธรรมวินัยและอาบัติอย่างแรง แต่หมู่เราก็นิยมกัน

หมู่เราต่างทำบุญกันอย่างหน้ามืด อยากเป็นเจ้าภาพกฐินคนเดียว จองเป็นเจ้าภาพข้ามปีกันเลยทีเดียว

การทำบุญนี่ มันมีการทำบุญอย่างเปรตและอย่างปราชญ์

สมัยหนึ่ง เหล่าเปรตผู้หิวโหยและทรมานในภพภูมิที่ตนอยู่เสวย

ทั้งหิวและโหย ร้อนไฟแห่งบาปที่เผาเฉือน หันซ้ายหันขวา จะไขว่คว้าอาหารอะไรเพื่อกายนี้ก็ไม่ได้

บ้างกินขี้กินน้ำเน่าน้ำเหลืองที่พุพอง ทั้งที่อยู่ที่สัญจรก็หนาวเหน็บไร้คลุมบัง

เหล่าเปรตระลึกได้ว่าที่รับกรรมเช่นนี้ เพราะไม่ค่อยได้ทำบุญทำกุศล ไม่ค่อยให้ทาน ให้ตนเป็นคนมีศีล

ความทุกข์ที่แสนทุรนทุรายที่ถาโถมในอัตภาพภพภูมิที่เสวย มันสุดจะทนไหว

เห็นเหล่าเทวาวรรณสูง มีความเป็นทิพย์อยู่กินสบาย ไม่เร่าร้อนโหยหิว ผิวพรรณสวยงามและมีทิพย์วิมานประจำกายพร้อมนางรับใช้

เหล่าเปรตส่วนใหญ่น้อมใจอธิฐาน หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะนานแค่ไหนก็แล้วแต่

จะขอทำบุญทำทานอย่างไม่รู้จบ ภพแห่งความเป็นเปรตทุกข์หนักแท้ๆ พ้นวิบากแห่งเปรตเมื่อใหร่ ขอได้ทำบุญๆๆๆๆๆ

นี่..คนบ้าบุญที่มีภูมิมาจากความเป็นเปรตนี่เยอะมากเหมือนกัน พวกนี้นี่ ขอให้รู้ข่าวบุญเหอะ ไกลแค่ไหนลำบากอย่างไร ก็จะดั้นด้นไปทำ

แต่เป็นการทำอย่างงมงายไม่มีสมองคิด ไม่ปฏิบัติไม่อบรมจิต แม้ธรรมมันก็ไม่ฟัง แม้ฟังมันก็ฟังไม่รู้เรื่อง

หลอกง่าย เชื่อง่าย ไร้ปัญญาขอแค่ได้ทำบุญ คิดแค่ว่า การทำบุญ จะทำให้ตนเองนั้น มีความเป็นอยู่ที่ดี รวย ถูกหวย โชคดีและจะสบายหายเจ็บหายป่วยหายไข้

นี่..เหล่าเปรตเขาทำบุญกันอย่างนี้ เขาทำบุญเพื่อแลกเปลี่ยนภพภูมิ ทำบุญเพื่อแลกเปลี่ยนความสุขสบาย

ทำบุญเพื่อแลกเปลี่ยนอะไรก็ได้ เพื่อให้ตนเองนั้นไปสู่สิ่งที่ดีด้วยความงมงาย

กฐินเป็นหนึ่งในเป้าหมายแห่งบุญ ที่พวกเขาเฝ้ารอขอเป็นเจ้าภาพซักครั้งในชีวิต

บางที่ถึงกับทะเลาะกัน เคลืองกันด้วยเหตุแห่งผู้อื่นมาร่วมเป็นเจ้าภาพ

พวกเขาเข้าใจกันว่า กฐินคือการรวบรวมซองถวายเงิน เอาไตรจีวรสำเร็จมาเป็นสมมุติ ว่ามันล่องลอยมาจากฟากฟ้า

จริงๆเจตนาเช่นนี้มันเป็นผ้าป่า ที่เหล่าสงฆ์ได้พบเจอผ้าแล้วทำการโยนิโสก่อนนำมาใช้

แต่ยุคนี้ เราเอามาเป็นสมมุติการทำกฐินเพื่อหาตังค์กัน

ทั้งๆที่กฐินความหมายก็คือ การสะดึงผ้า เอาผ้ามาสะดึงหรือขึงขึ้นมาแล้วทำการเย็บ ในที่นี้คือเย็บเป็นจีวรมอบให้แก่ภิกษุสงฆ์ผืนนึง องค์เดียว

ชาวบ้านที่ไม่ได้มา ต่างก็ฝากอาหาร ปัจจัยต่างๆมาร่วมด้วยในงานกฐิน

ยุคนี้แหละมั้งจึงเป็นการฝากเงินใส่ซองมาแทน เรียกได้ว่าเอาแต่ตังค์เอาแต่ปัจจัย ผ้าไม่ต้องเย็บ

เอาแค่ชื่อการสะดึงผ้าหรือกฐินมาหากินและเชื่อว่า นี่แหละคือการทำกฐินที่เป็นบุญหนักหนาตามตำราเขาว่า

ที่นี่เองเย็บผ้าจีวรกันทุกปี เย็บกันในหมู่พี่ๆน้องๆอย่างนี้มาเป็นสิบปี

ไม่ได้มีใครมาชี้ ไม่ได้มีใครมาบอก มันเป็นธรรมชาติแบบสัญชาติญานว่าให้ทำเช่นนี้แบบนี้

สมัยก่อนที่นี่ไม่ได้ทำธุระกรรมอะไร เหล่าน้องๆพี่ๆมาช่วยกันสะดึงและเย็บให้ มาร่วมทานอาหาร ฟังธรรม มีอยู่กันแค่นี้

ไม่ได้มีซองแจก หาตังค์จากการทำกฐิน ข้าอยู่คนเดียวไม่ต้องใช้ตังค์อะไรอยู่แล้ว ไม่ไปไหนไม่อะไรกับใครทั้งนั้น

เดี๋ยวนี้มีการสร้างองค์พระพุทธะ พวกเรามาสะดึงผ้าทำกฐิน ก็มีการร่วมบุญนำเงินใส่ซองเพื่อมาร่วมสร้างพระ

เงินทั้งหลายเป็นเงินสร้างพระ เป็นค่าหิน ปูน ทราย เหล็ก ที่จะนำมาก่อเป็นองค์พระ

เมื่อเรามาร่วมทำกฐินที่นี่ เราจึงได้ทำกฐินอย่างเต็มความภาคภูมิ ที่ได้ทำกฐินที่เป็นกฐินจริงๆ คือการสะดึงผ้า

ร่วมสะดึงผ้า แล้วถวายปัจจัยจากหลากทิศเพื่อสร้างองค์พระสถิตย์ไว้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

กฐินนี้ ก็เป็นกฐินที่สมบรูณ์ ได้เย็บผ้า ร่วมขนหินขนทราย ถวายปัจจัยสร้างองค์พระ ฟังธรรมและพบปะเพื่อนทางธรรม

ความอิ่มอกอิ่มใจที่ไร้ขอบเขตจะบังเกิดขึ้นในใจเรา

อีกหน่อยการสะดึงผ้า ที่เรียกว่า การทำกฐินจริงๆ จะกลับมาสู่ชาวพุทธไทยเราอีกครั้ง

การแพร่หลายจะมีมากขึ้น ทำความเข้าใจในกฐินได้ตรงขึ้น ผู้คนก็สมัครสมานอิ่มบุญกันมากขึ้น

ทิศทางแห่งปัญญา ที่ไม่งมงายกับการกระทำด้วยความไม่รู้ มีความกระจ่างขึ้น

อีกสองวัน ที่บุญญพลัง จะนำผ้ามาเย็บ มาย้อม และถวายมอบให้แก่ภิกษุสงฆ์ด้วยความปลื้มปิติใจ ที่ได้ร่วมกฐินด้วยสองมือเรา

อยากทำกฐินที่เป็นกฐินซักครั้งในหมู่พุทธเรา อีกสองวันเจอกันก่อนที่จะจากกันและไม่ได้เจอะเจอกันอีกเลย..!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 21 ตุลาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง