จอมหลอก

****** “จอมหลอก” ******

วันนี้เช้าวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม ข้าตื่นขึ้นมาทำสมาธิตามปกติ การทำสมาธิ

มันทำให้จิตเราได้สอดส่องลงไปในเหตุและปัจจัยแห่งผู้คน

ความสงบนี่ มันจะทำให้เกิดการปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ เแป็นการปรุงแต่งไปตามภูมิปัญญา ที่มีบันทึกมา จากตนเองบ้าง จากผู้อื่นบ้าง

ข้านี่..ทำสมาธิมานาน เอาจริงเอาจังกับการทำสมาธิ ดูเป็นคนติดสมาธิ

ในสมาธิ มันมีเรื่องราวมากมาย ที่ทำให้ข้านี่ เฝ้าติดตาม มันดูมีความสุข ในการตามรู้นั่นรู้นี่

ภาวะรู้อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เจ้าของทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของผู้คน

เหล่าผี เหล่าวิญญานนั่นก็คือ ความสว่างโพลนแจ้งแห่งใจ ในขั้นธรรมปิติ

ภาวะจิตขั้นนี้ จะเกิดความแจ้งสว่างภายใน ใจเจ้าของเกิดความอิ่มสว่างจ้าไปทั่ว

อายตนะนอกทั้งหลายดับ จิตหดตัวเข้าสู่ความว่างเปล่าแห่งแสงสว่าง มันสว่างแบบเจ้าของตกลงไปในทะเลน้ำนมนั่นเลยทีเดียว

ในภาวะนี้ หากเจ้าของปราถนาตรึกอะไรด้วยสติและสัมปชัญญะ เช่น เหล่าเทวา พรหม หรือผีวิญญานต่างๆ ที่เจ้าของปรารถนาจะติดต่อด้วย

ภาวะเช่นนี้ ภาพและเสียงจะปรากฏ แม้แต่เรื่องอดีตต่างๆ เจ้าของก็สามารถระลึกได้ จากจุดนี้เช่นกัน มากน้อยว่ากันไปตามภูมิวาสนา

ปัญหาก็คือ…ภาวะเช่นนี้ เราบังคับให้เกิดไม่ได้ จะให้เป็นทุกครั้งก็ไม่ได้ นานๆจะเกิดซักครั้ง

ความพร้อมแห่งธาตุและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ การอยู่วิเวกสันโดษนี่เป็นองค์ประกอบหลัก

หากข้าเข้าถ้ำหรือป่าบ่อยๆนานๆ การเกิดขึ้นแห่งโอภาสนี้ จะมีขึ้นได้เป็นบางครั้ง

การต่อเนื่องของกำลังสมาธิที่ปฏิบัติ ความเบาบางแห่งผัสสะผู้คน การอยู่ง่ายกินง่าย นอนง่าย ที่เรียกว่า ธุดงค์

จะทำให้มีโอกาศเปิดภวังค์โอภาสแสงสว่างเกิดขึ้นภายในใจ

ตรงนี้..ไม่ใช่การบรรลุมรรผลใดๆ ไม่ใช่เกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ปฏิบัติ พระอริยะเจ้าเห็นการเกิดภาวะอาการเช่นนี้ เป็นธรรมดา

การเข้าไปยึดและเข้าใจว่านี่เป็นของดี เป็นสิ่งวิเศษสำหรับเจ้าของ โอภาสแห่งแสงสว่างที่เกิดนี้ มันก็จะเป็น อุปกิเลส..

ทีนี้..ที่ข้าจะกล่าวถึงก็คือ เรามักจะโดนหลอกจากผู้อวดตน

บางคนนี่ ทำตัวเป็นผู้รู้ทุกเรื่อง ชอบทำนายทายทักคนนั้นคนนี้ รู้เรื่องราวในอดีตว่าคนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น

ทำตัวเป็นนักสมาธิ หลอกลวงและโกหกคนด้วยการทึกทักเอา

คุยโตโอ้อวดว่าได้นั่นได้นี่ สอนชี้เรื่องจิตใครไม่เป็นหรอก แต่เสือกรู้ทุกอย่าง

ทำเป็นนักสมาธิรู้นั่นรู้นี่ ได้ขั้นนั้นได้ขั้นนี่ โอ่ว่าเป็นผู้สะสมบารมีมาล้น 30 ทัศน์

เป็นพระโพธิสัตว์กลับมาเกิด รู้หมดคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี กูดีเลิศอยู่ผู้เดียว

ขู่คนไม่รู้ด้วยวาทะแห่งตน จะเกิดอย่างนั้นจะเกิดอย่างนี้ ทำตัวเป็นพ่อค้าคนกลางติดต่อกับเหล่าผี วิญญานและเทวดาได้

คนโดนหลอกนี่ มันก็โง่อยู่แล้วในเรื่องจิต ความโง่นี่ไม่เกี่ยวว่า จะเป็น ด๊อกเตอร์ เป็นหมอ เป็นแพทย์ เภสัช รึทนายความ วิศวะ

ยิ่งเรียนสูงจบดี ไม่น่าเชื่อว่าโง่ให้เขาหลอกกันอยู่ได้

ตราบใดที่ยังคลุกเคล้าด้วยผู้คน ยังนอนล่อเมียชักว่าวยิ๊กๆยามจิตผัสสะ

ยังโลภ โกรธ หลง อาฆาตเพ่งโทษผู้คนอยู่ไม่ขาด ชอบแก้ตัวเถไปเรื่อยในสิ่งที่ตนเองพูดและทำหากเขาถามและจับได้

เป็นเพศฆราวาสที่ยังดิ้นเถือกไปกับเตียง ไม่ยับยั้งชั่งใจในอาหาร การอยู่หลับนอนสืบพันธุ์และระแวดระวังภัย

คนฉลาด…ย่อมไม่คาดหวังอะไรกับบุรุษเช่นนี้ได้

แต่สำหรับคนโง่ มันจะจริง ใช่ เออๆกูก็ว่า ด้วยคิดว่า คนชั่วช้าเหล่านี้ เป็นผู้นำเขาทางจิตและวิญญาญ

การทำบุญทำทาน…โจรมันก็ทำบุญได้ไม่ใช่เรื่องแปลก

การพูดดีพูดเพราะ…โจรมันก็ทำได้

การทำสมาธิ ปฏิบัติธรรมดูน่าเชื่อถือ…โจรมันก็ทำได้

การแสดงออกให้ดูดี น่าเคารพ น่าเชื่อถือ…โจรมันก็ทำได้

ความดีทั้งหลาย…โจรมันก็ทำได้

โกนหัวบวช ดูสงบ นิ่ง น่าศรัทธา…โจรมันก็ทำได้

แต่สิ่งที่โจรมันทำไม่ได้และแยกแยะความเป็นโจรกับคนดีๆก็คือ

โจรมันมีใจที่ไม่ทำชั่วไม่ได้ ไม่ทำบาปก็ไม่ได้ ไม่เพ่งโทษก็ไม่ได้ ปกปิดแค่ไหน ไม่นานเท่าไหร่ หางแห่งความเหี้ยมันก็โผล่ออกมาให้เห็น

เป็นแต่เพียงว่า เราผู้หลงศรัทธาทั้งหลายแหกตาขึ้นมามองเห็น โจรจอมหลอกลวง ที่มันเผยหางออกมาให้เห็นได้บ้างรึเปล่าเท่านั้น

หรือตาฟ้าฟางบอดมืดมองไม่เห็นห่าอะไรทั้งๆที่มันก็แสดงเท็จ

เอามือคลำๆไปโดนเกล็ดนึกว่านี่เป็นมังกร

เอาเกล็ดเหี้ยทึกทักว่ามันเป็นเกล็ดมังกร มันก็ได้มังกรที่ซ่อนเหี้ยเอาสีมังกรมาฉาบทาปกปิดไว้..!!

นี่…หลายคนกำลังโดยเหี้ยถากหัวห่มฝาด เหี้ยสีนมหัวดกดำ เหี้ยเคราดกห่มลายเสือและเหี้ยเผือกห่มขาว เหล่านี้

มันพ่นพิษและฝังเชื้อไวรัสด้วยการ “หลอก” ที่สำคัญ คนโดนหลอก มันเสือกเชื่องี่เง่าอย่างงมงายซะด้วย

เรา…เป็นหนึ่งในผู้โดนหลอกรึเปล่า ถ้าเปล่า….แกก็เชยแสนเชยที่ไม่โดน..!!

พระธรรมเทศนา โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 22 สิงหาคม 2559