เล่าเรื่องธุดงค์

เล่าเรื่องธุดงค์

643
0
แบ่งปัน

****** “เล่าเรื่องธุดงค์” ******

หวัดดีจ้าหวัดดี…

ข้าจะคุยเรื่องธุดงค์ให้ฟัง แต่จะอธิบายลงในนี้…

เมื่อวานได้คุยถึงเรื่องธุดงค์ วันนี้ข้าจะขยายต่อให้ฟัง

การธุดงค์นี่เป็นคุณต่อจิตใจ

คำว่าพระธุดงค์นี่ เราใช้เรียกชื่อพระที่ปฏิบัติตน เพื่อทวนใจ ในธุดงค์วัตร
อันอุกกฤตมีอยู่ 13 ข้อ

ที่จริงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอก

หากปราถนาที่จะทวนใจตนเองเพื่อความเห็นแจ้งทางด้านปัญญา

แต่ที่เราจะพูดนี่ เราจะพูดถึงการธุดง์อยู่รุกขมูล

หรือการเอาป่า ความวิเวกแห่งป่ามาเป็นสันโดษใจ

พระที่อยู่ตามป่านี่ คือเป็นป่าจริงๆ ไร้ผู้ไร้คน อย่างนี้นี่ เรียกพระธุดงค์

พระที่อาศัยป่าเป็นครั้งคราว เพื่อเข้าไปเจริญจิตนี่ อย่างนี้เรียก พระไปทำธุดงค์

มีพระที่เป็นสำนักเรียกพระป่า อย่างนี้เรียก พระป่าไม่ได้เรียกพระธุดงค์

ที่ศรีสวัสดิ์นี่ มีวัดเยอะแยะ ไม่ได้เรียกว่าวัดป่าวัดอะไรหรอก

มีทีวี ไฟฟ้า เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้ากันทุกวัด

ไม่ต่างอะไรกับวัดเมือง

ฉะนั้นเชื่อถือไม่ได้ ในเรื่องพระป่าจะเป็นพระปฏิบัติ ตามที่ชาวบ้านเข้าใจ

กิเลสยังเต็มหัวใจ ไม่ได้บวชมาขัดเกลาให้ออกเบาบางไปจากใจอะไรเลย

เรียกพวกนี้ว่าพระเถื่อนดีกว่า ธรรมห่าอะไรก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกะเขาหรอก

ขี้เกียจ กินนอน ไม่รู้ทำอะไร

วันๆ คอยชะเง้อคอ เมื่อไหร่จะมีโยมมาให้แดก ว่ากันถึงธุดงค์ก่อนข้าจะเจอตีนพระเถื่อนดีกว่า

สมัยข้าธุดงค์

ข้าก็เดินไปทางต้นน้ำแม่ปลาสร้อย แรกโน่นสมัยแรกๆ เคยไปทางน้ำตกทีลอซู ไปแบบงงๆ มั่วๆ

เคยเจอช้างอย่างจั๋งหนับ ระยะประชิด ตกใจนิ่งตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก

ช้างก็ทำอะไรไม่ถูก มันกางหูเอางวงอมไว้ในปาก วิ่งเข้าใส่

แต่ข้ายืนนิ่ง… ที่นิ่งนี่ ไม่ใช่ไม่กลัว เยี่ยวแตกรดสบงไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ทำอะไรไม่ถูก ไปไหนไม่ได้ นิ่งตรึงอยู่กะที่

ช้างมันตกใจที่เจอกัน มันร้องแป๊นน วิ่งเข้าใส่

มันวิ่งแล้วมาหยุดกึ๊กตรงหน้าห่างสองวา

ทำท่าทางหันรีหันขวาง ก้าวถอยหลังไปหน้าสามสี่ที แล้วถอยห่างออกไป

ซักพักก็วิ่งร้องแป๊นน เข้ามาอีก วิ่งมาหยุดกึ๊กที่เดิมห่างสองวาอีก

ข้านี่ ไม่รู้ไม่ชี้หรอก ข้าสลบยืนใจลีบไปเรียบร้อยแล้ว

มันหันรีหันขวางทำท่ากระทืบไม่กระทืบดี

แล้วมันก็ค่อยๆ ถอยหลังร้องแป๊นน มองอย่างเอาเรื่อง

ข้านี่นิ่งสงบ เพราะเกร็งขยับไม่ได้ แล้วช้างก็ถอยจากไป

ช้างไปพักใหญ่ ข้าก็ยังยืนนิ่งอยู่ มันนิ่งเพราะตกใจช๊อกน่ะ

พอช้างไปก็ทรุดนั่งลงกับพื้น ใจหายใจคว่ำกับสิ่งที่เกิด

แต่เมื่อมาพิจารณามันก็เห็นชัดว่า…

ช้างป่า มันไม่ได้มีอันตรายอะไรกับใคร ที่มันพุ่งเข้าใส่น่ะมันขู่ด้วยความตกใจ

เมื่อเรานิ่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้แสดงออกอะไร มันก็ชักไม่แน่ใจ ว่าสิ่งที่มันขู่ จะเป็นอัตรายต่อมันไหม

มันแค่แสดงอำนาจถิ่นที่มันหากิน และไม่แน่ใจผู้บุกรุก

ถ้าหากเป็นช้างไม่ตกมันนี่ หากเราตั้งมั่นได้ จะไม่เป็นไร มันจะล่าถอยไปเอง

แต่หากเป็นช้างตกมันนี่ ตัวใครตัวมันเหอะ วิ่งน้ำบานเอาไว้ก่อน

นี่..การธุดงค์นี่ มันทำให้เราเผชิญอะไรที่มันคาดไม่ถึง

และสิ่งที่เผชิญ มันทำให้เราเกิดการวินิจฉัยอะไรได้

เพราะการเผชิญครั้งนั้น ทำให้ข้าอยู่ป่าโดยไม่ค่อยกลัวช้าง

เพราะเข้าใจธรรมชาติของช้าง

การเข้าป่าธุดงค์ในครั้งนั้น ข้าได้เจอพระที่ธุดงค์อยู่กับป่า

ท่านบอกว่า การธุดงค์เข้าป่านี่ ไม่ต้องเอาอะไรมาบรรเทากิเลสตน

เรามาตาย ไม่ใช่มาเที่ยวป่า ท่านเองเท่าที่เห็นก็มี ไตรจีวร บาตร มีอยู่แค่นี้

ไม่มีรองเท้า ไม่มีไฟ ไม่มีมีด ไม่มีอะไรทั้งนั้น

ท่านบอกว่า หากมาธุดงค์แล้วยังห่วงนั่นห่วงนี่ กลัวกายไม่สบาย

อย่าเข้ามาฝึกจิตให้มันเสียเวลา..!!

กลัวไม่มีกิน ไม่มีมุ้ง กลัวยุงกบัวแมลง ไม่มีที่นอน ไม่มีสบู่ ยาสีฟัน เยอะแยะ

ยังกลัว..จึงต้องเตรียมนั่นนู่นี่ เพื่อได้ชื่อว่ามาธุดงค์

มันก็ไม่ผิดหรอก ท่านบอก..

แต่ควรอายกระรอกมันบ้าง ที่มันอยู่ป่าโดยไม่มีอะไรเลย มันก็ไม่ตายนี่

ข้าเข้าใจตรงนี้ เวลาข้าถือธุดงค์วัตร ปลีกวิเวก

ข้าจึงมีแต่ย่ามใส่บาตรลูกเดียว ไตรจีวรชุดเดียว

เดินเข้าป่า ไม่ใส่รองเท้า ไปเช่นนี้เสมอ โดยไม่มีอะไร

แต่ข้าเข้าป่าไปครั้งละไม่นาน เจ็ดวัน สิบห้าวัน หรือนานหน่อย ยี่สิบวัน

อาศัยใบไม้บ้าง เห็ดบ้าง ผลไม้ตามป่าบ้าง พอประทังชีพ

ถ้าใกล้บ้านคนก็บิณฑบาตร

แต่การธุดงค์ของข้านี่ ห่างจากผู้คนเป็นอันดับแรก

ผู้คนนี่แหละ จะทำให้การธุดงค์แตก และมันเบาบางไปจากมรรคผล

เราเข้าป่าเพื่อไปหาความรู้และปัญญาอันเกิดจากสมาธิ

เราไม่ได้เข้าป่าเพื่อไปพักไปเดินเล่นกินลมชมวิว และหาชื่อเสียง

ธุดงค์ก็คือ ธุดงค์

หากไม่เข้าใจการธุดงค์ มันก็จะเสียเวลาการธุดงค์ ที่อุตส่าห์ได้ทำๆ กันมา

ที่นี่ น้องๆ ที่บวชพระ ข้าให้ขึ้นไปอยู่หลังเขาโน่น

ไปนอนไปอยู่คนเดียวนี่.. ประเสริฐ

ทำให้ใจมันชินกับการอยู่คนเดียว

วันหนึ่ง.. เราก็ไปคนเดียว รับผลดีร้ายคนเดียว ไปสวรรค์นิพพานและนรกคนเดียว

ฝึกห่างๆ หมู่ไว้น่ะมันดี

…ธุดงค์อวดก็มี

..ธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ก็มี

..ธุดงค์เพื่อแสวงหาสัจธรรมก็มี

มันอยู่ที่ใจเรา ว่าจะเลือกไปในแนวทางทิศใดในการธุดงค์

เช้านี้ ขอสวัสดี…!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี